ปัจจัยในการวิเคราะห์ทำเลที่ตั้งของธุรกิจ
ลักษณะประชากร
โดยทำการศึกษาในเรื่องต่างๆ เช่น เพศ เชื้อชาติ ศาสนา การกระจายตัวโดยทั่วไปและผู้ที่คาดว่าจะเป็นลูกค้ามีการจัดกลุ่มอายุเท่าไร เพศใด? หรือในบริเวณนั้นมีคนโสด วัยรุ่น และครัวเรือนที่อยู่เป็นครอบครัวจำนวนเท่าใด? เชื้อชาติ ศาสนาใด มีผลดีหรือ ผลเสียต่อธุรกิจที่เราตั้งอยู่หรือเปล่า ประชากรเหล่านั้นประกอบอาชีพอะไร เป็นต้น ทั้งนี้เพื่อเป็นแนวทางในการคาดคะเนยอดขายสินค้า เพื่อนำมาพิจารณาว่าทำเลนั้นมีผลต่อยอดขายสินค้าหรือบริการมากน้อยเพียงใด
ในระยะเริ่มแรกควรที่จะทราบจำนวนที่แน่นอนของประชากรของที่อยู่ในพื้นที่ย่านนั้น
โดยใช้วิธีแยกพิจารณารายละเอียดดังนี้
1. เพศ พิจารณาว่าประเภทในการประกอบการในลักษณะใด เช่น สปา สถานเสริมความงาม ร้านเสริมสวย สถานที่ออกกำลังกาย ควรเลือกทำเลอยู่ในย่านที่มีเพศหญิงอาศัยอยู่มาก
ทั้งนี้ควรพิจารณาด้วยว่าอำนาจซื้อหรือรายได้ของลูกค้ามากหรือน้อยเพียงใดอาจพิจารณาจากอาชีพ เป็นหลัก ส่วนร้านค้าที่เกี่ยวข้องกับเครื่องยนต์ กลไกหรือ อู่ซ่อมรถ ร้านเช่าพระเครื่อง ควรเลือกทำเลอยู่ในย่านที่มีเพศชายอาศัยอยู่ เป็นต้น ทั้งนี้ในการพิจารณาถือว่ายากมากเพราะทั้งเพศชายและ เพศหญิงอยู่กันเป็นครอบครัว
2. เชื้อชาติ การเลือกทำเลที่ตั้งของธุรกิจค้าปลีกประเภทร้านค้าปลีกถ้าพิจารณาจาก
เชื้อชาติเป็นเกณฑ์นั้นควร ศึกษารายละเอียดให้เข้าใจถึงรูปแบบการดำเนินชีวิตหรือวิถีชีวิตของแต่ละชาติเช่นถ้าเราต้องการจำหน่ายสินค้าที่เป็นเครื่องเซ่นไหว้สักการะตามประเพณีจีนที่ตั้งของธุรกิจค้าปลีกขนาดย่อมประเภทร้านค้าปลีกควรอยู่ในย่านของคนเชื้อสายจีน เป็นต้น
3. ศาสนา ธรรมชาติของมนุษย์ย่อมมีความศรัทธา ความเชื่อ ตลอดจนมีเครื่องยึดเหนี่ยวทางจิตใจ
ความเชื่อนี้เองทำให้ร้านค้าปลีกต้องทราบว่ากลุ่มลูกค้าเป้าหมาย มีแนวความคิดเป็นอย่างไรยอมรับหรือต่อต้าน ร้านค้าปลีกที่เรากำลังดำเนินธุรกิจอยู่ เช่นไม่ขายผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับสุกรในย่านที่พักอาศัยของชุมชนชาวอิสลาม จะถูกต่อต้านในทางตรงกันข้ามหากเราขายผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับไก่จะดำเนินไปได้ด้วยดี เป็นต้น
4. การกระจายตัวและความหนาแน่นของประชากร
เป้าหมายของการพิจารณาการกระจายตัวและความหนาแน่นของประชากรก็เพื่อเป็นการคาดคะเนยอดขายสินค้าที่จะเกิดขึ้นเพื่อนำมาประกอบการพิจารณาว่าในทำเลนั้น ๆ ควรจะมียอดขายเท่าใด ในขั้นแรกควรจะต้องทราบจำนวนที่แน่นอนของครัวเรือนในบริเวณหรือย่านที่ต้องประกอบการธุรกิจนั้น และเมื่อทราบจำนวนดังกล่าวแล้วควรพิจารณาถึงแนวโน้มในอนาคตว่าการเปลี่ยนแปลงจำนวนประชากรในบริเวณดังกล่าวว่า มีแนวโน้มการเพิ่มขึ้นหรือลดลงทั้งนี้อาจพิจารณาได้จากจำนวนสิ่งอำนวยความสะดวก สาธารณูปโภค ตลอดจนอาคารบ้านเรือนในบริเวณที่ประชากรอาศัยอยู่นั้นมีการเพิ่มขึ้นหรือลดลง ถ้าหากเพิ่มขึ้นแสดงว่าความหนาแน่นประชากรมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น ในทางตรงกันข้ามถ้าหากไม่มีการเพิ่มขึ้นของสิ่งปลูกสร้าง แสดงว่าประชากรมีแนวโน้มเท่าเดิม หรือลดลง
การศึกษาลักษณะบางประการของประชากรว่าเป็นกลุ่มเป้าหมายของธุรกิจร้านค้าที่เราประกอบการอยู่ เช่น คนเชื้อสายจีน กรรมกรหรือผู้ใช้แรงงาน เป็นต้น เพราะถ้าหากไม่เป็นกลุ่มเป้าหมาย การเลือกทำเลจะไม่เกิดผลดีแก่ธุรกิจและ พิจารณาอีกว่าแนวโน้มของประชากรในบริเวณที่ผู้ประกอบธุรกิจค้าอยู่นั้นมีการเปลี่ยนแปลงด้านต่าง ๆ เช่น ค่านิยม แนวคิด ทัศนคติ ความเชื่อไปในทางใด การศึกษาเมืองอย่างรอบคอบจะทำให้ทราบว่าประชากรกำลังเพิ่มขึ้นหรือลดลง จากการศึกษานี้ทำให้ผู้ประกอบการค้าปลีกสามารถกำหนดขอบเขตและการจัดกลุ่มอายุประชากรของชุมชนได้ เช่นกลุ่มอายุที่เป็นวัยรุ่นมีอัตราส่วนร้อยละที่สูงหรือต่ำ จะเป็นตัวกำหนดรูปแบบของธุรกิจ สินค้าและบริการตลอดจนปัจจัยที่มีความสำคัญต่อธุรกิจที่จำหน่ายสินค้าที่มุ่งลูกค้าวัยรุ่น
สำหรับธุรกิจประเภทหาบเร่แผงลอยนั้น ทำเลที่ตั้งเป็นกระบวนการที่เคลื่อนไหวตลอดเวลาไม่หยุดอยู่กับที่โดยที่ไม่ได้สิ้นสุดเมื่อธุรกิจดำเนินงาน แต่จะมีความต่อเนื่องกันไปตลอดชีวิตของธุรกิจ เจ้าของธุรกิจจะต้องเลือกที่ตั้งให้เหมาะสม ซึ่งต้องสามารถตอบสนองลูกค้าที่เดินผ่านไปมา ทำเลที่ตั้งของธุรกิจที่ดีที่สุดจะส่งผลดีต่อธุรกิจซึ่งสามารถสะท้อนถึงสภาพแวดล้อมและสภาพของธุรกิจที่กำลังเปลี่ยนแปลงไป
บทความนี้เกิดจากการเขียนและส่งขึ้นมาสู่ระบบแบบอัตโนมัติ สมาคมฯไม่รับผิดชอบต่อบทความหรือข้อความใดๆ ทั้งสิ้น เพราะไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นความจริงหรือไม่ ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรอง และหากท่านพบเห็นข้อความใดที่ขัดต่อกฎหมายและศีลธรรม หรือทำให้เกิดความเสียหาย หรือละเมิดสิทธิใดๆ กรุณาแจ้งมาที่ ht.ro.apt@ecivres-bew เพื่อทีมงานจะได้ดำเนินการลบออกจากระบบในทันที