OpenSourceInitial

ผู้เขียน : OpenSourceInitial

อัพเดท: 12 ม.ค. 2009 08.17 น. บทความนี้มีผู้ชม: 482258 ครั้ง

ปัจจุบันองค์กรหลายแห่งในประเทศไทยมีการใช้โปรแกรม โอเพ่นซอร์ส เป็นเครื่องมือหลักในการดำเนินธุรกิจ และสามารถใช้งานได้ดี มีเสถีนรภาพสูง สิ่งนี้เป็นสิ่งยืนยันได้ว่า โปรแกรมโอเพ่นซอร์สเป็นทางเลือกที่เป็นไปได้ในเชิงธุรกิจ นอกจากนี้ปัจจุบันผู้ใช้ทั่วไปก็เริ่มเล็งเห็นความสำคัญในการใช้โอเพ่นซอร์สมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นโปรแกรมโอเพ่นซอร์สที่สามารถลงในวินโดว์ได้อย่าง OpenOffice.org ที่เริ่มมีการใช้อย่างแพร่หลาย หรือว่าเป็น โอเพ่นซอร์ส OS ตัวใหม่ที่ได้ความนิยมขณะนี้อน่าง Ubuntu


ตามไปดูโอเพ่นซอร์ส ที่ดิจิแลนด์ 1


          ม้จะทราบกันดีอยู่แล้วว่า การนำโปรแกรมโอเพ่นซอร์สมาใช้งานอย่างจริงจังนั้น มีประโยชน์ต่อองค์กรมากมายเพียงใด  แต่องค์กรหลายแห่งมักตั้งแง่ว่า แล้วโปรแกรมโอเพ่นซอร์สที่เราแนะนำไปก่อนหน้านั้นจะสามารถนำมาใช้งานในเชิง ธุรกิจได้มากน้อยเพียงใด ประสิทธิภาพของโปรแกรมจะเพียงพอต่อความต้องการขององค์ ปัญหาที่เกิดขึ้นตามมาคุ้มค่ากับการลงทุนหรือไม่ เหล่านี้เป็นความลังเลที่เกิดขึ้น เมื่อกำลังตัดสินใจว่าจะนำโอเพ่นซอร์สมาใช้กับองค์กร

          เพื่อตอกย้ำความมั่นใจว่า โปรแกรมโอเพ่นซอร์ส เป็นสิ่งที่สามารถนำมาใช้งานทดแทนซอฟต์แวร์ระบบปิด (Proprietary) ได้จริงในเชิงธุรกิจ บทความเปิดโลกโอเพ่นซอร์สตอนต่อไปนี้ จะเป็นการยกตัวอย่างกรณีศึกษาขององค์กรต่างๆในประเทศไทย ซึ่งนำโปรแกรมแกรมโอเพ่นซอร์สมาประยุกต์ใช้งานจริงในหลายๆ ส่วนงานขององค์กร มาดูกันครับว่า องค์กรแต่ละแห่งจะมีการใช้งานอย่างไรบ้าง ครั้งนี้เราจะมาเริ่มต้นกันที่ บริษัท ดิจิแลนด์ (ประเทศไทย) จำกัด
 
          บริษัท ดิจิแลนด์ (ประเทศไทย) จำกัด ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2536 ด้วยเงินทุนจดทะเบียนทั้งสิ้น 10 ล้านบาท โดยดำเนินกิจการเป็นบริษัทชั้นนำในระดับสากลในการบริการด้านเทคโนโลยี และการจัดการด้านข้อมูลข่าวสาร บริษัทฯ พยายามสร้างความพึงพอใจสูงสุด ให้แก่ลูกค้า ด้วยบริการที่ดีกว่า รวดเร็วกว่าและถูกกว่า เพื่อบรรลุถึงเป้าหมายดังกล่าวและขยายศักยภาพ เพื่อรองรับตลาดในด้าน เทคโนโลยีสารสนเทศที่กำลังขยายตัว บริษัท ดิจิแลนด์ (ประเทศไทย) จำกัด จึงเพิ่มทุนเป็น 60 ล้านบาท ในปี พ.ศ. 2542 และ 122 ล้านบาท ในเดือนมิถุนายน พ.ศ. 2544

          เช่นเดียวกับองค์กรขนาดใหญ่ทั่วไปคือต้องมีการนำระบบคอมพิวเตอร์และ ซอฟต์แวร์ต่างๆ เข้ามาใช้งาน นอกจากการลงทุนด้านฮาร์ดแวร์แล้ว แน่นอนว่าต้องมีค่าใช้จ่ายด้านซอฟต์แวร์เช่นกัน ซึ่งบริษัทจึงพยายามควบคุมและลดค่าใช้จ่ายด้านซอฟต์แวร์ส่วนนี้  ที่นับวันจะมีปริมาณสูงขึ้นตามพัฒนาการของซอฟต์แวร์และจำนวนผู้ใช้ที่เพิ่ม มากขึ้น  โซลูชันการแก้ปัญหาที่บริษัทนำมาใช้คือ การนำโปรแกรมโอเพ่นซอร์สต่างๆ เข้ามาใช้ทดแทนโปรแกรมระบบปิดงานภายในบริษัท โดยมีบริษัท Marvelic Engine เป็นที่ปรึกษาและคัดเลือกโปรแกรมโอเพ่นซอร์สมาใช้งานให้เหมาะสมกับส่วนงาน ต่างๆ ขององค์กร

          การนำโปรแกรมโอเพ่นซอร์สต่างๆ มาใช้งานในองค์กรนั้นของบริษัท ดิจิแลนด์นั้น บริษัทได้มีการวิเคราะห์ความต้องการและปัญหาด้านซอฟต์แวร์ที่บริษัทประสบ อยู่ จนในที่สุดบริษัทได้ข้อสรุปเบื้องต้นในการนำโซลูชันโอเพ่นซอร์สมาใช้งานใน องค์กร ประกอบด้วยโซลูชัน 3 ระบบได้แก่

1 ระบบอีเมล์
2 การหาโปรแกรมเข้ามาทดแทนโปรแกรม MS Office
3 การนำโซลูชันโอเพ่นซอร์สเข้ามาสร้างเว็บไซต์และระบบอินทราเน็ตของบริษัท

          ขณะที่ในส่วนของระบบปฏิบัติการบนเครื่องเดสก์ทอปนั้นทางดิจิแลนด์ยังคง ใช้ระบบปฏิบัติการวินโดสว์เหมือนเดิม เนื่องจากเป็นระบบปฏิบัติการที่แถมมาพร้อมกับเครื่องคอมพิวเตอร์อยู่แล้ว


บทความนี้เกิดจากการเขียนและส่งขึ้นมาสู่ระบบแบบอัตโนมัติ สมาคมฯไม่รับผิดชอบต่อบทความหรือข้อความใดๆ ทั้งสิ้น เพราะไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นความจริงหรือไม่ ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรอง และหากท่านพบเห็นข้อความใดที่ขัดต่อกฎหมายและศีลธรรม หรือทำให้เกิดความเสียหาย หรือละเมิดสิทธิใดๆ กรุณาแจ้งมาที่ ht.ro.apt@ecivres-bew เพื่อทีมงานจะได้ดำเนินการลบออกจากระบบในทันที