OpenSourceInitial

ผู้เขียน : OpenSourceInitial

อัพเดท: 12 ม.ค. 2009 08.17 น. บทความนี้มีผู้ชม: 482270 ครั้ง

ปัจจุบันองค์กรหลายแห่งในประเทศไทยมีการใช้โปรแกรม โอเพ่นซอร์ส เป็นเครื่องมือหลักในการดำเนินธุรกิจ และสามารถใช้งานได้ดี มีเสถีนรภาพสูง สิ่งนี้เป็นสิ่งยืนยันได้ว่า โปรแกรมโอเพ่นซอร์สเป็นทางเลือกที่เป็นไปได้ในเชิงธุรกิจ นอกจากนี้ปัจจุบันผู้ใช้ทั่วไปก็เริ่มเล็งเห็นความสำคัญในการใช้โอเพ่นซอร์สมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นโปรแกรมโอเพ่นซอร์สที่สามารถลงในวินโดว์ได้อย่าง OpenOffice.org ที่เริ่มมีการใช้อย่างแพร่หลาย หรือว่าเป็น โอเพ่นซอร์ส OS ตัวใหม่ที่ได้ความนิยมขณะนี้อน่าง Ubuntu


ตามไปดูโอเพ่นซอร์ส ที่ดิจิแลนด์ 2

 

1 ระบบเมล์
          แต่เดิมระบบอีเมล์ที่บริษัทดิจิแลนด์ใช้งานอยู่ ได้แก่ โซลูชันของ Lotus Note ซึ่งบริษัทได้เปลี่ยนจากโปรแกรม Lotus Note มาเป็นโปรแกรมโอเพ่นซอร์สเมล์เซิร์ฟเวอร์ที่ทำงานบนระบบปฏิบัติการ Linux และใช้โปรแกรม Thunderbird เป็นซอฟต์แวร์ Mail Client

          การปรับเปลี่ยนจาก Lotus Note (Domino Server/Client ) ไปสู่โปรแกรมโอเพ่นซอร์สนั้น สิ่งที่นำมาใช้พิจารณาในการปรับเปลี่ยนก็คือ เดิมบริษัทใช้ฟังก์ชันอะไรอยู่บ้าง และทำการศึกษาเปรียบเทียบว่ามีโซลูชันไหนใช้แทนได้บ้าง  ซึ่งจากที่วิเคราะห์ พบว่าดิจิแลนด์ไม่ได้ใช้ความสามารถของ Note Application Workflow

          ดังนั้น จึงมีการมองหาระบบเมล์เซิร์ฟเวอร์แบบโอเพ่นซอร์ส ซึ่งก็มีอยู่มากกมายหลายโปรแกรม แต่ปัจจัยหลักก็คือ เลือกโปรแกรมที่มีผู้ให้บริการเมื่อมีปัญหาได้ ซึ่งใช้งบประมาณในการจัดซื้อซอฟต์แวร์ใหม่เป็น Linux พร้อมติดตั้ง config ไปประมาณ 80,000 บาท

          ในส่วนของโปรแกรมอีเมล์บนเครื่องพีซีแต่ละเครื่อง ที่มีการปรับมาใช้โปรแกรม Thunderbird แทนโปรแกรม MS Outlook Express ที่มาพร้อมกับวินโดวส์ เพื่อลดปัญหาเกี่ยวกับไวรัสที่ Outlook Express เปราะบางกว่า เนื่องจากบริษัทเน้นเรื่องระบบความปลอดภัยของอีเมล์เป็นพิเศษ

          โดยการปรับเปลี่ยนระบบเมล์ขององค์กรไปสู่โปรแกรมโอเพ่นซอร์สนั้น ใช้เวลาเปลี่ยนไม่นานนัก  ซึ่งฝ่ายไอทีของบริษัท ทำหน้าที่เป็นหัวเรือใหญ่เรื่องการอบรมการใช้งานให้กับผู้ใช้ และสร้างไฟล์ email address book  ของเครื่องแต่ละเครื่องเพื่ออิมพอร์ตเข้า Thunderbird

2 โปรแกรม Microsoft Office

          อีกหนึ่งการนำโปรแกรมโอเพ่นซอร์สมาใช้งานในองค์กรของดิจิแลนด์ก็คือ การหาโปรแกรมเพื่อใช้งานแทนโปรแกรม MS Office โดยปัญหาหนึ่งที่ทำให้ดิจิแลนด์ต้องมองหาโซลูชันโอเพ่นซอร์สมาใช้งานภายใน องค์กรก็คือ การใช้ซอฟต์แวร์ที่ถูกลิขสิทธิ์  ประกอบกับช่วงนั้นเป็นช่วงที่โปรแกรม MS Office เปิดตัว MS Office XP คาบเกี่ยวกับ MS Office 2003 โดยดิจิแลนด์เพิ่งจะซื้อไลเซนส์ และอัพเกรดไลเซนส์เป็น  MS Office 2000 ได้ไม่นาน

          การปรับเปลี่ยนโปรแกรม MS Office ซึ่งเป็นโปรแกรมด้านเอกสารในส่วนงานอื่นๆ ของบริษัทจาก Microsoft Office เปลี่ยนมาใช้เป็น Office PlaDao หรือ Office TLE ซึ่งสามารถใช้งานทดแทนโปรแกรม MS Office ได้ ขณะที่ระบบคอมพิวเตอร์ในแผนบัญชียังคงใช้โปรแกรม MS Office เหมือนเดิม เนื่องจากมีจำนวนไลเซนส์เพียงพอต่อการใช้งานอยู่แล้ว

          โดยก่อนการปรับเปลี่ยนได้มีการวิเคราะห์ความเป็นไปได้ของการนำมาใช้งาน ด้วยการตรวจสอบระบบงานเอกสารงานเดิมของบริษัท พบว่าส่วนใหญ่แล้วจะเป็นการส่งไฟล์ใบเสนอราคาให้กับลูกค้าเป็นหลัก ไม่ได้มีการใช้งานเอกสารร่วมกัน ไม่มีการใช้ฟีเจอร์ SharePoint หรือความสามารถระดับสูงของ MS Office แต่อย่างใด

          โปรแกรมที่เลือกใช้งานก็คือ Office Pladao และ Office TLE ซึ่งพัฒนามาจากซอร์สโค้ดของ OpenOffice.0rg รองรับการใช้งานเอกสารภาษาไทย และมีขอบเขตความสามารถใช้งานทดแทน MS Office ได้เต็มความต้องการของผู้ใช้ 

          การเปลี่ยนจาก MS Office ไปสู่โปรแกรมโอเพ่นซอร์ส มีอุปสรรคค่อนข้างมาก เนื่องจากต้องปรับเปลี่ยนความเคยชินของผู้ใช้ แก้ปัญหาการใช้งาน และการจัดฝึกอบรม ใช้เวลาประมาณ 6 เดือน - 1 ปี กว่าทุกอย่างจะเข้ารูปเข้ารอย โดยปราศจากการต่อต้านผู้ใช้ และต้องทำหลายส่วนพร้อมๆ กัน เช่น  การฝึกอบรม , การให้บริการแก้
ปัญหาของฝ่าย MIS, ออกนโยบาย (Policy) จากผู้บริหาร และการเข้มงวดเรื่องลิขสิทธิ์

          ปัจจุบันแม้จะมี OpenOffice.org เวอร์ชันใหม่ออกมาให้ใช้งานได้ แต่สาเหตุที่ดิจิแลนด์ยังคงเลือกใช้ Office Pladao และ TLE ตัวเก่าอยู่ ทั้งนี้เนื่องจากเหตุผลด้านความคุ้นเคยของผู้ใช้ เพราะ OpenOffice.org มีเมนูคำสั่งที่แตกต่างออกไป และบริษัทก็ไม่มีความจำเป็นต้องใช้ความสามารถใหม่ๆ ของ OpenOffice.org แต่อย่างใด

3 เว็บไซต์และอินทราเน็ตขององค์กร 
          ในการนี้บริษัทได้นำโซลู ชันการจัดการเนื้อหาโอเพ่นซอร์สอย่าง Mambo CMS เข้ามาใช้พัฒนาเว็บไซต์ของ รวมทั้งพัฒนาระบบอินทราเน็ตในองค์กรด้วย จุดประสงค์ก็คือ เพื่อแก้ปัญหาอีเมล์ ที่เสียไปกับการส่งหากันเองภายในองค์กร ลดปริมาณข้อมูลที่แนบไปในเมล์ เช่น โปรโมรชันของฝ่ายขาย  ประกาศของฝ่ายบุคคล  หรือการแจกจ่ายคู่มือการใช้งานของฝ่ายไอที หากแนบไฟล์ pdf ขนาด 1MB  ให้แก่พนักงานทุกคน อาจต้องใช้พื้นที่ถึง 100MB และเสีย Traffic อินทอร์เน็ตไปโดยใช้เหตุ แต่หากเป็นการส่งผ่านระบบอินทราเน็ต ช่วยให้การสื่อสารในองค์กรสะดวกและรวดเร็วขึ้น

          โดยรายละเอียด ของเนื้อหาที่นำมาใช้ในระบบอินทราเน็ตขององค์กร ซึ่งนำ MAmbo มาพัฒนาประกอบด้วย
 
- Phonebook directory ได้แก่รายชื่อพนักงาน, เบอร์โทร ติดต่อภายใน , รูปพนักงาน แยกตามแผนก
- คู่มือการใช้งานระบบต่างๆ คู่มือพนักงาน
- เอกสารรายงานการขาย ซึ่งมีการกำหนดสิทธิ์ในการเข้าถึง
- ประกาศต่างๆ ของบริษัท
- ประกาศจากฝ่ายไอที , ฝ่ายขาย
- เว็บบอร์ดสำหรับพนักงาน
- ภาพกิจกรรม ต่างๆ


บทความนี้เกิดจากการเขียนและส่งขึ้นมาสู่ระบบแบบอัตโนมัติ สมาคมฯไม่รับผิดชอบต่อบทความหรือข้อความใดๆ ทั้งสิ้น เพราะไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นความจริงหรือไม่ ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรอง และหากท่านพบเห็นข้อความใดที่ขัดต่อกฎหมายและศีลธรรม หรือทำให้เกิดความเสียหาย หรือละเมิดสิทธิใดๆ กรุณาแจ้งมาที่ ht.ro.apt@ecivres-bew เพื่อทีมงานจะได้ดำเนินการลบออกจากระบบในทันที