คนคุณภาพ

ผู้เขียน : คนคุณภาพ

อัพเดท: 04 พ.ย. 2010 15.50 น. บทความนี้มีผู้ชม: 121167 ครั้ง

ก็กลับมาอีกครั้งตามคำเรียกร้องไม่รู้ว่าใครเรียกครับ แต่ก็จะมีเพิ่มมาเรื่อยๆนะครับ ก็อย่างไรก็ตามนะ ก็ช่วยกันเปิดอ่านหน่อยก็แล้วกันนะครับ
คนเขียนจะได้มีกำลังใจ
เชิญอ่านต่อกันได้เลยครับ


อันตรายจากฝาครอบชาไข่มุก

อันตราย ! ฝาครอบแก้วชาไข่มุก ... หยุดลมหายใจ

> ปุ๊ ! เสียงหลอดกาแฟอันโตกระแทกเจาะฝาครอบแก้วชาไข่มุก

> เศษฝาพลาสติกแผ่นกลมขนาดเท่าปลายหลอดตกลงสู่ก้นแก้ว

> ฉันดูดเครื่องดื่มสุดโปรดอย่างหิวกระหายและ

> กระดกแก้วกินน้ำแข็งจนเกลี้ยงตามความเคยชิน

> เมื่อจะทิ้งแก้วลงถังขยะ

> ฉันแปลกใจเล็กน้อยที่ไม่เห็นเศษฝาพลาสติกอยู่ในแก้วเหมือนทุกคราว

> แต่ก็ไม่ได้ใส่ใจอะไรมากนัก

> สักพัก รู้สึกเหมือนมีบางสิ่งลักษณะเป็นแผ่นบาง ๆ ติดอยู่ในคอ

> แม้จะพยายามล้วงและดื่มน้ำมาก ๆ เพื่อให้อาเจียน

> แต่สิ่งนั้นก็ไม่ยอมหลุดออกมา

> ฉันรู้สึกได้ถึงลมหายใจที่เริ่มติดขัด

> อาจารย์และเพื่อน ๆ จึงรีบพาส่งโรงพยาบาล

> เมื่อไปถึงโรงพยาบาล

> หลังจากรอหมออยู่เกือบสองชั่วโมง หมอก็ให้ลองกลืนน้ำดู

> ปรากฎว่ามีสิ่งแปลกปลอมติดอยู่จริง

> ตามด้วยการเอกซเรย์ ซึ่งสูญเปล่า เพราะไม่เห็นสิ่งแปลกปลอมนั้นเลย

> จึงตัดสินใจให้วางยาสลบเพื่อส่องกล้องตรวจหาต้นเหตุ

> ระหว่างนั้นฉันยังรู้สึกตัวดีอยู่ทุกอย่าง

> จนกระทั่งหลังวางยาสลบ

> ท่อส่องทางเดินอาหารขนาดใหญ่ประมาณท่อประปาขนาดเล็ก

> สอดจากปากผ่านลงไปตามทางเดินอาหาร

> แต่ไม่รู้ด้วยโชคร้ายของฉัน

> หรือด้วยความประมาทเลินเล่อของใคร

> แทนที่เจ้าท่อนี้จะเป็นอุปกรณ์ในการตรวจเพื่อช่วยชีวิตฉัน

> หลังการตรวจ

> มันกลับทำให้ฉันรู้สึกปวดแน่นหน้าอกและหลังอย่างสุดจะบรรยาย

> เมื่อฟื้นจากยาสลบ แม่บอกว่าฉันปากซีด ตัวเขียว และไข้ขึ้น

> ผิดกับเมื่อตอนก่อนส่องกล้องราวกับคนละคน

> จนแม่ใจหาย รีบตามหมอกลางดึก

> การกลืนแป้งเพื่อเอกซเรย์เริ่มขึ้น

> ผลปรากฎว่า หลอดอาหารทะลุ ต้องผ่าตัดด่วน

> แต่แม่ไม่มีเงิน อย่าว่าแต่ค่าผ่าตัดที่สูงลิบลิ่วของโรงพยาบาลเอกชนเลย

> แม้แต่ค่าตรวจทั้งหลายก่อนหน้านี้

> ที่เกินวงเงินการประกันอุบัติเหตุของนักศึกษา เพียงไม่กี่พันบาท

> แม่ก็ไม่มี  ทางโรงพยาบาลจึงขอยึดบัตรประชาชนของแม่ไว้

> เพื่อเป็นหลักประกันให้แม่หาเงินส่วนเกินมาชำระในภายหลัง

> หมอที่ส่องกล้องแนะนำให้ย้ายฉันไปโรงพยาบาลรัฐบาลที่เขาประจำอยู่

> แต่แม้จะเป็นโรงพยาบาลรัฐบาลก็ต้องคุยกันเรื่องค่าใช้จ่ายเช่นกัน

> แม่จึงวิ่งวุ่นติดต่อเรื่องใช้สวัสดิการบัตรประกันสุขภาพ 30 บาท

> กว่าจะเสร็จเรียบร้อยก็เกือบเที่ยง

> นั่นแหละฉันจึงได้รับการผ่าตัด  

> การผ่าตัดใช้เวลาเกือบ 4 ชั่วโมง

> เพราะรอยทะลุที่หลอดอาหารอยู่ใกล้ปอด

> น้ำย่อยจะไหลเข้าไปในปอดซึ่งอันตรายมาก

> หมอต้องผ่าตัดเปิดซี่โครงจากราวนมด้านซ้ายไปจนถึงสันหลังอีกข้าง

> แต่ถึงอย่างนั้น ก็ยังไม่สามารถซ่อมแผลได้หมด

> เพราะแผลในทางเดินอาหารเป็นทางยาว

> จากต้นคอถึงกระเพาะ ยาวถึง 30 เซนติเมตร

> สามวันหลังผ่าตัด ฉันลืมตาขึ้นมาพร้อมสายระโยงระยางเต็มตัว

> สายจากจมูกทั้งสองข้างเพื่อเอาน้ำย่อยในกระเพาะออกมา

> สายที่ไว้ดูด น้ำมูก น้ำลาย สายที่ต่อจากบริเวณซี่โครงที่ผ่าตัดเพื่อเอาเลือดจากแผลออกมา

> สายให้เลือด สายน้ำเกลือ

> สิบเอ็ดวันที่อยู่โรงพยาบาลเต็มไปด้วยความเจ็บปวด

> กินอาหารไม่ได้อยู่เป็นอาทิตย์

> ยิ่งเวลานอนจะรู้สึกทรมาน

> เพราะเจ็บที่บริเวณแผลผ่าตัดเป็นที่สุด

> หมอที่ส่องกล้อง ซึ่งช่วยหาหมอผ่าตัดให้

> มาสารภาพในภายหลัง ว่า...

> แผลในทางเดินอาหารที่ยาวเหยียด

> เกิดจากการส่องกล้องไปดันเอาเศษแผ่นพลาสติก

> ซึ่งติดอยู่ที่ระหว่างหลอดลมและหลอดอาหารให้ครูดบาดไปตลอดทางเดินอาหาร

> แต่อย่างไรเขาก็ติดต่อหาหมอผ่าตัดที่เชี่ยวชาญให้

> เ และเป็นความผิดพลาดท ี่เขาเองก็ไม่ได้ตั้งใจ

> เพราะมองไม่เห็นแผ่นพลาสติกแก้วที่ติดอยู่ที่หลอดลม/ หลอดอาหาร

> กรุณาช่วยส่งต่อเพื่อนๆ พี่ๆ

> เพื่อเตือนภัยคนที่เรารักและเป็นห่วงนะคะ กินชาไข่มุก แก้วต่อไป ระวังนะคะ

> แผ่นพลาสติกที่เจาะทะลุจากตัวแก้ว...

> อันตรายถึงชีวิตได้

> บอกลูกหลานด้วย

> โดยเฉพาะเด็ก ๆ ที่ชอบซื้อเครื่องดื่มทานเองค่ะ

> ฝาครอบแก้วที่ต้องเจาะรู...  ผู้ปกครองควรช่วยดูแล

บทความนี้เกิดจากการเขียนและส่งขึ้นมาสู่ระบบแบบอัตโนมัติ สมาคมฯไม่รับผิดชอบต่อบทความหรือข้อความใดๆ ทั้งสิ้น เพราะไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นความจริงหรือไม่ ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรอง และหากท่านพบเห็นข้อความใดที่ขัดต่อกฎหมายและศีลธรรม หรือทำให้เกิดความเสียหาย หรือละเมิดสิทธิใดๆ กรุณาแจ้งมาที่ ht.ro.apt@ecivres-bew เพื่อทีมงานจะได้ดำเนินการลบออกจากระบบในทันที