ตอนที่ 3: แนวคิดสู่ความสำเร็จของ TPM เป็นอย่างไร
ปัจจัยสู่ความสำเร็จของ TPM ที่จะก่อให้เกิดระบบการผลิตที่ให้ประสิทธิผลสูงที่สุดแก่โรงงานได้นั้นทางผู้เชี่ยวชาญของ JIPM ได้เขียนเป็นสมการไว้จะประกอบด้วย
TPM = การพัฒนาความคิดเบื้องต้นของTPM + การพัฒนาด้วยโปรแกรมของ TPM
(กลยุทธ์+กิจกรรม) + วิธีการและเทคนิคที่ใช้ในการดำเนินงาน
1.การพัฒนาความคิดเบื้องต้นของTPM
ก่อนที่จะนำ TPM เข้ามาใช้เราต้องให้ความรู้ความเข้าใจกับพนักงานทุกคนตั้งแต่ผู้บริหารระดับสูงจนถึงพนักงานปฏิบัติการระดับล่างสุดในองค์กรทำให้ความคิดเหล่านี้เกิดขึ้นในใจของทุกๆคนร่วมกันจนถึงขั้นอยากทำจึงจะทำให้การดำเนินกิจกรรมเป็นไปได้อย่างราบรื่นซึ่งประกอบด้วย
1. การสร้างความเข้มแข็งให้บริษัท มุ่งเน้นการกำจัดอุบัติเหตุ ของเสีย เครื่องจักรเสียให้เป็นศูนย์
2. การใช้ปรัชญาเชิงป้องกันด้วย PM (การบำรุงรักษาเชิงป้องกัน)CM(การบำรุงรักษาเชิงแก้ไขดัดแปลง)MP (การป้องกันการบำรุงรักษา)
3. พนักงานทุกคนมีส่วนร่วมจัดองค์กรเป็นกลุ่มย่อยแบบทับซ้อนอย่างเป็นระบบทำกิจกรรม AM โดยพนักงานปฏิบัติการ
4. ทำให้งานเดินตลอดเหมือนเป็นอัตโนมัติและเป็นโรงงานที่ใช้คนงานน้อย
5. ทำให้ทุกคนเข้าใจว่า TPM คืองานประจำของทุกๆคนที่ควรจะทำตามตำแหน่งหน้าที่ความรับผิดชอบแต่ขณะนี้มีบางอย่างยังไม่ได้ทำดังนั้นTPMจึงไม่ใช่งานเพิ่ม
6. เป้าหมายเดียวกันไม่จำเป็นต้องทำแบบเดียวกัน(คิดนอกกรอบ)
2.การพัฒนาโรงงานด้วยโปรแกรมของ TPM
เนื่องจากโรงงานจะมีปัญหาและอุปสรรคไม่แตกต่างกันมากนักการดำเนินกิจกรรมของ TPM จึงมีการออกแบบขั้นตอน วิธีการ ให้เหมาะสมกับปัญหาและอุปสรรคของโรงงานโดยจัดทำเป็นโปรแกรมสำเร็จไว้ให้เพื่อง่ายต่อการดำเนินงานประกอบด้วย
2.1 การบริหารเชิงกลยุทธ์
การทำสิ่งใหม่ๆที่ยังไม่คุ้นเคยหรือยังไม่เคยทำมาก่อนเป็นเรื่องยากสำหรับพนักงานดังนั้นจึงต้องมีการ
สร้างแรงจูงใจ ชี้แนะหรือนำทางให้พนักงานสามารถมองเห็นการดำเนินงานของ TPM ได้ง่ายขึ้นมิฉะนั้นพนักงานจะไม่ให้ความร่วมมือหรือเกิดการต่อต้านการทำกิจกรรมขึ้นมาซึ่งประกอบด้วย
1.การกำหนดนโยบายและเป้าหมายให้ชัดเจน
2.การวางแผนงานหลัก(Master Plan)ให้เห็นแนวทาง ขั้นตอนและระยะเวลาการดำเนินงานชัดเจน
3.การสร้างระบบส่งเสริมกิจกรรมเพื่อสนับสนุนให้เกิดความก้าวหน้าตามแผนงาน
4.นิยามการสูญเสียที่เกิดขึ้นในโรงงานทั้งหมดให้ชัดเจน
5.ใช้ 8 เสากิจกรรม(8 Pillar)ในการพัฒนา TPM ให้ประสบความสำเร็จ
6.พัฒนาความสามารถบุคลากรเพื่อยกระดับให้สูงขึ้นทุกๆคน
7.วัดผลกิจกรรมที่ทำแล้วก่อนที่จะขึ้นไปทำกิจกรรมในขั้นตอนต่อไป
2.2 การดำเนินกิจกรรม
เมื่อพนักงานทุกคนมีความรู้ความเข้าใจและมีจิตใจที่จะพัฒนายกระดับความสามารถของตนเองและหมู่คณะที่ทำงานร่วมกันเพื่อขจัดปัญหาและอุปสรรคในการทำงานของหมู่คณะและโรงงานให้หมดไปโดยเชื่อว่าปรัชญาของ TPM จะสามารถนำทางไปสู่ความสำเร็จได้ซึ่งประกอบด้วย
1.พนักงานทุกคนตั้งแต่ผู้บริหารระดับสูงลงมาถึงระดับปฏิบัติการต้องมีส่วนร่วมในการทำกิจกรรม
2.แต่ละเสากิจกรรมต้องดำเนินการพัฒนาตามขั้นตอน โดยเริ่มจากการค้นหาจุดบกพร่องและการ
สูญเสีย การแก้ไขและฟื้นฟูกลับสู่สภาพเดิม การปรับปรุงให้ดีขึ้น การบำรุงรักษาให้มีสมรรถนะ
พร้อมใช้งานตลอดเวลา การป้องกันล่วงหน้าไม่ให้เกิดปัญหาหรือเกิดซ้ำ แต่ละเสากิจกรรมมีระบบ
เชื่อมโยงสัมพันธ์กันและมีการปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง(Kaizen)
3.กิจกรรมที่ทำต้องมีการทดสอบเป็นขั้นตอน
4.กิจกรรมทุกขั้นตอนต้องได้รับการตรวจขั้นสุดท้ายโดยผู้บริหารระดับสูง
3.วิธีการและเทคนิคที่ใช้ในการดำเนินกิจกรรม
ปัญหาที่เกิดขึ้นจากการทำงานในปัจจุบัน การที่จะแก้ไขปัญหาหรือปรับปรุงการทำงานของคนและเครื่องจักรอุปกรณ์ให้สำเร็จลุล่วงไปได้นั้นถ้ามีเครื่องมือหรือวิธีการใหม่ๆช่วยก็จะทำให้เราสามารถมองเห็นปัญหาและหาแนวทางแก้ไขหรือปรับปรุงการทำงานได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพมากขึ้น
3.1 เครื่องมือที่ใช้ในการบริหารและส่งเสริมการทำกิจกรรม
เครื่องมือที่นิยมนำมาใช้ในการบริหารและส่งเสริมการทำกิจกรรม TPM ให้ประสบความสำเร็จ
ประกอบด้วย
- Policy Management / P D C A
- C A P Do
- Overlapping Small Group
- Step Implementation
- Activity Board,OPL,Metting
3.2 วิธีการและเทคนิคที่ใช้ในการแก้ปัญหาและหาทางออกให้
วิธีการและเทคนิคที่นิยมนำมาใช้ในการทำกิจกรรม TPM ให้ประสบความสำเร็จประกอบด้วย
- Why Why Analysis
- QC Technique
- PM Analysis
- IE Method
- VE Method
- อื่นๆตามความเหมาะสมกับปัญหา
ดังนั้นการพัฒนาความคิดของพนักงานก่อนนำTPMเข้ามาใช้จึงเป็นเรื่องสำคัญอย่างยิ่งผู้บริหารระดับสูงและคณะกรรมการบริหารโรงงาน นับว่าเป็นบุคลากรชุดแรกที่จะต้องศึกษาหาประสบการณ์ ดูงาน การทำกิจกรรมTPM ของโรงงานอื่นๆที่ประสบความสำเร็จมาแล้ว เพื่อประเมินศักยภาพของโรงงานตัวเองว่าจะสามารถพัฒนาความคิดของพนักงานให้มีคุณสมบัติเหมาะสมกับการนำ TPM เข้ามาใช้หรือไม่เพียงใดแล้วจึงค่อยตัดสินใจดำเนินการ
ถ้าผู้บริหารโรงงานมั่นใจว่าจะสามารถพัฒนาพนักงานทุกคนในองค์กรตามแนวทางที่กล่าวมาแล้วทั้ง 3 ปัจจัยคือ การพัฒนาความคิดเบื้องต้นของTPM + การพัฒนาด้วยโปรแกรมของ TPM (กลยุทธ์+กิจกรรม) + วิธีการและเทคนิคที่ใช้ในการดำเนินงาน ทำให้พนักงานมีทัศนคติที่ดีต่อTPM และเข้าใจดีว่าปรัชญาของ TPM จะสามารถช่วยให้การทำงานของเขา สะดวก สบาย รวดเร็ว ปลอดภัยและมีประสิทธิผลสูงขึ้นไม่ใช่คิดแต่ว่าทุกวันนี้ก็ทำงานกันยุ่งอยู่แล้วผิดพลาดสูญเสียไปบ้างโรงงานก็ยังอยู่ได้มีกำไรทำไมต้องเอาTPMมาเพิ่มงานให้อีกแต่ให้มีความคิดว่าเราน่าจะทำงานได้ดีกว่านี้อีกโดยใช้ความสามารถของทุกๆคนที่มีอยู่แล้วร่วมกับปรัชญาของTPM พัฒนาตนเองจนถึงขั้นทำให้ทุกคนอยากทำไม่ใช่ถูกบังคับให้ทำ การดำเนินกิจกรรมTPM จึงจะประสบความสำเร็จอย่างยั่งยืน แต่ถ้ายังไม่มั่นใจก็หาเวลาไปศึกษาดูงานโรงงานที่เขานำ TPM เข้ามาใช้ก่อนก็จะเข้าใจดีว่าทำไมโรงงานที่นำ TPM มาใช้จนประสบความสำเร็จจึงต้องใช้ที่ปรึกษาที่มีความรู้และประสบการณ์ด้าน TPM เข้ามาช่วยไม่ว่าจะเป็นที่ปรึกษาภายในประเทศ หรือต่างประเทศเช่นญี่ปุ่นก็ตาม ในปี 2555 นี้โรงงานอุตสาหกรรมไทยที่ได้รับผลกระทบจากมหาอุทกภัย 2554 คงต้องใช้เวลาในการฟื้นฟูโรงงานกันระยะหนึ่งทีเดียว แต่ถ้าโรงงานใดนำTPMมาใช้ก่อนจนพนักงานมีความรู้และทักษะในการทำกิจกรรม TPM มาแล้วระยะหนึ่ง การฟื้นฟูโรงงานก็คงจะใช้เวลาไม่มากนักในการนำโรงงานกลับมาผลิตสินค้าส่งลูกค้าที่รอเราอยู่ได้เหมือนเดิม
พยัพ มาลัยศรี
ที่ปรึกษาอุตสาหกรรม ส.ส.ท.
บทความนี้เกิดจากการเขียนและส่งขึ้นมาสู่ระบบแบบอัตโนมัติ สมาคมฯไม่รับผิดชอบต่อบทความหรือข้อความใดๆ ทั้งสิ้น เพราะไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นความจริงหรือไม่ ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรอง และหากท่านพบเห็นข้อความใดที่ขัดต่อกฎหมายและศีลธรรม หรือทำให้เกิดความเสียหาย หรือละเมิดสิทธิใดๆ กรุณาแจ้งมาที่ ht.ro.apt@ecivres-bew เพื่อทีมงานจะได้ดำเนินการลบออกจากระบบในทันที