พรพรหม

ผู้เขียน : พรพรหม

อัพเดท: 02 มิ.ย. 2013 12.57 น. บทความนี้มีผู้ชม: 25824 ครั้ง

ประเภทงานเขียน: สารคดีท่องเที่ยวนิวซีเเลนด์กึ่งนวนิยายรักใสๆ

กานต์ เด็กเรียนผู้รักการท่องเที่ยวและเป็นนักชิมตัวยงได้ทุนไปทำวิจัยเกี่ยวกับความเชื่อเกี่ยวกับชีวิตหลังความตายของชาวเมารีที่นิวซีแลนด์ (เรียกได้ว่าเที่ยวไป ชิมไป ศึกษาความเชื่อหลังความตายไปด้วย)
โทไบอัส หนุ่มอังกฤษร่างสูงโปร่ง ทำอาหารเก่ง อบอุ่น น่ารัก ขี้เล่น เจ้าชู้ เเละเงียบขรึม เขาจมกับอดีตส่วนตัวในบางครั้งจนกานต์เข้าไม่ถึง

มิตรภาพของทั้งสองเริ่มงอกงามขึ้นท่ามกลางพายุหิมะในเมืองไคร้ซเชิร์ชในเกาะใต้ของนิวซีแลนด์ แต่เมื่ออดีตตามหลอกหลอนหนุ่มโทไบอัส สาวกานต์จึงตัดสินใจกระเตงหนุ่มสุดขรึมไปทำวิจัยและชิมอาหารตามที่ต่างๆเพื่อที่จะฟื้นฟูไข้ใจที่เกิดกับชายหนุ่มผู้มีเสน่ห์ปลายจวักคนนี้


ตอนที่ 4 รู้หน้าไม่รู้ใจ

กลิ่นหอมของไข่เจียวที่ลอยมาเตะจมูกได้ปลุกกานต์จากห้วงนิทรา  อากาศที่ไอแลมวิจเลจยังหนาวเหน็บเหมือนเดิมแม้จะมีเครื่องทำความร้อนถึงสี่เครื่องในบ้าน  สาวไทยในชุดนอนผ้าสำลีสามชั้นค่อยลุกขึ้นมา ไม่ลืมจัดผมที่ยุ่งเหยิงลวกๆก่อนจะผลักประตูออกไป

 

ที่ห้องครัวซึ่งอยู่ไม่ไกลจากอพาร์ทเม้นต์ ร่างสูงโปร่งกำลังทอดไข่ ข้างๆเตามีบางอย่างสีส้มๆจัดใส่ถ้วยเอาไว้ เขาหันมายิ้มละไมแล้วทักทายว่า

“ผมนึกว่าจะทำไข่ยัดไส้ (omelet) ให้เสร็จก่อนคุณตื่นซะอีก กะว่าจะเซอร์ไพร้ส์” ว่าพลางก็หยิบช้อนมาตัก “ไส้” บรรจงวางลงบนแผ่นไข่ที่กำลังเหลืองเกือบสุก

“หอมจัง ไส้นี่ทำจากอะไรเหรอ” สาวกานต์ยื่นหน้าไปใกล้ๆเตาเพื่อสูดกลิ่นหอมของไข่เจียว ที่ตอนนี้หอมระคนกับสิ่งที่นำมาเป็นไส้

“ผมเอามะเขือเทศมาผัดกับหมูสับ ใส่สมุนไพรอิตาเลี่ยนนิดหน่อย แล้วก็ใส่ความตั้งใจของผมไปอีกนิดนึง” แล้วหนุ่มโทไบอัสก็จ้องหน้าสาวกานต์ซะหลายวินาที...เนิ่นนาน...

“มัวยิ้มอยู่ได้ เดี๋ยวไข่ก็ไหม้หรอก” เธอแกล้งเสไปเรื่องอื่นเมื่อรู้ว่าหน้าเริ่มร้อนผ่าวๆ

“ฮ่าๆ ไหม้ก็ไหม้ไป ผมมีอีกสอง!” เขาตะโกนขึ้นมาอย่างอารมณ์ดี แล้วก็หันไปตั้งหน้าตั้งตากลับแผ่นไข่ให้ห่อหุ้มหมูสับผัดมะเขือเทศเป็นก้อนรีๆ

สาวไทยของเราก็ประจำการหน้าที่ตักข้าวใส่จาน ปิ้งขนมปังทาเนย รินน้ำผลไม้ แล้วก็จัดโต๊ะพอดีโทไบอัสก็ยกออมเล็ตมาสองจาน  เธอสูดกลิ่นหอมของอาหารเช้าเข้าเต็มปอด จิบน้ำส้มคั้นแล้วก็เริ่มตักอาหารอย่างไม่รีรอ

นับว่าเป็นวาสนา! ออมเล็ตฝีมือโทไบอัสอร่อยซะยิ่งกว่าอาหารเช้าที่เสริฟตามโรงแรมแห่งไหนๆ เนื้อไข่ที่สุกกำลังพอดี บางและเรียบเนียนด้วยทอดไฟอ่อน เจือกลิ่นเนย เข้ากับรสเปรี้ยวอมหวานจากมะเขือเทศและความนุ่มละไมของหมูสับหมักเครื่องเทศอิตาลี  กานต์เงยหน้ามองชายหนุ่มตรงหน้าด้วยความรู้สึกปลาบปลื้ม ใจอยากจะเข้าไปหอมแก้มเป็นรางวัลเขาซักฟอด แต่ก็ยังสงวนท่าทีไว้... โทไบอัสเหมือนจะอ่านความคิดเธอออก เขาเอนตัวไปกับพนักเก้าอี้และกอดอกยิ้มอย่างภาคภูมิใจ... ไม่เสียแรงที่ตื่นแต่เช้า  สาวไทยนี่สร้างความประทับใจได้ไม่ยากเลย

“ขอบคุณนะที่ทำอาหารเช้าที่อร่อยที่สุดในโลกให้ชั้นวันนี้” กานต์ยิ้มหวานจากใจจริงแล้วค่อยๆเดินไปยังอีกฝั่งหนึ่งของโต๊ะอาหาร สบตากับเขาอยู่พักหนึ่งก็เอื้อมมือไป...แตะไหล่ “พ่อครัว” ที่ตอนนี้นั่งลุ้นตัวแข็งทื่อว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับตัวเอง เธอหัวเราะออกมาเบาๆกับท่าทีประหม่าของหนุ่มน้อยที่บางทีก็ทะเล้นเสียจนเวียนหัว แต่พอเอาเข้าจริงก็กลับนั่งเฉยทำอะไรไม่ถูก

“คุณน่ะล้างจาน ชาม ช้อน ส้อม มีด แก้ว กระทะ ตะหลิวให้หมดเลยนะวันนี้” คนประหม่าสั่งออกมาเป็นชุด  กานต์ได้แต่พยักหน้าเป็นเชิงล้อเลียนแล้วก็หอบของทั้งหมดนั่นไปล้าง ส่วนชายหนุ่มก็ขอตัวไปอาบน้ำแต่งตัว

 

กว่าพ่อหนุ่มโทไบอัสจะขัดสีฉวีวรรณ (รวมถึงขับถ่าย?)ก็ปาเข้าไปเกือบชั่วโมง สาวกานต์ได้แต่ลากโต๊ะมาต่อเครื่องคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊คแล้วต่ออินเตอร์เน็ตเช็คอีเมลไปเรื่อยเปื่อย  พอดีช่วงนั้นมีหนังผีคอนเซ็ปต์ใหม่ มีสี่เรื่อง สี่แบบ ซึ่งเพื่อนๆที่เมืองไทยบอกว่าน่ากลัวมาก เมื่อเห็นว่าเป็นเวลากลางวัน เธอจึงลองเปิดหนังตัวอย่างมาดู 

และแน่นอน ตามธรรมเนียมการดูหนังผี ถ้าลองได้ดูหนังตัวอย่าง เห็นปมของเรื่องแล้วจะให้ปล่อยเลยไปย่อมทำไม่ได้ ต้องไปหาดูในอินเตอร์เน็ตให้ครบทั้งเรื่อง  พอโทไบอัสอาบน้ำเสร็จ กานต์ก็รีบส่งตัวอย่างหนังไทยสยองขวัญเรื่องนั้นให้ดูทันที เขาดูไม่ได้ตื่นเต้นอะไร เพียงแต่จ้องดูหน้าจอแล้วพยักหน้าหงึกหงักเป็นเชิงรับรู้ก็เท่านั้น 

“ผมเป็นคนอังกฤษ แต่ไปเรียนมหาวิทยาลัยที่นิวยอร์กอยู่พักหนึ่ง พูดได้เลยว่าผมน่ะคอหนังผีแบบคนนิวยอร์กเลยแหละ” เขาโฆษณาตบท้ายเมื่อเห็นหญิงสาวแสดงอาการสงสัยใคร่รู้

กานต์พยายามหาคลิปที่มีซับไตเติ้ลภาษาไทยแต่ก็ไม่เจอ แต่โทไบอัสบอกว่าหนังผีดูภาษาอะไรก็รู้เรื่องเหมือนกัน เธอจึงทำการเปิดลิ้งค์รอไว้ ส่วนตัวเองก็ขอไปอาบน้ำแต่งตัวบ้าง

“ถ้ากลัวผมเข้าไปเป็นเพื่อนก็ได้นะ” เขาไม่รอให้พลาดโอกาสพูกสัพยอก

“ฮ่าๆ ไม่ต้องหรอก ยังไม่ได้ดูซะหน่อย” กานต์สวมวิญญาณสาวไทยใจหาญอีกครั้ง พูดออกไปทั้งๆที่ใจหวั่นๆ แต่แหม...เราก็เป็นผู้หญิงนะ จะให้ผู้ชายมาเข้าห้องน้ำเป็นเพื่อนแบบที่ขอปะป๊าหม่าม้าได้ยังไงกัน...

 

เมื่ออาบน้ำเสร็จ หนุ่มสาวก็มานั่งกองกับพื้น หลังพิงโซฟา ลิ้งค์ที่ไว้ใช้ดูภาพยนต์สมบูรณ์เรียบร้อย ตาทั้งสองจับจ้องไปยังจอเล็กๆขนาดสิบสี่นิ้วของโน้ตบุ๊คเบื้องหน้า

โทไบอัสเรียบร้อยและสุภาพอย่างน่าประหลาด ตลอดทั้งสี่ตอนเขาไม่ได้หันมาแกล้ง หรือแม้แต่ฉวยโอกาสจากการนั่งระยะประชิดเลยแม้แต่น้อย (ซึ่งเป็นเรื่องน่าเสียดายมากล่ะสิ) มีแต่สาวไทยของเราที่เอารีโมทปิดตาไว้บ้าง สะดุ้งจนชนโต๊ะทำให้โน้ตบุ๊คกระเทือนบ้าง บางทีปิดตามากจัดจนตามเรื่องไม่ทันก็ต้องมาถามว่าเมื่อกี้ผีทำอะไรบ้าง แต่คนข้างๆกลับไม่แสดงอาการกลัวเลยแม่แต่น้อย (เป็นอีกเรื่องที่น่าทึ่งของโทไบอัสรองจากการทำอาหาร)

แต่เจ้ากรรม ตอนดูน่ะกลางวันก็จริง แต่ว่ามันติดตาหลอนใจจนถึงสองทุ่มซึ่งเป็นเวลาอาบน้ำ กานต์เปิดประตูออกมาเจอทางเดินมืดๆ อากาสหนาวชวนให้เสียวสันหลังวาบ แถมบ้านก็เงียบไม่มีคนนอกจากแสงไฟรำไรที่ลอดออกมาจากห้องของโทไบอัสเท่านั้น

“โทไบอัส...” กานต์เคาะประตูเสียงอ่อย (เสียงอ่อยแปลว่าเสียงเบา ไม่ได้ไปอ่อยเค้านะคะ) “เค้าจะไปอาบน้ำแต่กลัวมากๆเลยอ่า” เธอเปลี่ยนสรรพนามเรียกตัวเองและแปลงร่างเป็นเด็กขี้อ้อนเหมือนกำลังอ้อนพ่อแม่

โทไบอัสไม่ได้แสดงอาการทะเล้นทะลึ่ง หากแต่ยิ้มให้อย่างอ่อนโยน เขาก้มตัวลงมาจนหน้าอยู่ระดับเดียวกับหญิงสาวแล้วให้ความมั่นใจกับเธอว่า

“เดี๋ยวผมยืนหน้าห้องน้ำให้ จะอยู่เป็นเพื่อนคุยระหว่างคุณอยู่ในห้องน้ำก็แล้วกันนะ”

กานต์มองกลับด้วยความซาบซึ้ง  หากเป็นเพื่อนๆคนอื่นที่เมืองไทย นอกจากจะไม่ช่วยแล้วอาจจะแกล้งหลอกให้ขวัญเสียกว่าเดิมอีกต่างหาก  แต่ความอบอุ่นและอ่อนโยนของผู้ชายเบื้องหน้านั้นทำให้เธอรู้ว่าเชื่อใจเขาได้แน่นอน

แล้วสาวไทยใจแป้วของเราก็ชวนโทไบอัสคุยจริงๆ ระหว่างทำธุระก็แอบเปิดน้ำก๊อกเพื่อเขาจะได้เดาไม่ถูกว่าตัวเองกำลังทำอะไร (อย่ากับเสียงน้ำก๊อกจะกลบเสียงชักโครกได้อย่างงั้นแหละ) ระหว่างแปรงฟัน หรือล้างหน้า โทไบอัสก็จะส่งเสียงมาเป็นระยะๆว่าเขายังอยู่หน้าห้องน้ำนะ ไม่ต้องกลัว  พาให้ใจชื้นขึ้นเยอะ

กานต์เลื่อนตัวเข้าใช้ “กล่องฝักบัว” อย่างสบายใจ ที่นิวซีแลนด์ให้ความสำคัญต่อระบบสาธารณูปโภคมาก ทำให้ราคาเครื่องสุขภัณฑ์ไม่สูงเหมือนประเทศไทย  แม้แต่หอพักนักเรียนมหาวิทยาลัยยังมีระบบทำน้ำอุ่นแบบในโรงแรม แถมยังมีผนังแก้วล้อมรอบบริเวณอาบน้ำอีกด้วย เครื่องสุขภัณฑ์แบบนี้ราคาแพงลิบลิ่วและแทบไม่มีใครใช้เลยในเมืองไทย

กานต์เปิดประตูออกมาช้าๆ กลิ่นแชมพูและสบู่ลอยฟุ้งตามออกมา  โทไบอัสนั่งอยู่กับพื้นพรมหน้าห้องน้ำ หลังพิงผนัง เขาไม่ได้แสดงท่าทีเบื่อหน่ายหรือขบขัน เขาค่อยๆลุกขึ้นช้าๆ สูดความหอมจากเรือนผมแบบเฉี่ยวๆ ยิ้มให้อย่างอบอุ่นและบอกว่า

“ราตรีสวัสดิ์  ถ้านอนไม่หลับเรียกผมนะ”

ก่อนจะวิ่งหนีลับไปกับทางเดินมืดๆ ทิ้งสาวไทยเบิกต้ากว้างยิ่งกว่าตอนดูหนังผี แล้วว่าไล่ตามหลังไปว่า

“ผีไม่เข้าห้องชั้นหรอกย่ะ เพราะชั้นจะสวดมนต์ก่อนนอน นายนั่นแหละระวังตัวไว้ให้ดี”

แล้วเธอก็รู้สึกเสียวสันหลังวาบอีกครั้งเมื่อไม่มีเสียงตอบจากทางเดินมืดๆที่เขาหายลับไปทางนั้น...


บทความนี้เกิดจากการเขียนและส่งขึ้นมาสู่ระบบแบบอัตโนมัติ สมาคมฯไม่รับผิดชอบต่อบทความหรือข้อความใดๆ ทั้งสิ้น เพราะไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นความจริงหรือไม่ ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรอง และหากท่านพบเห็นข้อความใดที่ขัดต่อกฎหมายและศีลธรรม หรือทำให้เกิดความเสียหาย หรือละเมิดสิทธิใดๆ กรุณาแจ้งมาที่ ht.ro.apt@ecivres-bew เพื่อทีมงานจะได้ดำเนินการลบออกจากระบบในทันที