เสาวภา

ผู้เขียน : เสาวภา

อัพเดท: 13 ก.พ. 2011 01.05 น. บทความนี้มีผู้ชม: 2959 ครั้ง

มือใหม่ค่ะ ช่วยอ่านช่วยคอมเม้นหน่อยนะคะ ขอบคุณมากค่ะ(เข้ามาอ่านหน่อยนะจ๊)


สุขแท้ด้วยปัญญา

หอมดินกลิ่นดาว

หลังจากที่ดาวลูกสาวอันเป็นที่รักได้ทุนไปเรียนต่อที่ประเทศสวีเดน เพราะดาวเป็นคนเรียนเก่ง เป็นเด็กดีมาตลอดจึงได้รับการสนับสนุนหลังจากเรียนจบได้แต่งงานออกเรือนไปกับนักธุรกิจหนุ่ม และทำธุรกิจเปิดร้านอาหารไทยที่ต่างประเทศ พ่อและดินก็อยู่กันตามลำพังสองคน ดินเด็กหนุ่มวัย 16 เป็นอัมพาตขาอ่อนแรงเพราะเกิดอุบัติเหตุรถโดยสารที่แม่และดินนั่งมา คว่ำลงข้างทางทำให้แม่ต้องจากพ่อและดาวกับดินไปเมื่อหลายปีก่อน ดาวพยายามชวนพ่อและน้องไปอยู่ด้วย แต่พ่อบอกว่าพ่อเป็นห่วงที่นาที่สร้างกันมากับแม่ ไม่อยากไปไหน และดินก็ขออยู่กับพ่อ

บ้านหลังน้อยที่ดาวเปลี่ยนแปลงจากที่มุงสังกะสีฝาไม้เก่าๆ มาเป็นบ้านหลังใหม่กระเบื้องฝาปูนมีทางลาดไว้สำหรับวีลแชร์ไฟฟ้าที่ดาวและพ่อซื้อให้ดินเพื่อความสะดวกในการใช้ชีวิตของน้องชาย ดาวปรับสภาพห้องน้ำเป็นโถชักโครกแทนส้วมซึม ดาวคิดเสมอว่าจะทำทุกอย่างให้พ่อกับน้องสบายขึ้น เพราะพ่อเหนื่อยกับดาวและดินมามากแล้วหลังจากที่แม่จากไปหลายปี รูปภาพแม่ยืนยิ้มเกาะแขนพ่ออยู่หน้าบ้านซึ่งเป็นรูปอัดด้วยฟีมล์เป็นภาพขาวดำยังแขวนอยู่ข้างฝาเหมือนเดิมและดินยังถ่ายภาพเก็บไว้ในโทรศัพท์ทำเป็นรูปพักหน้าจออีกด้วย

“พ่อพี่ดาวบอกว่าจะซื้อคอมพิวเตอร์ให้ดินกับพ่อจ่ะ”  ดินรีบบอกพ่อหลังจากที่อ่านจดหมายที่พี่ดาวส่งมาจากสวีเดน เพราะพ่อบอกว่าค่าโทรศัพท์แพงไม่อยากให้ดาวโทรมานานๆ เลยเปลี่ยนเป็นเขียนจดหมาย

“คอมพิวเตอร์  ซื้อมาทำไมหรอ ซื้อมาให้เอ็งเล่นเกมส์นะซิใช่มั้ย พ่อเห็นเวลาไปตลาดเด็กๆมันเล่นกันที่ร้าน”

“คอมพิวเตอร์ไม่ได้เล่นเกมส์อย่างเดียวนะครับพ่อ พี่ดาวเขาไม่อยากเขียนจดหมายหาเราบอกว่ามันช้าเลยจะซื้อคอมและติดตั้งอินเตอร์เน็ตเพื่อจะได้ติดต่อพ่อกับดินได้สะดวกยิ่งขึ้น และอีกอย่างดินอยากใช้คอมเป็นด้วยเผื่อได้ออกไปเรียนต่องัยครับ”

“ ไหนๆ ดาวเขียนมาว่างัยบ้างลูก”

สวัสดีจ่ะพ่อ ดิน

                ดาวคิดถึงพ่อกับดินจังเลย ตอนนี้เป็นไงกันบ้าง ดินอ่านหนังสือเตรียมสอบเข้าเรียนหรือเปล่าอย่าเอาแต่เฝ้าหน้าโทรทัศน์นะ  แล้วพ่อไถนาเหนื่อยใหมจ๊ะ ตอนนี้ร้านอาหารไทยของดาวกำลังไปได้ดีเลยจ่ะ สงกรานต์นี้จะกลับไปหาพ่อกับดิน โทนี่บอกว่าจะไปซื้อรถไถนาให้พ่อพ่อจะได้ไม่ต้องใช้แรงไถเอง จะได้ไม่เหนื่อยมากนะจ๊ะ ดาวโอนเงินไปให้พ่อแล้วนะเอาไปซื้อคอมพิวเตอร์ไว้ติดต่อสื่อสารกับดาว จะได้รู้ข่าวสารบ้านเมืองทีเกิดขึ้นในอินเตอร็เน็ต  เดี๋ยวคงต้องให้นิชาไปสอนดินกับพ่อเล่น  Facebook  MSN  Skype Email จะได้ติดต่อกันทุกวันเลยไม่ต้องเขียนจดหมายหรือโทรศัพท์ แถมได้เห็นหน้ากันด้วย ดาวโทรศัพท์ไปบอกนิชาแล้วว่าให้พาพ่อไปซื้อนะจ๊ะพ่อจำนิชาเพื่อนดาวได้ใช่ไหม คนที่มีลูกสาวน่ารักๆ พูดถึงลูกสาวนิชาก็อดหัวเราะไม่ได้วันก่อนนิชาโทรมาเล่าให้ฟังว่าลูกสาวตัวน้อยของเขาเอาเครื่องปิ้งขนมปังไปใส่ในเครื่องซักผ้า ดีนะที่เครื่องซักผ้าไม่ได้เสียบปลั๊ก คิดๆก็อยากมีหลานให้พ่อสักคน  ถ้าร้านที่นี่ไปได้ดีแบบนี้ตลอด เก็บเงินอีกไม่นานดาวคงได้กลับไปอยู่กับพ่อและดินที่เมืองไทย อยู่ที่นี่มีแต่ตึก ไปไหนมาไหนรถไฟฟ้า มีเทคโนโลยีใหม่ๆเกิดขึ้น เมืองไทยเราก็ไม่ยอมแพ้มีการพัฒนาเหมือนต่างประเทศขึ้นทุกวัน ไปไหนมาไหนสะดวกสบายกลับไปคราวนี้จะพาดินกับพ่อมาขึ้นรถไฟฟ้าที่กรุงเทพฯดูบ้าง  เอ้อ!แต่บางครั้งดาวก็อดคิดถึงท้องนาท้องทุ่ง กลิ่นโคลนสาปควายที่บ้านเราไม่ได้  คิดถึงกองไฟที่พ่อก่อเวลาที่เราหนาว เวลาที่เราร้อนก็มีลมพัดเย็นๆ ไม่ต้องเปิดแอร์เปลืองไฟ คิดถึงตอนนั่งใต้ต้นไม้เล่นชิงช้ากับดิน คิดแล้วมีความสุขจังเลย ที่นี่หนาวมากเลย ดีนะที่มีเครื่องทำน้ำอุ่นไม่งั้นคงไม่ได้อาบน้ำกันแน่  มีโอกาสถ้าพ่อกับดินอยากมาเที่ยวบ้างก็ดีนะจ๊ะ นั่งเครื่องบินมาไม่นานก็ถึง  ดาวคิดถึงพ่อกับดินนะจ๊ะ...รักพ่อและดินมาก...ดาว

“จบแล้ว แหมถ้าบ้านเรามีเครื่องทำน้ำอุ่นบ้างก็ดีนะครับพ่อ”  ดินหันมาบอกพ่อ

“ดียังไงก็แพ้กองไฟพ่อแหละดินเอ้ย หรือถ้าเอ็งอยากอาบน้ำอุ่นก็ต้มน้ำเอากับกระติกไฟฟ้าที่พ่อซื้อมาชงโอวัลตินโน่น จะเอากี่กระติก” พ่อพูดไปหัวเราะไป

ชีวิตของสามคนพ่อลูกดำเนินไปอย่างมีความสุข ถึงแม้ มีหลายอย่างที่เปลี่ยนแปลงไปกับกาลเวลา ยุคสมัย แต่ความรัก ความห่วงใย ความเอาใจใส่ซึ่งกันและกันของทั้งสามคนไม่เคยเปลี่ยนแปลง พ่อก็ยังคงอนุรักษ์สภาพแวดล้อมตามแบบฉบับของพ่อ มีภาพถ่ายจากกล้องดิจิตอล แต่ยังมีภาพฟีมล์ขาวดำของแม่ มีไฟฟ้าแต่ก็ยังมีตะเกียงแขวนข้างฝา มีรถไถ แต่ก็ยังมีคันไถของพ่อ  มีเครื่องทำน้ำอุ่น แต่ก็ยังมีกองไฟ มีโทรทัศน์และยังมีซานซิสเตอร์  มีแอร์แต่ยังมีลมพัดจากธรรมชาติ มีอินเตอร์เน็ต มีรถไฟลอยฟ้า รถไฟใต้ดิน  มีลิฟ มีบรรไดเลื่อน  มีตึก มีรถเมล์ มีเครื่องดูดฝุ่น มีเครื่องซักผ้า มี ฯลฯ นวัตกรรมทั้งหลายที่เกิดขึ้นเป็นแค่เครื่องอำนวยความสะดวกสบายนอกกายของคนเรา ความสุขทางกาย มีหรือจะสู้ความสุขทางใจ เพราะแท้ที่จริงแล้วเริ่มแรกและท้ายสุดท้าย คนเราก็ไม่ได้เอาอะไรมา และก็ไม่ได้เอาอะไรไป

 

เขียนโดย เสาวภา  ช่วยราชการ


บทความนี้เกิดจากการเขียนและส่งขึ้นมาสู่ระบบแบบอัตโนมัติ สมาคมฯไม่รับผิดชอบต่อบทความหรือข้อความใดๆ ทั้งสิ้น เพราะไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นความจริงหรือไม่ ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรอง และหากท่านพบเห็นข้อความใดที่ขัดต่อกฎหมายและศีลธรรม หรือทำให้เกิดความเสียหาย หรือละเมิดสิทธิใดๆ กรุณาแจ้งมาที่ ht.ro.apt@ecivres-bew เพื่อทีมงานจะได้ดำเนินการลบออกจากระบบในทันที