TPA Magazine

ผู้เขียน : TPA Magazine

อัพเดท: 26 พ.ย. 2006 09.59 น. บทความนี้มีผู้ชม: 10231 ครั้ง

อยากทราบประวัติของคุณสุวัฒน์ก่อนจะมาเป็น Managing Director

ผมจบทางด้านวิศวกรรมเคมี หลังจากจบมาก็ทำงานด้านเอกสารต่างประเทศอยู่ 1 ปี


สัมภาษณ์ คุณสุวัฒน์ บุญบรรดารสุข Managing Director บริษัท เอ็น. ซี. อาร์ รับเบอร์อินดัสตรี้ จำกัด

อยากทราบประวัติของคุณสุวัฒน์ก่อนจะมาเป็น Managing Director

ผมจบทางด้านวิศวกรรมเคมี หลังจากจบมาก็ทำงานด้านเอกสารต่างประเทศอยู่ 1 ปี ก็ไปฝึกงานอยู่ที่บริษัทบริดจสโตนที่ประเทศญี่ปุ่น 1 ปีซึ่งเป็นโรงงานผลิตสินค้ายางอุตสาหกรรม หลังจากนั้นกลับมาทำงานทางด้านฝ่ายผลิตที่โรงงานอยู่ 3 ปี จึงกลับมาทำฝ่ายขายต่างประเทศราว 4 ปี ก็ได้รับแต่งตั้งเป็นรองกรรมการผู้จัดการ ซึ่งดูแลด้านฝ่ายขายในประเทศและบริหารงานส่วน Office ได้ 2 ปี พอบริษัทฯ ตัดสินใจที่จะย้ายโรงงานจากเทพารักษ์ไประยอง ผมก็ได้รับมอบหมายให้ไปทำ Project นี้เมื่อปี 2546 ปัจจุบันโรงงานเราได้ย้ายไปอยู่ที่ระยองได้ 2 ปีแล้ว

บทบาทพี่เลี้ยงกับการประกวด 5 ส ในองค์กร คุณสุวัฒน์มีบทบาทอย่างไรบ้าง

ในส่วนของ 5ส ผมเป็นเพียงเฟืองเล็กๆ ตัวหนึ่งไม่ได้มีบทบาทอะไรมาก ซึ่งไม่ได้ถือว่าเป็นพี่เลี้ยงอะไรเลย เพราะว่ากิจกรรมทั้งหมดนี้เป็นกิจกรรมที่ต้องทำทั้งองค์กรและพนักงานทุกคนมีส่วนร่วมหมด หลักๆ ที่ผมทำก็คือการให้กำลังใจ, การมีส่วนร่วมและให้ความสนใจในกิจกรรมต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น Big Cleaning Day หรือว่าการประชุมกลุ่มของคณะกรรมการกลาง (HQ) และถ้ามีโอกาสก็จะเข้าไปร่วมฟังและแสดงความคิดเห็นกับการประชุมกลุ่มย่อย ( กลุ่มปฏิบัติงาน) ที่สำคัญเรื่องการชมเชยผมว่าเป็นสิ่งสำคัญมาก เช่น การเข้าไปในโรงงานและเจอพนักงานผมก็จะเดินเข้าไปพูดคุยถึงเรื่อง 5 ส และให้คำชมเชยให้กำลังใจเขา

หลังจากได้รับรางวัล Silver Award ในการประกวด 5ส พนักงานในองค์กรมีความรู้สึกอย่างไรบ้าง

จากการที่ได้พูดคุยกับพนักงาน มุมมองของทุกคนมองว่า รางวัลนี้ไม่ใช่ได้มาง่ายๆ เพราะในรอบ 1 ปีที่ผ่านมา ทุกคนมุ่งมั่นมาก และประธาน 5ส ได้ประกาศอย่างชัดเจนว่า เราต้องเข้ารอบสุดท้ายให้ได้ (ติด 1 ใน 5 บริษัท สุดท้าย) ด้วยการมี เป้าหมายที่ชัดเจน และความร่วมมือร่วมใจกัน ทำงานอย่างจริงจัง พร้อมกับ คณะกรรมการกลาง (HQ) และผู้บริหารทุกท่านได้ให้ความสำคัญและทำด้วยใจ จึงส่งผลให้ทุกคนในองค์กรมีความมุ่งมั่นที่จะทำ ให้ประสบความสำเร็จและเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ได้ ทุกคนจึงรู้สึกภาคภูมิใจ และมีสำนึกรับผิดชอบที่จะรักษาไว้ซึ่งมาตรฐานของรางวัล Thailand 5s Silver Award ที่ได้รับนี้ไว้สืบต่อไป

ผมว่า 5 ส เป็นพื้นฐานของการพัฒนาองค์กรซึ่งสื่อถึงความยั่งยืนระยะยาว พนักงานในบริษัทเองแรกๆ ก็มีความสงสัยว่ามันจะช่วยได้จริงหรือเปล่า พอทำสักพักหนึ่งและผู้บริหารก็เข้าไปมีส่วนร่วมกับพนักงานมากๆ จึงทำให้ทุกคนเห็นว่ามันมีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้น แน่นอนผู้บริหารก็ต้องจัดงบประมาณ, ทรัพยากร และให้การสนับสนุนอย่างเต็มที่ พอพวกเราเห็นการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้น และส่งผลกลับมาเช่น พอลูกค้ามาเยี่ยมเราที่บริษัทฯ และกล่าวคำชม หรือบางครั้งลูกค้ากลับไปประเทศเขาแล้วยังเขียนกลับมาชมว่างานคุณมีระเบียบเรียบร้อยดี ซึ่งคำชมเหล่านี้ทำให้พวกเราภูมิใจมาก

สุดท้ายนี้ก็ต้องขอชมเชย คุณฉัตรชัย พิมลจิตต์, ประธานโครงการ 5ส และคุณประเสริฐ บำรุงชัยชนะ ผู้อำนวยการฝ่ายโรงงาน ที่ช่วยกันเป็นแกนหลักของการดำเนินโครงการ 5ส ให้สำเร็จลุล่วงไปได้ด้วยดี

คุณสุวัฒน์ มีหลักการบริหารงานอย่างไรบ้าง

บริษัท NCR เป็นบริษัทที่เติบโตมาจากบริษัทเล็ก ๆ ซึ่งเป็นธุรกิจครอบครัว ปัจจุบันมีพนักงานประมาณ 400 คน ผมมองว่าโลกมันเปลี่ยนแปลงไปมาก ลักษณะการบริหารงานจากนี้ไป เราต้องเปลี่ยนไปตามกระแสโลก เพราะฉะนั้นการบริหารงานก็ต้องเป็นระดับสากลมากขึ้น ผมคิดว่าการบริหารงานที่ดี มันต้องมีทั้งเรื่องงานและเรื่องคนเป็นสิ่งสำคัญ เรื่องงานเป็นหน้าที่หลักของผู้บริหารที่ต้องวางระบบงานให้ดี, มีการฝึกฝน สามารถบ่งชี้การทำงานที่ชัดเจน จากนั้นก็อำนวยการให้ทุกคนทำงานตามระบบ งานก็จะวิ่งไปด้วยตัวมันเองได้ ส่วนเรื่องคน ซึ่งเป็นองค์ประกอบสำคัญที่ทำให้องค์กรขับเคลื่อนไปได้ ก็ต้องมีการกำหนดเป้าหมาย, ระบบการวัดผลและตรวจสอบได้อย่างชัดเจน หลักการง่ายๆ ผมดูว่าบุคลากรที่ดีไม่ว่าจะเป็นผู้บริหาร, หัวหน้างาน หรือว่าผู้ใต้บังคับบัญชาเอง จะต้องมีความมุ่งมั่นซึ่งถือเป็นอันดับแรกเลย อันดับที่สองคือการใส่ใจในงานที่ได้รับมอบหมาย และอันดับสุดท้ายสำคัญที่สุดคือต้องโปร่งใส เมื่อข้อมูลมีการนำเสนออย่างชัดเจน ทุกคนเห็นคล้องในทิศทางเดียวกัน พลังร่วมในการทำงานสู่จุดมุ่งหมายก็จะเกิดขึ้น

ปัจจุบันนี้ในโลกของเทคโนโลยีมีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลาอย่างรวดเร็ว มีหลักการอย่างไรในการรับมือ

คือว่าการเปลี่ยนแปลงคงไม่ได้มองทางด้านเทคโนโลยีด้านเดียว การเปลี่ยนแปลงจะประกอบไปด้วยการแข่งขันทางด้านธุรกิจ สิ่งแรกที่พวกเรายึดถือกันมาในการทำงานของที่นี่ก็คือในเรื่องของการ Clear Communication ข้อมูลข่าวสารที่มีการเปลี่ยนแปลงเร็ว เราต้องศึกษากันให้ครบถ้วนและรวดเร็ว เพื่อให้ได้ข้อมูลที่ชัดเจนออกมา หลังจากนั้นทุกคนจะมาให้ความสำคัญกับการทำให้เป้าหมาย ๆ หนึ่งประสพความสำเร็จขึ้นได้ คือข้อแรกต้องมีความตระหนักว่า เรามีข้อมูลแบบนี้อยู่ ควรจะทำอย่างไรดีเพื่อแก้ปัญหาหรือหาวิธีที่ดีกว่า ข้อสองที่เราคิดว่าสำคัญในวงการธุรกิจปัจจุบันได้แก่การสร้างความสัมพันธ์ที่ดีให้กับลูกค้าและ supplier กลุ่ม 2 กลุ่มนี้คือหัวใจของบริษัท ดังนั้นถ้ามีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้น เราจะทราบได้อย่างรวดเร็วจาก 2 กลุ่มนี้เป็นหลักเลย ความเคลื่อนไหวการเปลี่ยนแปลงของเหตุการณ์ใดก็แล้วแต่ ที่จะส่งผลต่อธุรกิจเราก็จะทราบก่อน ซึ่งเป็นผลดีต่อธุรกิจ ถือได้ว่าเป็นข้อได้เปรียบ อีกมุมมองหนึ่งที่มองกลับมาทางด้านองค์กร ก็จะมองถึงบุคลากรของเราเองที่จะต้องมีความทันสมัยทางด้านเทคโนโลยีมากขึ้น การเข้าไปค้นหาข้อมูลต่างๆ ทาง internet ผมว่าเป็นเรื่องสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นข้อมูลคู่แข่ง ข้อมูล supply ต่างๆ ซึ่งเป็นฐานข้อมูลที่มีค่ามาก เพราะฉะนั้นคนของเราต้องพยายามฝึกตรงนี้ให้มีความรู้ ความคุ้นเคย สุดท้ายในเรื่องของการส่งบุคลากรไปดูงานที่ต่างประเทศ หรือบริษัที่มีศักยภาพสูงซึ่ง มีความสำเร็จทางด้านการบริหารงาน ก็จะเป็นการเปิดโลกทัศน์ให้แก่บุคลากร เพื่อจะได้รู้ทันกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

มุมมองในเรื่องของกลยุทธ์ บริษัทมีการเตรียมตัววางแผนอย่างไรบ้าง และมีจุดมุ่งหมายอย่างไรบ้างในการสร้างความเป็นเลิศให้กับบริษัท

อย่างที่ได้ออกตัวไปแล้วว่าเราเป็นบริษัทผู้ผลิตสินค้าอุตสาหกรรม และเป้าหมายของบริษัทคือการผลิตสินค้าที่มีคุณภาพ และเน้นเรื่องความปลอดภัยเป็นหลักให้กับลูกค้า ฉะนั้นความปลอดภัย และคุณภาพจะมาพร้อมกันไม่ได้ ถ้าไม่มีระบบการทำงานที่มีมาตรฐาน ซึ่งเราก็ลองมาหลายสูตรแล้ว หลังจากนั้นเราเองก็กลับมามองว่า 5ส เป็นพื้นฐานจริงๆ เราต้องทำให้พื้นฐานตรงนี้แข็งแรง และพยายามให้ลูกค้ามองเราในมุมมองของผู้ผลิตที่มีคุณภาพเป็นแกนหลัก ผมมองว่านอกจากสินค้าแล้วระบบการทำงานของเราต้องมีคุณภาพด้วย การที่เราเตรียมตัวเรื่อง 5ส มาระดับหนึ่ง เรามองว่า TPM ก็คือระดับต่อไป เราตั้งเป้าว่าปีนี้เราจะเตรียมตัวเรื่อง TPM ของเฟสแรก และปีหน้าจะเป็นปีที่เตรียมเรื่องเฟสที่สอง ซึ่ง 2 ปีนี้เป็นปีที่เหนื่อย ที่จะต้องเตรียมตัวภายในองค์กร ซึ่งก็ต้องนำเอารายละเอียดมาศึกษานั่นคือ step จากนี้ไปไม่ใช่การไปเสาะแสวงหารางวัลต่างๆ แต่เป็นการพัฒนาองค์กรและปรับปรุงภายใน

ในฐานะที่เป็นสมาชิก ส.ส.ท. อยากทราบมุมมองของบริษัท N.C.R. ที่มีต่อ ส.ส.ท. และอยากให้ ส.ส.ท. พัฒนาอะไรเพิ่มขึ้น เพื่อพัฒนาบริการแก่สมาชิก ส.ส.ท.

มุมมองของผมต่อองค์กรใดองค์กรหนึ่ง ผมไม่ได้มองที่องค์กรเพียงอย่างเดียว แต่ผมมองที่บุคลากรด้วย จากที่ผมได้มีโอกาสพูดคุยและสัมผัสกับเจ้าหน้าที่หลายท่านของส.ส.ท. ก็รู้สึกประทับใจกับบุคลากรที่นี่ ไปงาน Thailand 5s Award ก็จะได้เห็นภาพใหญ่ของ ส.ส.ท. ก็ไม่ผิดหวังจริงๆ เพราะว่าเป็นองค์กรที่มีความเป็นคุณภาพในการให้บริการ ถ้าองค์กรหนึ่งมีบุคลากรที่มีคุณภาพ ทุกคนให้ความเป็นมิตรต่อทุกคนที่มาติดต่อ ผมก็ถือว่า ส.ส.ท. คือองค์กรที่มีคุณภาพเหมาะกับบุคลากรที่ร่วมงานด้วย อยากให้ ส.ส.ท. มีโปรแกรมการพัฒนาบุคลากรมากขึ้น เช่น ส่งไปดูงาน หรืออบรมที่ต่างประเทศบ้าง เพื่อให้มีผู้เชี่ยวชาญเพิ่มมากขึ้น และก็อยากให้มีการจัดในลักษณะ ที่นำอุตสาหกรรมที่มีลักษณะใกล้เคียงกันมาทำกิจกรรม หรือเป็นการแลกเปลี่ยนความคิดเห็น ดูเป็นเรื่องที่ยาก เพราะว่าถ้าเป็นอุตสาหกรรมที่ใกล้เคียงกันในทางธุรกิจ ก็จะกลายเป็นคู่แข่งกันไป แต่ผมคิดว่า ถ้าองค์กรมีคุณภาพ มีแนวคิดที่จะปรับปรุงองค์กรมาทำกิจกรรมร่วมกัน ก็น่าจะเป็นประโยชน์อย่างยิ่ง ยกตัวอย่างเช่น บริษัทฯ เราเคยเข้าไปร่วมกิจกรรม Benchmarking ของกลุ่มยางอุตสาหกรรมยาง ทุกบริษัทฯ ที่เข้าร่วมโครงการก็ได้ประโยชน์หลาย ๆ ด้าน ซึ่งผมคิดว่าการร่วมมือเช่นนี้เป็นนิมิตหมายที่ดี

บริษัท เอ็น. ซี. อาร์ รับเบอร์อินดัสตรี้ จำกัด
N. C. R. Rubber Industry Co., Ltd.

www.ncr-rubber.com

โรงงานแห่งใหม่ของ เอ็น.ซี.อาร์. ตั้งอยู่บนเนื้อที่กว่า 120,000 ตารางเมตร ดำเนินการผลิตด้วยเครื่องจักร และเครื่องมือทดสอบในห้องปฏิบัติที่ก้าวหน้า โดยทีมงานค้นคว้าที่มีประสบการณ์ และทีมงานเทคนิคที่ชำนาญการ โดยเจ้าหน้าที่ฝ่ายขายจะประสานงานกับทีมวิศวกร เพื่อให้ได้ผลิตภัณฑ์ชิ้นงานที่สมบูรณ์แบบที่สุดตามความต้องการของลูกค้า เจ้าหน้าที่ห้องปฏิบิติการและเครื่องจักรอุปกรณ์ที่ล้ำสมัย เป็นสิ่งที่ยืนยันได้ว่า ผลิตภัณฑ์ทุกชิ้นได้ผ่านมาตรฐานการควบคุมคุณภาพที่เข้มงวดทั้งของ เอ็น.ซี.อาร์. และของลูกค้าทุกกระบวนการได้รับการตรวจสอบอย่างละเอียด ตั้งแต่ขั้นตอนการผสมวัตถุดิบ ไปจนถึงขั้นตอนการผลิตชิ้นงานออกสู่ตลาด

ด้วยโรงงานที่ทันสมัย พร้อมทีมงาน และห้องปฏิบัติการที่เยี่ยมยอดทำให้เป็นหลักประกันได้ว่า เอ็น.ซี.อาร์. สามารถผลิตงานที่ดีและตรงตามความต้องการของลูกค้าทุกประการ

นโยบายคุณภาพ : มุ่งมั่นพัฒนา ใส่ใจในลูกค้า รักษามาตรฐานคุณภาพ

คำขวัญของบริษัท : คุณภาพก้าวล้ำ นำสู่สากล

ประเภทธุรกิจ : ผู้ผลิต, ผู้จำหน่วยปลีก – ส่ง, และผู้ส่งออกผลิตภัณฑ์จากยาง

สินค้าหลัก : สายยางและท่อยางใช้ในอุตสาหกรรมและรถยนต์, สายและโปรไฟล์พีวีซี, ยางฟองน้ำ,
ยางโปรโฟล์, สินค้าซิลิโคน, อะไหล่ยางปั๊ม, อะไหล่ยางกันน้ำมัน เช่น ยางโอริง,
ซีลยางกันน้ำมัน, บู๊ตยาง, ยางยอยและรับสั่งทำผลิตภัณฑ์ยางต่างๆ

ผู้บริหาร : คุณสุวัฒน์ บุญบรรดารสุข (กรรมการผู้จัดการ)

ข้อมูลติดต่อโรงงาน
999 หมู่ที่ 3 ต. นิคมพัฒนา กิ่ง อ. นิคมพัฒนา จ.ระยอง 21180
โทร : 0-3860-6000-7, 0-3860-6010 โทรสาร : 0-3860-6060
E-mail : factory@ncr-rubber.com

สำนักงานขายและส่งออก
69,71-73 ถนนบำรุงรัฐ แขวงสัมพันธวงศ์ เขตสัมพันธวงศ์ กรุงเทพฯ 10100
โทร : 0-2225-7656-7 , 0-2622-6992-6
ในประเทศ โทรสาร : 0-2224-0707 E-mail : salesadmin@ncr-rubber.com
ส่งออก โทรสาร : 0-2224-0791 E-mail : export@ncr-rubber.com

กำลังการผลิต ตลาดหลักภายในประเทศ ตลาดหลักในต่างประเทศ
4,800 ตัน ต่อปี (สายยาง LLH : 15 ล้านเมตร / ปี)

จำนวนพนักงานรวมของบริษัทฯ และบริษัทฯ ในเครือ 750



บทความนี้เกิดจากการเขียนและส่งขึ้นมาสู่ระบบแบบอัตโนมัติ สมาคมฯไม่รับผิดชอบต่อบทความหรือข้อความใดๆ ทั้งสิ้น เพราะไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นความจริงหรือไม่ ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรอง และหากท่านพบเห็นข้อความใดที่ขัดต่อกฎหมายและศีลธรรม หรือทำให้เกิดความเสียหาย หรือละเมิดสิทธิใดๆ กรุณาแจ้งมาที่ ht.ro.apt@ecivres-bew เพื่อทีมงานจะได้ดำเนินการลบออกจากระบบในทันที