TPA Magazine

ผู้เขียน : TPA Magazine

อัพเดท: 27 พ.ย. 2006 09.59 น. บทความนี้มีผู้ชม: 7014 ครั้ง

จากเงื่อนไขต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการสร้างกำแพงภาษี การสร้างเงื่อนไขทางด้านการค้าที่นานาประเทศตั้งขึ้นนั้น ทำให้เกิดการรวมตัวกันจัดตั้งเป็น WTO ที่ทำหน้าที่กำหนดกฎเกณฑ์ ระเบียบระหว่างประเทศ


"เพิ่มขีดความสามารถ คือการสร้างการยอมรับ"

จากเงื่อนไขต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการสร้างกำแพงภาษี การสร้างเงื่อนไขทางด้านการค้าที่นานาประเทศตั้งขึ้นนั้น ทำให้เกิดการรวมตัวกันจัดตั้งเป็น WTO ที่ทำหน้าที่กำหนดกฎเกณฑ์ ระเบียบระหว่างประเทศ เพื่อลดการกีดกันทางการค้า และวิธีการหนึ่งในการแก้ปัญหาดังกล่าวก็คือ การสร้างมาตรฐาน ให้กับสินค้าของตนเอง และแนวทางที่ WTO จะสามารถกำหนดมาตรฐานได้ จึงมีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่อง
     1.  การคุ้มครองผู้บริโภคภายในประเทศ
     2.  การคุ้มครองความปลอดภัย
     3.  สุขอนามัย
     4.  สิ่งแวดล้อม
     5.  ความมั่นคงของประเทศ

     ด้วยแนวทางของ WTO ได้กำหนดไว้ว่า ประการแรก ควรที่จะต้องอ้างอิงมาตรฐานระหว่างประเทศ เพื่อใช้เป็นแนวทางในการตกลงการค้าระหว่างกันได้สะดวกและเร็วขึ้น ประการที่สอง เมื่อมีมาตรฐานอ้างอิงเป็นที่ยอมรับร่วมแล้ว ควรมีกระบวนการตรวจสอบ และรับการรับรองเกิดขึ้น ซึ่งทั้งหมดนี้ สมอ. คือหน่วยงานของประเทศที่รับภารกิจดังกล่าว ในการสร้างมาตรฐานท้องปฏิบัติการสอบเทียบและทดสอบในประเทศไทยให้ได้มาตรฐานเพื่อผลประโยชน์ต่อผู้ประกอบการในประเทศไทย และเป็นหน่วยงานที่ให้คำตอบต่อทีมงาน For Quality ในครั้งนี้

Q.  นโยบายในการพัฒนาห้องปฏิบัติการสอบเทียบและทดสอบในประเทศไทยให้ได้มาตรฐาน
คุณไพโรจน์ :
  การพัฒนาห้องปฏิบัติการสอบเทียบและทดสอบในประเทศไทยให้ได้มาตรฐานเป็นกิจกรรมที่สำคัญ ที่จะทำให้ผลการทดสอบเป็นที่น่าเชื่อถือ และช่วยลดหรือละเว้นการทดสอบซ้ำจากประเทศผู้นำเขาสินค้า สมอ. จึงกำหนดนโยบายและแนวทางการดำเนินงานในการพัฒนาห้องปฏิบัติการสอบเทียบและทดสอบ โดยการดำเนินกิจกรรมการให้การรับรองห้องปฏิบัติการตามข้อกำหนด ISO/IEC 17025-1999 และลงนามในข้อตกลงร่วมด้านการรับรองห้องปฏิบัติการทดสอบและสอบเทียบกับ Asia Pacific Laboratory Accreditation Cooperation: APLAC และ International Laboratory Accreditation Cooperation: ILAC เพื่อให้ผลการสอบเทียบและทดสอบที่ดำเนินการโดย สมอ. เป็นที่ยอมรับในระดับสากล

Q.  กิจกรรมที่ส่งเสริมให้เกิดการสร้างมาตรฐานของห้องปฏิบัติการสอบเทียบและทดสอบ
คุณไพโรจน์ :  จากแนวทางการดำเนินงานที่ สมอ. จะต้องสร้างมาตรฐานให้เกิดการยอมรับในนานาประเทศแล้ว สมอ. ยังได้ทำการประชาสัมพันธ์เพื่อให้ห้องปฏิบัติการต่างๆ ที่มีความพร้อมขอรับการรับรองความสามารถห้องปฏิบัติการ แต่สำหรับห้องปฏิบัติการที่ยังไม่พร้อม หรืออยู่ระหว่างการจัดทำระบบ สมอ. ก็ให้การสนับสนุนโดยจัดทำโครงการฝึกอบรมและให้คำแนะนำการจัดการระบบคุณภาพห้องปฏิบัติการตาม มอก. 17025 (ISO/IEC 17025) โดยมีการจัดจ้างที่ปรึกษาจากหน่วยงานภายนอกที่มีความรู้ ความสามารถ มาให้การฝึกอบรมและให้คำปรึกษาแนะนำการจัดทำระบบแก่หน่วยงานและองค์กรที่เข้าร่วมโครงการ Training Lead By Consultancy: TLC

Q.  ความพร้อมของห้องปฏิบัติการสอบเทียบและทดสอบไทยกับการแข่งขันในตลาดโลก
คุรไพโรจน์ :  การที่ประชาคมยุโรปได้นำข้อกำหนดทางด้านเทคนิคมาเป็นเงื่อนไขในการควบคุมการนำเข้าสินค้าบางกลุ่มโดยกำหนดหลักเกณฑ์ในการยอมรับร่วม (mutual recognition) ให้การยอมรับผลการตรวจสอบที่ดำเนินการโดยห้องปฏิบัติการที่ได้รับการรับรองความสามารถตามมาตรฐาน ISO/IEC 17025-1999 จากหน่วยงานที่ให้การรับรองที่มีมาตรฐาน

     ดังนั้น ห้องปฏิบัติการสอบเทียบและทดสอบที่ได้รับการรับรองจาก สมอ. จึงมีคุณภาพและมาตรฐานเทียบเท่าในระดับสากล สามารถแข่งขันและเป็นที่ยอมรับจากตลาดโลกได้ เช่น การส่งออกสินค้าซึ่งมีใบรายงานผลการทดสอบที่ได้รับการทดสอบจากห้องปฏิบัติการที่ได้รับการรับรองจาก สมอ. แล้ว จะไม่ต้องมีการทดสอบซ้ำอีก ซึ่งทำให้ผู้ประกอบการสามารถลดระยะเวลาและต้นทุนในการผลิตในการส่งออกได้   

 

     
Q.  อุปสรรคที่ทำให้มาตรฐานห้องปฏิบัติการสอบเทียบและทดสอบไทยยังไม่พร้อมกับการแข่ง
คุณไพโรจน์ :  เท่าที่ทราบนั้น ปัจจุบันมีห้องปฏิบัติการที่ สมอ. ได้ให้การรับรองความสามารถห้องปฏิบัติการทดสอบและสอบเทียบแล้วรวม 173 แห่ง แบ่งเป็นห้องปฏิบัติการทดสอบ 129 แห่ง และห้องปฏิบัติการสอบเทียบ 45 แห่ง (ดูรายชื่อได้จาก www.tisi.go.th) แต่จากการรับรองความสามารถดังกล่าวนั้น ยังมีบางส่วนหรือบางสาขาที่อาจจะยังไม่ได้รับการรับรอง เช่น สาขาที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมยานยนต์ ไฟฟ้าอิเล็กทรอนิกส์ ฯลฯ เพื่อมารองรับความต้องการของผู้ใช้บริการ จึงจำเป็นจะต้องผลักดันให้ห้องปฏิบัติการเหล่านี้ได้รับการรับรองเพิ่มขึ้นในสาขานั้นๆ ที่มีอยู่ได้ครบวงจร ซึ่งห้องปฏิบัติการดังกล่าวยังขาดความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับข้อกำหนด โดยเฉพาะอย่างยิ่งการดำเนินการให้มีความสามารถทางด้านวิชาการ
     นอกจากนี้ยังมีปัญหาเกี่ยวกับการหาวัสดุอ้างอิงและเข้าร่วมโปรแกรมการเปรียบเทียบผลระหว่างห้องปฏิบัติการซึ่งค่าใช้จ่ายสูงและหาซื้อวัสดุอ้างอิงหรือหาแหล่งที่จะเข้าร่วมโปรแกรมไม่ได้ ในส่วนการให้การรับรอง ขอบข่ายบางอย่างไม่มีผู้ชำนาญการในประเทศยังต้องใช้ผู้เชี่ยวชาญจากต่างประเทศ ซึ่งจะต้องพัฒนาบุคลากรในประเทศให้มีความรู้ครอบคลุมทุกสาขา
     
Q.  การป้องกันไม่ให้เกิดห้องปฏิบัติการสอบเทียบและทดสอบที่ไม่มีคุณภาพ
คุณไพโรจน์ :  เนื่องจากมาตรฐาน มอก. 17025 - 2543 ข้อกำหนดทั่วไปว่าด้วยความสามารถของห้องปฏิบัติการทดสอบและห้องปฏิบัติการสอบเทียบ เป็นมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมที่ สมอ. ไม่ได้กำหนดให้เป็น มาตรฐานบังคับ ดังนั้น จึงเป็นทางเลือกของผู้ให้บริการทดสอบและสอบเทียบที่คำนึงถึงมาตรฐานและ สอบเทียบที่คำนึงถึงมาตรฐานและคุณภาพของการบริการ ในการนำข้อกำหนดดังกล่าวไปปรับใช้เพื่อให้การให้บริการสอบเทียบและทดสอบมีคุณภาพ มีความน่าเชื่อถือ และเป็นที่ยอมรับ
     และจากเหตุผลข้างต้น สมอ. จึงมีนโยบายสนับสนุนการจัดทำระบบคุณภาพของห้องปฏิบัติ ในรูปแบบของการให้ความช่วยเหลือหรือสนับสนุนการจัดทำระบบ เช่น
         
- สนับสนุนให้ห้องปฏิบัติการอื่นเข้าสู่มาตรฐาน มอก. 17025-2543 โดยการเข้าร่วมโครงการ TLC รวมทั้งประชาสัมพันธ์ให้หน่วยงานเห็นความสำคัญและประโยชน์ที่จะได้รับ
          - ประสานงานกับหน่วยงานที่ออกกฎระเบียบ (regulators) ให้ใช้ใบรับ รายงานผลการทดสอบและ / หรือใบรายงานผลการสอบเทียบจากห้องปฏิบัติการที่ได้รับการรับรอง
             ความสามารถห้องปฏิบัติการตาม มอก. 17025-2543

           - มีมาตรการในการออกหลักการให้ผู้ประกอบการต้องนำสินค้าไปให้ห้องปฏิบัติการที่ได้รับการรับรองความสามารถห้องปฏิบัติการตาม มอก. 17025-2543 ทำการทดสอบเท่านั้น
 
     
Q.  ขีดความสามารถด้าน "บุคลากร"  กับการพัฒนาอุตสาหกรรมไทย
คุณไพโรจน์ : ปัจจุบันการรับรองความสามารถห้องปฏิบัติการมีความพร้อมในเรื่องของบุคลากรระดับหนึ่ง โดยส่วนใหญ่ใช้บุคลากรด้านวิชาการร่วมกับหน่วยงานอื่นๆ ที่มีความชำนายเฉพาะด้านแต่สำหรับสาขาการทดสอบที่เกิดขึ้นใหม่ตามเทคโนโลยี ค่อนข้างจะคาดแคลน / ผู้ประเมินสำหรับสาขานั้นๆ  ภายในประเทศ จึงต้องจัดหามาจากต่างประเทศ โดยการขอความร่วมมือหรือจัดจ้าง หรือแม้แต่ส่งเจ้าหน้าที่ไปฝึกอบรมดูงานในสาขาใหม่ ณ ต่างประเทศ เพื่อให้กลับมาทำหน้าที่เป็นผู้ประเมิน และนำความรู้มาแลกเปลี่ยนประสบการณ์กับผู้เชี่ยวชาญและผู้ประกอบการภายในประเทศอีกทั้งทาง สมอ. เองยังจัดสัมมนา / ฝึกอบรมเพื่อแลกเปลี่ยนและเพิ่มความรู้ทางด้านวิชาการให้กับผู้ประเมินอย่างต่อเนื่องเพื่อพัฒนาขีดความสามารถทางด้านนี้ให้กับประเทศ
     
Q.  การเตรียมตัวเพื่อให้ทันกับการแข่งขัน
คุณไพโรจน์ :   การเตรียมตัวนั้น สิ่งแรก เลยที่จะต้องมองถึง คือห้องปฏิบัติการควรมีการจัดทำระบบคุณภาพให้เป็นไปตามมาตรฐาน ISO/IEC 17025 และขอรับการรับรองจากหน่วยรับรองห้องปฏิบัติการที่ได้มีการลงนามในการยอมรับร่วมระดับภูมิภาค และระดับระหว่างประเทศ และควรที่จะต้องติดตามข้อมูลข่าวสาร เทคนิคหรือเทคโนโลยีใหม่ๆ และกฎระเบียบต่างๆ ที่เกี่ยวข้องของกับต่างประเทศ เพื่อพัฒนาบุคลากรให้ทันกับเหตุการณ์ แต่ท้านสุดแล้ว ผู้บริหารขององค์กรนั้นๆ จะต้องเป็นผู้นำในการสร้างมาตรฐานให้เกิดขึ้น
     สำหรับห้องปฏิบัติการที่ยังไม่ได้รับการรับรอง ก็ควรที่จะเตรียมความพร้อมเพื่อขอรับการรับรอง โดยพิจารณาความพร้อมของบุคลากร เครื่องมือที่ใช้งานการสอบเทียบ สภาวะแวดล้อม วิธีทดสอบและเอกสารที่เกี่ยวข้องทั้งหมด ด้วยการศึกษาข้อกำหนด ISO/IEC 17025:1999 (มอก. 17025-2543) ให้เข้าใจและทำการขอการรับรองเป็นกระบวนการสุดท้ายตามขั้นตอนนั่นเอง
     ท้ายสุดแล้ว นอกเหนือจากสิ่งที่ สมอ. ได้สร้างขึ้นมาเพื่อพัฒนาและส่งเสริมให้เกิดมาตรฐานสากล สิ่งสำคัญอีกประการหนึ่ง ห้องปฏิบัติการสอบเทียบและทดสอบทั้งหลายเหล่านี้ จำเป็นที่จะต้องพัฒนาขีดความสามารถในสาขาที่ยังมิได้รับการรับรอง เป็นการต่อยอดความสามารถของห้องปฏิบัติการให้เพิ่มมากขึ้นต่อไปอีก



โดย : อรอนงค์  โรจนวิภาต
ขอขอบคุณ : วารสาร For Quality

บทความนี้เกิดจากการเขียนและส่งขึ้นมาสู่ระบบแบบอัตโนมัติ สมาคมฯไม่รับผิดชอบต่อบทความหรือข้อความใดๆ ทั้งสิ้น เพราะไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นความจริงหรือไม่ ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรอง และหากท่านพบเห็นข้อความใดที่ขัดต่อกฎหมายและศีลธรรม หรือทำให้เกิดความเสียหาย หรือละเมิดสิทธิใดๆ กรุณาแจ้งมาที่ ht.ro.apt@ecivres-bew เพื่อทีมงานจะได้ดำเนินการลบออกจากระบบในทันที