มะลิวัลย์

ผู้เขียน : มะลิวัลย์

อัพเดท: 01 ธ.ค. 2006 19.46 น. บทความนี้มีผู้ชม: 19797 ครั้ง

ปมของชีวิต..ขึ้นอยู่กับสภาพแวดล้อมของชีวิต และส่วนที่ช่วยตอกย้ำได้มากที่สุด คือวิธีคิดของเราเอง...


บทที่ 3 มัน..เริ่มขยายอาณาเขต

บทที่ 3
มัน…เริ่มขยายอาณาเขต

หลายต่อหลายครั้ง…ที่รู้ว่าเขาก็พอจะเป็นห่วง
แต่….ความห่วงใย.. ที่มากับความไม่ไว้วางใจ
จึงมีถ้อยคำ ดุด่า.. ว่ากล่าว
ตำหนิ..ติเตียน…อยู่ตลอดเวลา
เพราะกลัว …กลัว และ กลัว ว่าฉันจะทำไม่ได้ ..ทำไม่ดี
ฉันเริ่มขาดความเชื่อถือในตัวเอง…
เหมือนกับที่เขาขาดความเชื่อมั่นในตัวฉัน
ความเข้มงวด.. การใช้อำนาจขู่บังคับ..
ด้วยกลวิธีอันหลากหลาย..เพื่อที่จะเอาชนะ..ใจดวงเล็ก ๆ เช่น
น…ให้อยู่หมัด
ก้าวร้าว..รุนแรง ..หมางเมิน….เย็นชา.. และ…..เงียบเชียบ..
ไม่มีการชี้แนะ..ไม่มีการสอนที่จะให้เกิดความเข้าใจ
เขาต้องการสั่งสอนฉัน..ให้ฉันเกิดสติปัญญา..ด้วยการคิดเอง
เพราะความเข้มงวด มักมากับความดุดันที่แปรเปลี่ยนเป็นคำ
ดดี ๆ ไม่ได้
เขาพูดกับฉันไม่ได้
พูดทีไร..เขาก็อดที่จะอารมณ์เสียไม่ได้..
เขาไม่อยากให้เหตุการณ์รุนแรงไปมากกว่านี้
เขาไม่พูดกับฉัน
ฉันเองก็มิกล้าอาจเอื้อนเอ่ยปาก…
ท่าทีเช่นนั้น หัวใจดวงน้อย ๆ
มันหวาดหวั่นเกินที่จะบอกตัวเองให้เดินเข้าไปพูดคุย..
สายตาที่บ่งบอกถึงความโกรธ..
ฉันก็คิดด้วยประสบการณ์อันเยาว์วัยว่าเขา…เกลียดฉัน
เขา พูด ดี ๆ กับฉันไม่ได้
เขาไม่พูดกับฉัน
ปล่อยให้ฉันจมปลัก..อยู่เพียงลำพัง
อยู่กับคำพิพากษา.. ที่ต้องการให้ฉันรู้สึกผิด…
ให้ผิด..ให้ผิด…ให้ผิด..ให้เจ็บ และ ให้จำ และได้ไม่ทำอีก
รุนแรงเหลือเกิน กับคำตัดสิน
รุนแรงเหลือเกิน กับความผิดในวัยเยาว์ที่ฉันคิดไม่ได้…
ถ้อยคำ…รุนแรง…ซ้ำ ๆ วนเวียนอยู่ในหัวสมองเล็ก ๆ
ฉันผิด ฉันผิด และฉันผิด….
ความห่วงใย…ที่ส่งมากับคำดุด่า
มันกีดกั้นระหว่างฉันกับความเข้าใจที่ส่งมา
หัวใจอันอ่อนบาง..สร้างภูมิไม่ทัน
การรับรู้ในวันเยาว์….ฉันเข้าไม่ถึงมัน
ความภาคภูมิใจในตัวเอง..เริ่มเหลือน้อยลงทุกที
จุดเล็ก.ๆ เริ่ม ดำ หนา ขึ้น ในใจฉัน และ ขยายวงกว้าง….ออก
ไปอีก
ด้วยอำนาจของจุดดำในใจ มันสั่งให้ฉันเก็บงำความรู้สึกบางอย่าง
หลายต่อหลายครั้งที่ฉันนิ่ง เหมือนไม่มีความรู้สึก
แต่ในใจกับรุ่มร้อน รุนแรง เกรี้ยวกราด
หลายต่อหลายครั้งที่ฉันรับปาก และนั่งฟังคำสั่งสอน
แต่ในใจมันต่อต้านอย่างหนัก
และรู้ว่าตัวเองไม่เคยคิดจะทำตาม
ปล่อยให้เสียงที่ผ่านเข้าหู ทะลุไปอีกหูหนึ่ง
 โดยไม่คิดจะใส่ใจมัน
ฉันเกิดอาการสะใจเงียบ ๆ เมื่อทุกคนเกรี้ยวกราดกับเรื่องราวของฉันได้
ใคร ๆ ในบ้านก็พูดเป็นเสียงเดียวกันว่า
….ฉันเกิดอาการดื้อเงียบ
ไม่ตอบรับ ไม่ปฏิเสธ
ไม่มีปฏิกริยาตอบสนองต่อสภาพแวดล้อม…
จุดดำของฉัน …มันบอกให้ละเลยความใส่ใจ
ฉันเชื่อมันสนิทใจเพราะ…ความรู้สึกฉันมันบอกว่า สะใจดี…
หลายครั้งที่แม่ลงโทษฉันด้วยการตี..
ฉันนิ่งให้ตี…ให้ตีให้สะใจ…ลงโทษฉันซะให้พอ
คนอย่างฉันคงไม่มีใคร..มาห่วงใยหรอก…
ใช่..เธอคิดถูกต้อง จุดดำรีบสนับสนุน….
แม่ตีจนตัวเองเจ็บมือ
และเรียกร้องที่จะให้ฉันพูด และให้ฉันอธิบาย
ตอบรับหรือปฏิเสธอะไรก็ได้ ดีกว่าเงียบไปแบบนี้
และแม่ก็รู้สึกผิดที่ตีฉันรุนแรง…
แล้วแม่ก็เอาฉันเข้าไปกอด..
รู้สึกอบอุ่น…แต่มันสายเกินไปแล้วแม่…
จุดดำฉันมันบอกให้ฉันเฉยชา…ไม่ต้องรับรู้อาการเหล่านั้น..
มันบอกว่าแม่..ก็ดีแต่ขอโทษทีหลัง
ทีทำไม่รู้จักคิด…ดุด่าก่อนถามเหตุผลแทบทุกครั้ง
อย่าไปสนใจเลย..ไม่มีใครห่วงใยเธอจริงซักคนหรอกในบ้าน
….
ฉันเชื่อมันสนิทใจ…
ครูที่โรงเรียน…เชิญแม่ไปพบ
บอกว่าฉันมีอาการผิดปกติทางบุคลิกภาพ
ซึมเศร้า..แยกตัว..เก็บกด และก้าวร้าว
ชอบตีเพื่อนแรง ๆ …
แม่มองฉันตาปริบ ๆ ..เหมือนไม่รู้จะทำอย่างไรกับฉันดี…
ไม่มีประโยชน์ที่จะเอาใจใส่มันอีกแล้วล่ะแม่..
ฉันมีเพื่อนเป็นจุดดำ..ที่กระจายเต็มหัวใจ..
ซึ่งบางครั้งฉันก็ไม่อยากเชื่อมัน
แต่มันก็ชักจูงเอาจนฉันเชื่อจนได้
ฉันจะคิดและทำอะไร มันก็คอยเป็นเพื่อนคู่คิดอย่างสม่ำ
เสมอ…
และมันบอกขอบคุณ พ่อ กับแม่ และคนในครอบครัวของเรา
ที่เปิดโอกาสให้มันมีที่เจริญเติบโต..
และกำลังจะแตกแก่งก้าน ขยายสาขา
เติบใหญ่ในใจฉัน
ท่าทางมันจะชอบฉันเข้าจริง ๆ แล้วหละ…
ฉันกับมัน..เราเข้ากันได้ดี..ทีเดียว..
ทำไมเราถึงได้ไปด้วยกัน..ได้ดีถึงเพียงนี้
เป็นเพราะอะไร..พ่อกับแม่และคนในครอบครัวของเรา
พอจะตอบฉันได้มั้ย…
 


บทความนี้เกิดจากการเขียนและส่งขึ้นมาสู่ระบบแบบอัตโนมัติ สมาคมฯไม่รับผิดชอบต่อบทความหรือข้อความใดๆ ทั้งสิ้น เพราะไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นความจริงหรือไม่ ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรอง และหากท่านพบเห็นข้อความใดที่ขัดต่อกฎหมายและศีลธรรม หรือทำให้เกิดความเสียหาย หรือละเมิดสิทธิใดๆ กรุณาแจ้งมาที่ ht.ro.apt@ecivres-bew เพื่อทีมงานจะได้ดำเนินการลบออกจากระบบในทันที