วีรพล

ผู้เขียน : วีรพล

อัพเดท: 24 ธ.ค. 2006 19.44 น. บทความนี้มีผู้ชม: 3022 ครั้ง

รวมเรื่องราวของเพื่อนเอกภาษาญี่ปุ่น ที่เขียนรวมเล่มแจกเพื่อนในงานรับปริญญา


ช้าง  แป็น ๆ ๆ

ไก่เป็นสาวชาวแม่ฮ่องสอนที่ว่ากันว่าเป็นแดนลับแลหนึ่งในภาคเหนืออันลี้ลับและน่ากลัวน่าค้นหา  แต่ว่าไก่ตรงกันข้ามกับคำร่ำลือของจังหวัดของเธอโดยสิ้นเชิงเธอผู้นี้ออกจะหาตัวง่ายซะด้วยซ้ำไปรูปร่างที่ดุจสาวงามในสมัยเรอเนซองส์ขนาด  XXXL แบบนี้พูดได้เลยว่าเธอคือบุคคลที่แกร่งที่สุดในชั้นปี  นี้แหละหุ่นสาวแม่บ้านชาวญี่ปุ่นโดยแท้   ไก่มีจุดยืนและสถานที่อยู่ที่ตายตัวด้วยอัตราการย้ายหอเท่ากับ 0 คือก็คืออยู่มันที่นั้นแหละกูจะไม่ย้ายไปไหนตั้งแต่เข้าปี 1 ยันจบเลย  ถึงย้ายก็จะย้ายห้องอยู่ภายในหอและทำไมต้องเป็นชั้นสองอันนี่ผมไม่รู้  เธออยู่หอที่มีชื่อว่า  ยงสุข (เป็นที่ล่ำลือกันปากต่อปากจากปากไก่ว่าเจ้าของหอโครตเค็มเลยแต่ไก่ก็ไม่คิดจะย้ายหอไปที่ไหนอีกนั้นแหละ) หอนี้อยู่ไม่ไกลจากวิลัยแม้แต่นิดเดียวเลยจริง  ก็อยู่ทางด้านข้างๆรั้ววิลัยนั้นแหละเดินข้ามถนนมาก็เข้าเขตวิลัยแล้ว แต่ไก่ชอบขับรถมอเตอร์ไซด์มาเรียนคงเพราะอยากรับสายลมยามเช้าของเชียงใหม่ถึงแม้จะไม่กี่นาทีก็ตาม

(หรือว่าขี้เกียจเดินกันแน่)               

ไก่เป็นคนขยันขันแข็งไม่เคยขาดเรียนเลยซักคาบ ( แต่ไม่ค่อยจะขยันเดินมาจากหอมาวิลัยแหะ)  เวลาหลังเลิกเรียนถ้าเธอมีงานอดิเรกที่ท้าทายนั่นคือการ  หลับโดยที่เพื่อนคนอื่นไม่รู้เพราะเวลาหลังเลิกเรียนเป็นเวลาจำศีลของเธอ  แต่น้อยครั้งที่เธอจะได้หลับอย่างสงบๆก็เพราะเหตุผลที่ว่า

        การที่ไก่อยู่ชั้นสองของตัวตึกจึงเป็นการสะดวกและง่ายของเพื่อนๆต่อการรบกวนการจำศีลและทำกิจกรรมต่างๆของเธอ ไม่ว่าในช่วงเวลาที่ไม่รู้จะไปไหนอีกทั้งยังเป็นแหล่งที่ชุมนุมชั้นยอดอีกด้วย   คิดไปคิดมาถ้าเธอหนีไปอยู่ในชั้นที่สูงๆกว่านี้  ตัวตึกคงรับน้ำหนักเธอไม่ไหวเอาได้  

มีคนบอกว่าคนอ้วนนั้นไม่ค่อยเป็นคนคิดมากและแก้สถานการณ์เฉพาะหน้าได้ดี   ( ไม่รู้ว่าไปอ่านเจอที่ไหน) มันก็น่าจะเป็นไปได้นะเพราะว่าปัจจุบันนี้เวลาคนเราจะกินอะไรก็ตามกินของปิ้งๆ ย่างๆ ก็มีสารก่อมะเร็ง   กินนั่นก็เดี๋ยวจะอ้วน  กินนี่เดี๋ยวก็ว่าว่ามีสารผิดตกค้าง  แต่ในเมื่อไก่ไม่คิดอะไรมากไก่ก็เลยกินมันหมดเลย    จะกินอะไรที่ไหนอร่อยๆ ละก็ถามเธอได้เลย

ยกเว้นลูกชิ้นกับก๋วยเตี๋ยว   เพราะมีคำตอบตายตัวว่าจะกินสองอย่างนี้  “ต้องที่หน้าหอ ( ยงสุข ) นั้นแล....ง่ายไปมั้งเจ๊ 

 แล้วไอ้เรื่องง่ายนี่แหละทำให้เกิดเรื่องขึ้นมาจนได้ เกี่ยวกับเรื่องการเอาตัวรอดของเธอนั้นแหละก็เรื่องเกิดขึ้นในคาบเรียนภาษาญี่ปุ่นอีกนั้นแหละคนก่อนหน้านี้แต่งไว้แปลเป็นภาษาไทยได้ว่า  จากประเทศไทยไปประเทศญี่ปุ่นฉันขึ้นเครื่องบินไป  อีกคนมาบอกว่า ไปจากระยองไปเกาะเสม็ดแล่นฉันเรือสำราญส่วนตัวไป  ไก่ด้วยความที่กลัวน้อยหน้าเพื่อน  ไอ้คนนั้นไปญี่ปุ่นบาง  เกาะเสม็ดบาง  เธอจึงมาดมั่นและพูดประโยคออกไปจริงใจว่า “ ฉัน ............จากหอที่ฉันอยู่มาวิลัย  ฉัน.....ขึ้นรถสี่ล้อแดงมาลงที่หน้าโรงอาหาร(ไม่พ้นที่จะเกี่ยว กับเรื่องกินจนได้ คิดว่าจะมากินอะไรก่อนเข้าเรียนมั้ง )  ”

โอ้โฮ...พอจบประโยคเท่านั้นนะเป็นที่ชอบอกชอบใจของเพื่อนๆ  เป็นกานใหญ่ เพื่อนโฮร้องและแอบไม่เชิงแอบหัวเราะกันคิกคักโดยไม่ต้องเปิดระบบ Surround รอบห้องให้กำลังใจไก่จนตกลงไปอยู่ในชั้นบาดาลเอาแบบชนิดที่ว่าขึ้นมาไม่ได้เลย  ก็รู้ๆกันอยู่ว่าหายใจเฮือกเดียวจากหอไก่ก็เดินมาก็ถึงวิลัยแล้ว

  นี่คงเป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่ไก่ไม่ย้ายไปไหนไม่งั้น  คงหมดโอกาสนั่งรถสี่ล้อแดงโดยที่มีระยะทางสั้นที่สุดในโลก    ล่าสุดงานรับปริญญาต้องมีการค้างอ้างแรมกันที่เชียงใหม่ สาวแม่ฮ่องสองผู้นี้จะไปพักอยู่ที่ไหนได้ละ...    ถ้าไม่ใช่จุดที่เธอขึ้นรถสี่ล้อแดง มาลงที่โรงอาหารของวิลัยด้วยระยะทางที่สั้นที่สุดในโลก

เห็นไก่ตัวใหญ่แบบนี้ก็เถอะแต่ไก่กลัวช้าง

(ไอ้เข็มมันบอกมานะ...)

บางทีเพื่อความน่ารักไอ้เข็มมันก็เรียกไก่ว่ากุ๊กไก่แต่ว่านานๆจะได้ยินซักทีมีแต่เห็นมันทำท่างวงช้างทำเสียงแป็นๆ เวลาเจอไก่นี่อะดี

เกือบลืมเรื่องสำคัญ  ชื่อ4 สันเนี้ย  เธอนั้นแหละที่เรียกพวกเราๆ เป็นคนแรกก็เพราะประมาณตอนปีสองเนี้ย

ขณะที่พวกผม พี่เบียร์ ไอ้ตุ้ย ไอ้เข็ม เดินกันขึ้นมาเพื่อจะมานั่งเล่นกันที่หน้าห้องภาคไปเจอกับสาวน่ารักอย่างแรงประมาณว่าเป็นรุ่นน้องอยู่ปีหนึ่งใสกิ๊ง เดินมาเพื่อที่จะขึ้นไปชั้นบนเหมือนกันจากการสังเกตพวกเธอขึ้นไปชั้น 3  ส่วนพวกผมจะไปชั้น2 ตอนแรกพวกผมก็ไม่สนใจหรอกเดินไปนั่งกันหน้าห้องภาคเหมือนเดิมตามที่ตั้งใจไว้ แต่ว่าอย่ากระนั้นเลยบุพเพสันนิวาสครับท่าน... พวกน้องก็มานั่งหน้าห้องภาค(ภาษาฝรั่งเศส)เหมือนกันแต่ห้องของพวกเขานั้นแลไปทางซ้ายด้วย มุมเงยประมาณ 45 องศาเจอเลยบางคนก็นั่งหันหลังแต่ว่าที่ผมเล็งไว้ยืนหันหน้ามาคุยกับเพื่อนที่นั่งอยู่นี่...

 “เฮ้ย...สาวฝรั่งเศสว่ะ”

ไอ้เข้ม      “ ไม่เป็นไรเดียวกู..เตรียมพริกกับเกลือเอง”

 ไอ้ตุ้ย       “ เฮ้ย..ท่าทางจะเปรี้ยวเข็ดฟันน่าดู”

วี              “ ไม่เป็นไรเดียวกูทำน้ำปลาหวานเตรียมไว้เอง”

จากนั้นผมก็พยายามส่งสายตาและหัวใจดวงน้อยๆไปหาเธอคนที่อยู่ข้างบนนั้น คนอื่นนะเป็นไงผมก็ไม่รู้แต่ว่าสักพักมีมารครับ  เสียงแป๊นๆ มา(ร)ผจญ

ไก่  “ โฮเอย...ไอ้พวกหมาเห่าเครื่องบิน ”

อ้าวว่ากันแบบนี้เลยเหรอผมก็กำลังคิดว่าจะสวนกลับไปไงดีสักพักไอ้เข็มก็ตอบขึ้นอย่างทันควันว่า

ไอ้เข็ม “แล้วไง..พอดีเป็นหมาที่ชอบขับเครื่องบินเว้ย”

บวกกับท่าประกอบที่พวกเราสี่คนรวมกันทำโดยอัตโนมัติ

และก็ตามด้วยเสียง “โอย..โอย”  “โอย..โอย” “โอย..โอย” “โอย..โอย”  ด้วยใบน่าระรื่นแบบกวนๆ

“.....................................................”

ไก่ทำไงต่อนั้นแหละอยู่ดีๆก็พูดโพล่งออกมาว่า

“โถเอย...ไอ้พวกสี่สัน”

ไม่รู้เป็นไงเราสี่คนอึ้งเลยครับไม่รู้ครับแปลนะแต่มันรู้สึกว่าด่าเราซะเสียๆหายๆเลย          ก็งงกันอยู่เหมือนกันนี่...กับความหมายจริงๆ ของไอ้คำว่า  ไอ้พวกสี่สัน (ดารยังไม่ได้ซ่อม)

บทความนี้เกิดจากการเขียนและส่งขึ้นมาสู่ระบบแบบอัตโนมัติ สมาคมฯไม่รับผิดชอบต่อบทความหรือข้อความใดๆ ทั้งสิ้น เพราะไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นความจริงหรือไม่ ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรอง และหากท่านพบเห็นข้อความใดที่ขัดต่อกฎหมายและศีลธรรม หรือทำให้เกิดความเสียหาย หรือละเมิดสิทธิใดๆ กรุณาแจ้งมาที่ ht.ro.apt@ecivres-bew เพื่อทีมงานจะได้ดำเนินการลบออกจากระบบในทันที