suriya

ผู้เขียน : suriya

อัพเดท: 26 เม.ย. 2019 10.03 น. บทความนี้มีผู้ชม: 1538 ครั้ง

ก่อนที่จะต่อหรือทำกประกันภัยใดๆ นั้นควรรู้จักความหมายของคำที่นิยมเจอในกรมธรรม์ประกันกันก่อน


ก่อนที่จะต่อหรือทำกประกันภัยใดๆ นั้นควรรู้จักความหมายของคำที่นิยมเจอในกรมธรรม์ประกันกันก่อน

แน่นอนว่าการหา ซื้อประกันรถยนต์ที่ไหนดี นั้นเป็นเรื่องสำคัญ เพราะใครก็อยากได้บริษัทประกันภัยที่ดี ซึ่งในปัจจุบันนั้นเราสามารถดูรีวิวตามเว็บไซต์ต่างๆ ได้แล้วว่า ประกันภัยรถยนต์ที่ไหนดี และแต่ละที่นั้นมีเบี้ยประกันภัยและให้ความคุ้มครองอย่างไรบ้าง แต่ก่อนอื่นเลยนั้นที่เราอยากจะให้ทุกคนได้ทราบและเข้าใจกันก่อนที่จะไปหาว่าบริษัท ทำประกันรถยนต์ที่ไหนดี นั้นเราอยากให้รู้ถึงคำศัพท์ต่างๆ ที่เกี่ยวกับประกันรถยนต์กันไว้ เผื่อเวลาเราหาข้อมูลหรืออ่านกรมธรรม์ประกันภัยใดจะได้เข้าใจง่ายขึ้นนั่นเอง

  1. ภัย หรือ การเสี่ยงภัย (RISK) ซึ่งหมายถึง สิ่งที่เอาประกันภัย เช่น อาคาร รถยนต์ ตัวบุคคล หรือความรับผิดของบุคคล เป็นต้น นั้นเกิดเหตุการณ์ที่มีคความไม่แน่นอนจากผลลัพธ์ของเหตุการณ์นั้น หรือเหตุการณ์ซึ่งอาจก่อให้เกิดความเสียหายที่การประกันภัยให้ความคุ้มครอง เช่น ไฟไหม้ น้ำท่วม หรือภยันตราย เป็นต้น
  2. วินาศภัย ก็คือ ความเสียหายใดๆ ที่พึงประมาณเป็นเงินได้ รวมถึงความสูญเสียในสิทธิ ผลประโยชน์ หรือรายได้ด้วย
  3. คำขอเอาประกันภัย (Application Form) ก็คือ เอกสารสำคัญที่ทำขึ้นเพื่อแสดงความประสงค์ว่าจะเอาประกันภัยอย่างใดอย่างหนึ่งไว้กับผู้รับประกันภัย โดยผู้เอาประกันภัยมีหน้าที่ที่จะต้องเปิดเผยความจริง (Disclosure) โดยไม่ต้องรอให้ผู้รับประกันภัยถาม และถ้าหากมีการสอบถาม ผู้เอาประกันภัยจะต้องตอบตามความจริงทั้งหมด (Representation) มิฉะนั้นสัญญาประกันภัยอาจตกเป็นโมฆียะ
  4. กรมธรรม์ (Policy) ก็คือ หลักฐานที่ระบุถึงสาระสำคัญของข้อตกลง เงื่อนไข และความคุ้มครองตามสัญญาประกันภัย
  5. ผู้รับประกันภัย (The Insurer) ก็คือ คู่สัญญาประกันภัย (บริษัทประกันภัย) ที่ได้รับใบอนุญาตตามกฎหมายจากกรมการประกันภัย กระทรวงพาณิชย์ โดยผู้รับประกันภัยมีสิทธิได้รับเบี้ยประกันภัย และมีหน้าที่พิจารณารับประกันภัย ชดใช้ค่าสินไหมทดแทนเมื่อเกิดวินาศภัยขึ้นตามที่ระบุไว้ในสัญญา และในการชดใช้นั้นอาจชดใช้เป็นเงินสด การซ่อมแซมให้อยู่ในสภาพเดิม หรือการหาของชิ้นใหม่มาแทน ก็ได้
  6. ผู้เอาประกันภัย (The Insured) ก็คือ คู่สัญญาประกันภัยที่มีหน้าที่เปิดเผยข้อความจริงต่อผู้รับประกันภัย และมีหน้าที่ชำระเบี้ยประกันภัย และเมื่อเกิดความเสียหายขึ้นผู้เอาประกนำภัยมีสิทธิในการเรียกร้องค่าสินไหมทดแทนตามสัญญาในกรมธรรม์
  7. ค่าสินไหมทดแทน (Claim Amount) ความเสียหายที่ผู้เอาประกันภัยเรียกร้องให้ผู้รับประกันภัยชดใช้ อันเป็นผลมาจากภัยตามที่ระบุไว้ในกรมธรรม์และมีจำนวนตามที่เสียหายจริง
  8. เบี้ยประกันภัย (Premium) ก็คือ จำนวนเงินที่ผู้เอาประกันภัยต้องส่งให้กับผู้รับประกันภัย และถ้าผู้เอาประกันภัยไม่ชำระเบี้ยประกันภัย เมื่อเกิดความเสียหายขึ้นผู้รับประกันภัยก็อาจปฏิเสธการจ่ายค่าสินไหมทดแทนได้
  9. ทุนเอาประกันภัย (Sum Insured) ก็คือ จำนวนเงินสูงสุดที่ผู้รับประกันภัยจะต้องชดใช้ เมื่อมีความเสียหายเกิดขึ้นตามสัญญา
  10. ผู้รับประโยชน์ (The Beneficiary) ก็คือ บุคคลภายนอกสัญญาที่มีสิทธิเข้ารับประโยชนัยหรือไม่ก็ได้
  11. ค่าเสียหายส่วนแรก (Deductible) ก็คือ ค่าใช้จ่ายในส่วนที่ผู้เอาประกันภัย (The insured) ต้องรับผิดชอบเองในความเสียหายที่เกิดขึ้นแต่ละครั้ง ทั้งนี้ก็เพื่อให้ผู้ขับขี่ระวังมากขึ้นนั่นเอง
  12. โมฆียะ ก็คือ เหตุที่ทำให้สัญญาไม่เกิดขึ้น และไม่สามารถนำมาบังคับใช้ได้

 

 

 

 


บทความนี้เกิดจากการเขียนและส่งขึ้นมาสู่ระบบแบบอัตโนมัติ สมาคมฯไม่รับผิดชอบต่อบทความหรือข้อความใดๆ ทั้งสิ้น เพราะไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นความจริงหรือไม่ ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรอง และหากท่านพบเห็นข้อความใดที่ขัดต่อกฎหมายและศีลธรรม หรือทำให้เกิดความเสียหาย หรือละเมิดสิทธิใดๆ กรุณาแจ้งมาที่ ht.ro.apt@ecivres-bew เพื่อทีมงานจะได้ดำเนินการลบออกจากระบบในทันที