สักวันฉันจะไปกินข้าว บนดาวอังคาร

ผู้เขียน : สักวันฉันจะไปกินข้าว บนดาวอังคาร

อัพเดท: 04 ส.ค. 2020 15.21 น. บทความนี้มีผู้ชม: 66317 ครั้ง

สำหรับผู้ที่สนใจ สงสัย ในเรื่องประกันภัยต่างๆ แบบนั้น แบบนี้ เคลมได้หรือไม่ คำถามที่คุณหา เราอาจจะมีคำตอบ


ทำประกันรถยนต์ ประเภทไหน ชั้นไหนดีนะ

ทำประกันรถยนต์

ทำประกันรถยนต์ ประเภทไหน หรือชั้นไหนดี คงเป็นปัญหาที่ทุกๆคนที่มีรถต้องคิดในทุกๆปี เอาจริงๆ บางคนไม่ทราบด้วย ว่ามีแบบไหนบ้าง ฮาๆๆ วันนี้เราจะมาแกะกัน ว่าประกันแบบไหนจะเหมาะกับเรา ด้วยงบประมาณที่เรามี ด้วยการใช้งาน แบบไหนถึงจะคุ้มกันหนอ แล้วที่ทำไปมันคุ้มครองแบบไหนกันบ้าง 

 

  1. ทำประกันชั้น 1 เหมาะกับรถใหม่ครับ เราคงไม่อยากให้รถให้เอี่ยมของเรามีริ้วร้อยจริงมั๊ยครับ แต่อุบัติเหตุเกิดขึ้นแม้เราระวังครับ แต่ ไม่ใช่แค่เพียงรถใหม่นะครับ ที่ทำประกันชั้น 1 ได้ รถเราอาจจะมีอายุซักหน่อย ก็ทำได้ครับ จริงๆแล้ว ทำได้ถึง 15 ปีกันเลยทีเดียว จริงๆคนที่เหมาะกับประกันชั้น 1 คือคนที่พอจะมีกำลังทรัพย์ครับ ไม่เสียดายกับการซื้อความเสี่ยงครับ
  2. ทำประกันชั้น 2+ / 3+ ขอรวมมาเลยนะครับ เพราะความคุ้มครองใกล้กันเหลือเกิน ต่างกันตรงที่ 2+ มีรถหายไฟไหม้ครับ เบี้นประกันต่างกันประมาณ 1000 บวกลบนิดหน่อยครับ การที่เราทำประกัน 2+ / 3+ คือเราทำไว้เผื่อสถานะการณ์ที่ อาจจะไปชนคันอื่นเข้าเท่านั้นครับ ตัวรถเราถึงจะได้ความคุ้มครองจากประกัน คนที่เหมาะกับประกันแบบนี้คือ คนที่ค่อนข้างมั่นใจครับ ว่าฉันจะไม่ชนเสา กำแพง ฯลฯ หรือ ไม่หลับในแน่ๆ พวกรอยเล็กๆน้อย ไม่เป็นไรครับ แบบนี้เราก็จะเซฟเงินในกระเป๋าได้มากเลยทีเดียวครับ
  3. ทำประกันรถยนต์ ชั้น 2 / 3 ธรรมดา อันนี้ก็ขอรวมไว้เช่นกันนะครับ เพราะต่างกันเพียงรถสูญหายไฟไหม้ครับ และเอาจริงๆ ประกันชั้น 2 ธรรมดา ไม่ค่อยมีขายแล้วครับ เอาละประกันชั้นนี้ดียังไง ราคาครับ ราคาต่ำที่สุดแล้ว เพราะคุ้มครองเพียงความเสียหายของคู่กรณี เท่านั้นครับ คือรถเรา เราต้องซ่อมเองครับ ประกันจะดูแลแค่ความเสียหายที่เกิดจากรถของเราเท่านั้นครับ คนที่เหมาะกับประกันแบบนี้คือ คนที่อาจจะใช้รถน้อยครับ มีเผื่อเอาไว้เฉยๆ เผื่อเกิดเหตุ เผื่อไปชนใครเขาเข้า อย่างน้อยๆก็ควรมีชั้นนี้ไว้ครับ รถเก๋งเริ่มต้นไม่ถึง 2,000 บาทต่อปีครับ
  4. คนไม่ทำประกัน บางคนอาจจะเป็นคนที่เคยทำ แล้วไม่เคยเกิดเหตุ มองว่าสิ้นเปลืองครับ คิดว่าจะเสียทำไมทุกปี แต่ให้พึงระลึกไว้นะครับ ว่าเหตุเกิดขึ้นได้เสมอครับ ถ้าเกิดเหตุขึ้นมา การที่มีประกันไว้ ย่อมดีกว่าครับ มีไม่ได้ใช้ ดีกว่าจะใช้แล้วไม่มีนะครับ ทำเถอะครับ เชื่อผม

 

สุดท้ายนี้ ผมบอกไม่ได้หรอกครับ ว่าคุณควรทำประกันแบบไหน เอาจริงๆแล้วคือเรามีเงินที่พร้อมจะเสียกับค่าประกันแค่ไหนกันครับ แต่สิ่งมั่นใจได้เลย คือความคุ้มครองก็มาตามราคาครับ ทั้งนี้ทั้งนั้น การซื้อประกันคือการซื้อความเสี่ยงครับ อาจจะเกิด หรือไม่เกิดก็ได้ ถ้าไม่เกิดก็ดีใจด้วยครับ แต่การทำประกันไว้ก้ไม่เสียงใช่มั๊ยครับ ความคุ้มครอง 365 วัน กับเฉลี่ย วันละเกือบ 2 ชั่วโมงที่เราอยู่ในรถ(สำหรับคนเมือง) อะไรก็เกิดขึ้นได้ครับ ถ้าไม่รู้จะทำที่ไหน ผมมีแนะนำเป็นที่ https://www.easyinsure.co.th/ ลองดูได้ครับ ผมเองก็ใช้ที่นี่


บทความนี้เกิดจากการเขียนและส่งขึ้นมาสู่ระบบแบบอัตโนมัติ สมาคมฯไม่รับผิดชอบต่อบทความหรือข้อความใดๆ ทั้งสิ้น เพราะไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นความจริงหรือไม่ ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรอง และหากท่านพบเห็นข้อความใดที่ขัดต่อกฎหมายและศีลธรรม หรือทำให้เกิดความเสียหาย หรือละเมิดสิทธิใดๆ กรุณาแจ้งมาที่ ht.ro.apt@ecivres-bew เพื่อทีมงานจะได้ดำเนินการลบออกจากระบบในทันที