การทำความสะอาดคือการตรวจสอบ คนที่ทำ TPM คงไม่มีใครไม่เคยได้ยินคำนี้ ในตอนที่แล้วได้กล่าวถึงการเริ่มต้นทำความสะอาด การติด Tag การเขียน One Point Lesson ไปแล้วเมื่อมาถึงตรงนี้ สิ่งที่สำคัญก็คือการบริหารจัดการ Tag และ OPL ที่เกิดขึ้น
ตัวของ Tag นั้นอย่างน้อยก็ต้องมี 2 ก็อปปี้ 1 ก็อปปี้ติดที่จุดที่พบสิ่งผิดปรกติ อีก 1 ก็อปปี้ จะถูกดึงออก ทีนี้เมื่อดึงออกจะไปไหน???
Tag ตัวก็อปปี้ที่ถูกดึงออกต้องมาทำการพิจารณาว่าจะจัดการอย่างไร ใครเป็นผู้ทำ และทำเมื่อไร ดังนั้นผู้ที่ได้รับ Tag ไปคือผู้ที่ต้องตอบคำถามเหล่านี้ และใครล่ะที่จะต้องเป็นผู้ตอบคำถามนี้
ลองมาดูกันว่าเมื่อพบสิ่งผิดปรกตินั้น สิ่งผิดปรกติอาจแบบได้เป็น 2 ประเภท ตามการแก้ไข คือ
แก้ไขได้ทันทีด้วยตนเอง หมายความว่าเป็น Tag ที่พบสิ่งผิดปรกติ แต่เป็นสิ่งผิดปรกที่ไม่เสียหายมากหรือเป็นเพียงสิ่งผิดปรกติที่ไม่ใช่เรื่องยากอะไร เช่น น็อตหลวม สกปรก ของที่วางอยู่ผิดที่ผิดทาง สิ่งเหล่านี้ผู้ที่พบสามารถแก้ไขได้ทันทีด้วยตนเอง ดังนั้นการแก้ไขเรื่องพวกนี้พนักงานเดินเครื่องสามารถแก้ไขเองได้หรือหากไม่ได้อาจได้รับคำแนะนำเล็กน้อยจาก ช่างเพื่อทำการแก้ไข แต่พนักงานเดินเครื่องจะไม่ทำ
อีกประเภทคือ Tag ที่พนักงานเดินเครื่องไม่สามารถแก้ไขเองได้ เช่นการแตกร้าวของชิ้นส่วน การเสียหายของชิ้นส่วน ระดับน้ำมันที่ต่ำกว่าปรกติ การหล่อลื่นที่ไม่เหมาะสม เป็นต้น สิ่งเหล่านี้ผู้ที่ต้องทำการแก้ไขคือใคร คำตอบก็ชัดเจนอยู่แล้วคือ ช่าง นั่นเอง
ดังนั้น Tag ก็อปปี้ที่ถูกดึงออก ก็ต้องส่งไปที่ช่างเพื่อไปวางแผนการแก้ไขต่อไป
สิ่งที่ตามมาคือ Tag จะเต็มไปหมด เพราะในตอนแรกพนักงานเดินเครื่องจะไม่ทำการแก้ไขสิ่งผิดปรกติด้วยตนเองเลย และช่างก็จะพบกับความน่าเบื่อว่าทำไมเรื่องง่ายๆ แค่นี้ต้องให้ไปแก้ด้วยหรือ นี่เป็นเรื่องปรกติธรรมดาของทุกที่ที่เริ่มทำ TPM หากเราเป็นช่าง
ดังนั้นผู้ที่ต้องเข้ามาจัดการตรงนี้คือ ผู้บริหารของพนักงานเดินเครื่องและผู้บริหารของช่าง เพื่อที่จะเข้าไปลดความขัดแย้งนี้ลงโดย
ผู้บริหารของพนักงานเดินเครื่องต้องสนับสนุนให้พนักงานเดินเครื่องแก้ไข Tag โดยการได้รับคำแนะนำจากช่างและต้องแก้ไข Tag ด้วยตนเองให้ได้มากที่สุด
ผู้บริหารของช่างต้องสนับสนุนให้เกิดการถ่ายทอดความรู้เรื่องต่างๆที่ง่ายๆ จากช่างไปให้พนักงานเดินเครื่องผ่านการสอนงาน
งานนี้ต้องใจเย็นทั้งสองฝ่าย
การบริหารจัดการ Tag เป็นเรื่องที่สำคัญอย่างมาก การให้พนักงานเดินเครื่องทำความสะอาดนั้นเป็นเรื่องที่ยาก การที่ให้เขาติด Tag ก็ยาก แต่เมื่อติดไปแล้วแล้วไม่มีคำตอบจากสวรรค์ว่าจะแก้ไขเมื่อไร เขาจะรู้สึกอย่างไร??
ดังนั้นการบริหารจัดการ การสื่อสาร Tag แต่ละใบถึงสถานะของงานที่เป็นอยู่จึงเป็นสิ่งที่สำคัญมาก
การสนับสนุนให้เกิดการหาสิ่งผิดปรกติก็เป็นเรื่องสำคัญ การกำหนดให้พนักงานต้องหา Tag ให้ได้ไม่น้อยกว่าเท่านั้นเท่านี้ในแต่ละเดือน อาจเป็นสิ่งที่ดี เพื่อส่งเสริมให้เกิดการหาสิ่งผิดปรกติ แต่เมื่อเวลาผ่านไป จะเป็นเรื่องที่น่าเบื่อ เพราะพนักงานจะไม่รู้สึกว่าตื่นตัว ตื่นเต้นในการติด Tag อีกต่อไป แต่หากเปลี่ยนเป็นการส่งเสริมให้เกิดการแข่งขันในการทำความสะอาด ระหว่างหน่วยงานจะทำให้เกิดการตื่นตัวมากกว่าเพราะโดยสัญชาตญาณแล้วคนเราชอบแข่งขันและเอาชนะ
ดังนั้นการส่งเสริมให้เกิดการแข่งขันจึงเป็นกลยุทธที่ใช้ได้ผลระยะยาวมากกว่าการแข่งกันติดTag การประกวดประขันกันไม่ใช่เรื่องที่แข่งกันแบบเอาเป็นเอาตายแต่เป็นเพียงให้เกิดความตื่นตัวเท่านั้น
บทความนี้เกิดจากการเขียนและส่งขึ้นมาสู่ระบบแบบอัตโนมัติ สมาคมฯไม่รับผิดชอบต่อบทความหรือข้อความใดๆ ทั้งสิ้น เพราะไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นความจริงหรือไม่ ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรอง และหากท่านพบเห็นข้อความใดที่ขัดต่อกฎหมายและศีลธรรม หรือทำให้เกิดความเสียหาย หรือละเมิดสิทธิใดๆ กรุณาแจ้งมาที่ ht.ro.apt@ecivres-bew เพื่อทีมงานจะได้ดำเนินการลบออกจากระบบในทันที