ปกติแล้วไม่ค่อยมีความเกี่ยวข้องกับช่วง Rush Hour ของคนที่นี่เพราะไม่ค่อยได้ไปไหนตอนเช้าๆกับเขา มีบางช่วงที่มีงานล่ามไกลๆต้องออกจากบ้านแต่เช้า... รู้สึกว่าการเดินทางตอนเช้านี่เป็นอะไรที่ต้องใช้พลังชีวิตอย่างมาก (-_-;)
ขึ้นไปถึงชานชลาของรถไฟคนก็ยืนกันตรึมอย่างน่าตกใจว่าไอ้คนพวกนี้มันจะขึ้น รถไฟขบวนนึงหมดได้ยังไง?? (@_@;)
แต่มันก็หมด... เพราะพอประตูเปิด คนลงปุ๊บ ไอ้คนที่รออยู่มันก็จะยัดตัวเองเข้าไปกันอย่างรวดเร็ว ต้องใช้คำว่ายัดตัวเองจริงๆ เพราะมันไม่มีที่จะยืนได้อยู่แล้วแต่ยังยัดตัวเองเข้าไปได้ (-_-;) ใครยัดตัวเองไม่สำเร็จก็จะมีพี่ชายใจดีที่เค้าจะทำหน้าที่มาคอยยัดพวกเราเข้าตู้รถไฟให้ในตอนเช้ามาช่วยเราอีกแรง (-_-;) (เป็นพระคุณมาก)
เคยนะ... แบบว่ายังไม่ขึ้นไอ้ขบวนนั้น ยืนรอดูสถานการณ์สักพัก มันเป็นภาพที่น่าสนใจมาก เพราะัชั่วแวบเดียวที่รถไฟจอด คนล้านแปดเหล่านั้นก็ยัดตัวเองเข้าไปอย่างรวดเร็ว กระทั่งวินาทีสุดท้ายก็จะมีเฮียที่มาสายกระโดดกังฟูเสี่ยงกับการถูกประตูหนีบ แอคชั่นเข้าตู้ไปอย่างรวดเร็ว (ก็ถ้าจะไปขบวนนี้ทำไมไม่ตื่นให้มันร็วหน่อย) สิ้นเสียงสัญญาณรถไฟออก ชานชลาก็แทบจะว่างเปล่าไป 30 วิ แล้วคนก็จะมาจากไหนกันอีกไม่รู้ มาเข้าแถวกันเต็มเหมือนเดิม (แล้วก็จะมีพี่กังฟูเข้าไปอีก.. มันเป็นวัฎจักร)
หลังจากเอาชีวิตรอดยัดตัวเองเข้าไปในรถไฟได้โดยมีพี่ชายคนนั้นช่วย ก็ต้องมายืนกระต่ายขาเดียวอยู่ในตู้ เข้าใจแล้วว่าที่อาจารย์สมรให้ฝึกยืนขาเดียวหน้าห้องตอนสมัยนักเรียนนั่นให้เอามาใช้ตอนไหน (-_-;) (ความหวังดีของอาจารย์สมร)
แล้วก็เข้าใจด้วยว่าที่ว่ารถไฟญี่ปุ่นชอบมีพวกโรคจิตแอบแต๊ะอั๋งเนี่ยมันเป็นไปได้ยังไง
ก็แหม... ยืนกันจนแทบจะเป็นอันหนึ่งอันเดียวกับคนข้างๆเค้าขนาดนี้ (-_-;) อยู่นานอีกหน่อยคงได้รวมร่างเป็นซุปเปอร์ไซย่ากับคนข้างๆนี้อย่างแน่นอน ยืนไปก็ต้องเกร็งขาเกร็งตูด ยืนหยัดกับห่วงของใครของมันให้ได้มากที่สุด ใครอย่าเผลอปล่อยห่วงเชียวนะ จะมีคนมาเอาห่วงของเราไปเป็นของมันในทันที
ขอเช่ารายเดือนเลยได้ไหม... ไอ้ห่วงเนี่ย... (-_-;)
ขอชื่นชมว่าคนญี่ปุ่นเป็นชนชาติที่สะกดจิตตัวเองได้เร็วที่สุด.. ใครได้นั่งปุ๊บ! มันจะสะกดจิตตัวเองหลับไปทันที... (ศาสตร์อะไรลึกซึ้งชะมัด) แล้วหลับจริงนะ บางคนกรนด้วย.. บางคนเงยหน้าอ้าปากค้างน้ำลายยืด.. มีพี่คนนึงหน้าตาก็ดี หลับหงึกๆหัวไปฟาดกระจกดังโป๊ก!! (ดังมาก) อายคนทั้งตู้จนต้องรีบแกล้งหลับต่อ... (ไม่เลิกล้มความพยายาม)
แล้วมีเคยนึกนะว่าคนขับรถไฟญี่ปุ่นต้องเป็นบ้าแน่เลย เพราะชอบออกมายืนตะโกนอะไรก่อนออกจากสถานีอยู่เรื่อย (-_-;)
เพิ่งมารู้ทีหลังว่าการตะโกนตอกย้ำตัวเองแบบนี้เป็นส่วนหนึ่งของการทำงานที่ต้องควบคุมเครื่องจักร (^_^;) ต้องย้ำคิดย้ำทำเช็คแล้วเช็คอีกให้ตัวเองและเพื่อนร่วมงานได้ยินว่าซ้ายก็พร้อม ขวาก็พร้อม นี่ก็ทำแล้ว นั่นก็ทำแล้ว
ก็มาแหกปากซะใกล้ขนาดนั้นใครจะไม่คิดล่ะว่าบ้า
แต่ถ้าเค้าบ้าแล้วยังไงกันล่ะนี่...เราและไอ้คนพวกนี้ ก็คงบ้ากันหมดที่แย่งกันยัด ตัวเองเข้าไปในรถไฟที่คนบ้าขับ (-_-;)
มาญี่ปุ่นใหม่ๆตอนจะไปเรียน สอดตั๋วเข้าเกทแล้ว เห็นคนวิ่งกันใหญ่ ตกใจนึกว่าไฟไหม้เกิดไรขึ้น...
ไม่รู้ล่ะกรูวิ่งด้วย (เดี๋ยวกรูหนีไม่ทัน)
วิ่งๆๆขึ้นบันไดเลื่อนไปพร้อมกัน แทบจะเหยียบกันตาย
บ้า... เค้าแค่วิ่งไปขึ้นรถไฟกัน.. -_-; (นึกว่าหนีตายที่ไหน.. ทำไมวิ่งเอาจริงเอาจังกันอย่างนั้น) วิ่งกันแทบตาย มีเราคนเดียวที่ไม่ขึ้น... (คนคงงง แล้วหนูวิ่งทำไม??)
แล้วที่ญี่ปุ่นเนี่ย จะขึ้นบันไดเลื่อนต้องมีเว้นที่ให้คนเดินด้วย (ถ้าคันโตชิดซ้าย คันไซชิดขวา) คือจะแอบยืนคุยกับเพื่อนสองคนขึ้นบันไดเลื่อนคู่หนุงหนิงกันไปเนี่ยไม่ได้ ต้องแถวตอนเรียงหนึ่งแบบในยุวกาชาดเท่านั้น แล้วต้องระวังดีๆ ใครพลาดก้าวแรกที่เหยียบขึ้นไปจะไม่มีที่ยืน ต้องเดินขึ้นๆๆตามเค้าไปเท่านั้น (กดดันมาก) จะไปขอแทรกข้างหน้าเค้าก็ทำหน้ารังเกียจซะยังกับเราจะมาแย่งแฟนไป -_-;
ก็ไม่เข้าใจว่ามันจะเดินแล้วจะมาขึ้นบันไดเลื่อนทำไม ไม่ขึ้นบันไดธรรมดาไป.. แต่แบบคือขึ้นบันไดเลื่อนแต่เดินไปด้วยมันจะเร็ว x2 ไง
จริงๆบันไดเลื่อนเค้าไม่ได้สร้างมาให้เดิน บริษัทบันไดเลื่อนก็บอกว่าจริงๆคนที่ไม่หลบให้เดินก็ไม่ผิด เพราะไม่ได้สร้างมาให้เดิน ยังมาทำหน้าตกกะใจกันอีกว่า แล้วคนรีบจะให้ทำไง?
ก็ลองใช้ชีวิตแบบช้าๆดูบ้างสิ.. แล้วจะเข้าใจว่าบันไดเลื่อนเค้ามีไว้ทำไม.. มันไม่ได้เป็นอุปกรณ์หนึ่งสำหรับคนในช่วง rush hour ซะหน่อย...-_-;
บทความนี้เกิดจากการเขียนและส่งขึ้นมาสู่ระบบแบบอัตโนมัติ สมาคมฯไม่รับผิดชอบต่อบทความหรือข้อความใดๆ ทั้งสิ้น เพราะไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นความจริงหรือไม่ ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรอง และหากท่านพบเห็นข้อความใดที่ขัดต่อกฎหมายและศีลธรรม หรือทำให้เกิดความเสียหาย หรือละเมิดสิทธิใดๆ กรุณาแจ้งมาที่ ht.ro.apt@ecivres-bew เพื่อทีมงานจะได้ดำเนินการลบออกจากระบบในทันที