H. Kisara

ผู้เขียน : H. Kisara

อัพเดท: 14 มี.ค. 2008 07.59 น. บทความนี้มีผู้ชม: 136710 ครั้ง

เนื่องจากเป็นบันทึกในญี่ปุ่นที่ไล่มาจากในอดีต อาจทำให้มีเนื้อหาบางส่วนไม่อัพเดตและไม่ตรงตามฤดูกาลไปบ้างค่ะ m(_ _)m


อาหารญี่ปุ่น... ^_^;

     มีคนญี่ปุ่นหลายคนถามว่า อาหารไทยจริงๆคืออะไร เพราะบางอย่างไปกินแล้วมันคล้ายๆอาหารจีน (@_@;)

 

     อืมม์... อาหารไทยหลายอย่างที่ไม่ใช่อาหารไทยแท้แต่ก็เข้ามาในไทยซะนานจนไม่เหลือสภาพอาหารดั้งเดิมของชาตินั้นไปแล้วเนอะ ส่วนใหญ่ก็คงเป็นอาหารจีนนั่นล่ะ  อาหารไทยแท้ๆคือพวก น้ำพริกผักต้มเหรอ?? หรือพวกผัดน้ำพริกเผา น้ำพริกอ่อง.. กะปิ?? อย่างนั้นก็สรุปได้ว่า... อาหารไทยส่วนใหญ่เผ็ดจริงอย่างที่เค้าว่า??... แกงจืด... เป็นอาหารไทยมั้ยน้า.. เพราะพอพูดถึงแกงของไทย ก็จะพูดถึงแต่แกงไก่ แกงเหลือง พะแนง มัสมั่น... -_-;

 

     อาหารญี่ปุ่น... ก็ปะปนพอกัน... (-_-;) มีอาหารจากหลายชาติเข้ามาผสมเช่นกัน แต่ส่วนใหญ่จะแยกออกจากอาหารญี่ปุ่นได้อย่างชัดเจน 

     อย่างเช่นคาเรไรซ์ (ข้าวราดแกงกะหรี่) ที่จริงๆแล้ว เป็นอาหารเข้ามาจากประเทศอินเดียที่แม้จะเข้ามาญี่ปุ่นนานแล้ว แต่คนญี่ปุ่นก็แยกออกว่ามันไม่ใช่อาหารญี่ปุ่นแท้ 

     อาหารสไตล์ญี่ปุ่นจะมีคำเรียกว่า วะโชขุ (和食) ถ้าพูดถึงอาหารวะโชขุก็ได้แก่พวกโซบะ อุด้ง อุเมะโบชิ (บ๊วย) หรือกับข้าวที่มักจะใช้วัตถุดิบจากธรรมชาติที่หาได้ในแต่ละฤดู (รวมไปถึงการตกแต่งหน้าตาของกินตามฤดูด้วย) ซึ่งเป็นสเน่ห์ของวะโชขุอย่างหนึ่งที่ขาดไม่ได้

 

     ถ้าออกไปข้างนอกกับเพื่อนและลังเลเรื่องอาหารกลางวัน... มักจะถามกันกว้างๆ ว่า “อยากกินสไตล์ไหน?” เพราะถ้าอยากกินข้าวผัด เกี๊ยวซ่า ไม่มีขายในร้านอาหารญี่ปุ่นแน่นอน ร้านข้าวแกงกระหรี่ส่วนใหญ่ก็จะมีข้าวแกงกะหรี่อย่างเดียว(แต่อาจจะมีท็อปปิ้งหลาย อย่างให้เลือก) ร้านอาหารฝรั่งจะมีสปาร์เก็ตตี้ โดเรีย แฮมเบิร์ก และขนมปัง ร้านที่ค่อนข้างมีหลายอย่างให้เลือกก็มักจะเป็นร้าน Cafe หรือ Family Restaurant (แต่รสชาติก็จะงั้นๆ และราคาจะแพงพอสมควร)

 

     แต่ที่ทุกร้านจะต้องมีเหมือนกันเป็นส่วนใหญ่ แสดงถึงการมาเปิดร้านที่ประเทศนี้นั่นก็คือ... การมีอาหารเซ็ทให้เลือก (ส่วนใหญ่คือมื้อกลางวัน) (^_^) จะมีอาหารจานหลัก สลัด เครื่องดื่ม และบางทีมีของหวานให้ด้วย ที่สำคัญจะมีอาหารชุดคุณหนู ซึ่งมีแถมของเล่นให้บ้างอยู่เกือบทุกร้าน (^_^) (อาหารชุดเด็กนี่เป็นผู้ใหญ่สั่งไม่ได้นะ) (-_-;) นอกจากนี้ร้านอาหารที่ญี่ปุ่นส่วนใหญ่จะมีตู้โชว์รูปร่างหน้าตาอาหารอยู่หน้าร้าน ซึ่งเป็นกุศลของชาวต่างชาติมาก (-_-;) เพราะถึงอ่านเมนูไม่ออกก็พอจะมั่วซั่วชี้ใบ้แบ๊ะ ให้พนักงานดูได้ว่าจะเอาไอ้นี่ และยังช่วยให้เราพอจะกะขนาดจานอาหารของเราได้ด้วย เพราะราเม็งบางร้านชามอย่างกับกะละมังล้างผัก (บะหมี่ประมาณ 5 ก้อน มีหมูวาง 2 ชิ้น) (-_-;)

 

     ปัญหาที่ชาวไทยหลายคนประสบ (แต่เราไม่เป็นนะ) คือ... ทางร้านไม่ค่อยตามใจเรา (-_-;) 

     แม่ค้าไทยมักจะใจดีฟังรีเควสของลูกค้า (อย่างเสียไม่ได้) แต่ที่นี่มันยากที่จะไปสั่งอะไรนอกเหนือจากระบบของเค้า คนไทยบางคนก็สั่งเหมือนอยู่ที่ไทย จะไม่เอาถั่วงอก ไม่เอาหอม จะเพิ่มหมูเป็นพิเศษ ไม่ใส่ไข่ จะเอาแบบเนี้ยแต่ไม่กินเนื้อ เปลี่ยนเป็นหมูได้มั้ย?? กินไม่หมด จะให้ห่อกลับบ้าน -_-; แต่บางร้านเค้าก็ไม่ทำให้ 

     ไม่ใช่เพราะเค้างกหรือเค้าไม่มีสมองสั่งการอะไรหรอก  เค้าถือว่ามาตรฐานของที่ร้านเป็นเรื่องสำคัญ ของที่ทำออกมาต้องมาตรฐานเดียวกัน เค้าต้องคำนวณวัตถุดิบอย่างละเอียดเพื่อให้เหลือของเสียน้อยที่สุด (ลดcost) ไม่ใช่กะๆเอา ขนาดข้าวที่ตักให้เรา พนักงานยังต้องชั่งเป็นกรัมกันมาเลย และการใส่ห่อกลับบ้าน ที่บางร้านไม่ให้เพราะอาหารนั้นจะไม่อร่อยเหมือนกินที่ร้าน อาจเกิดข่าวลือไม่ดีถ้าคนอื่นไปกิน และถ้าลูกค้าถึงบ้านแล้วมันเสีย กินไปท้องเสียก็ฟ้องทางร้านอีก ซวย... (-_-;) 

     ใครดื้อรั้นอยากเอากลับบ้านก็ทำหน้าตาอดอยากหน่อยแล้วก็บอกเค้าไปว่าเรามาจากประเทศที่ยากจน เดี๋ยวเค้าจะเข้าใจเราเอง

 

     แต่ที่เราหลีกเลี่ยงไม่ได้เลยคือเรื่องการปรุงนี่แหล่ะ (-_-;) หันไปเห็นโต๊ะไหนมีไอ้บ้านั่งใส่ทุกอย่างบนโต๊ะลงไปในราเม็งแสนอร่อยที่เค้าภูมิใจนั่นแล้วล่ะก็.. 

     โต๊ะนั้นคนไทยค่ะ (-_-;) 

     ขอให้ได้ปรุงเหอะ มีอะไรไม่รู้วางไว้ 2-3 อย่างก็ยังขอให้ได้ใส่ บางร้านเจ้าของแทบจะร้องไห้ เพราะที่ญี่ปุ่นแต่ละร้านจะดังเรื่องสูตรอาหารของตัวเอง คนจะ ดั้นด้นมาจากที่ต่างๆทั่วประเทศเมื่อได้ข่าวว่าสูตรของที่นี่อร่อย... และเค้าก็จะมากินสูตรของเค้าจริงๆ ไม่ปรุงให้เสียรสแต่อย่างใด แต่อีเด็กไทยพวกนี้... (-_-;) มาลบล้างศักดิ์ศรีเค้าไปซะหมด...
 

     ถ้าเป็นอาหารญี่ปุ่นเลยก็จะจืดอย่างที่รู้กัน (และแพง) เพราะการทำอาหารแบบญี่ปุ่น เป็นการดึงรสชาติของวัตถุดิบนั้นออกมาโดยไม่ให้เสียรสดั้งเดิมที่มีอยู่ในธรรมชาติ คนญี่ปุ่นถึงดูดื่มด่ำกับความอร่อยนั้นได้ เค้าว่ามันเป็นศาสตร์ชั้นสูง...  แต่เพราะคำว่าอร่อยของเค้านั้นไม่เหมือนของเรา ไม่ได้อร่อยที่มีรสเปรี้ยว เค็มได้ที่ แต่อร่อยตรงที่รสดั้งเดิมของวัตถุดิบนั้นถูกดึงออกมาได้อย่างถูกต้อง เช่นหน่อไม้ต้มควรจะหวานแบบธรรมชาติ ก็ต้องดึงความหวานตรงนั้นออกมาใช้ ดังนั้นคนแก่บางคนมักจะกินอาหารไทยไม่ได้ และบอกว่าเค้าไม่มั่นใจว่าคนทำต้องการดึงรสอะไรของอาหารออกมากันแน่ (^_^;) ก็เหมือนที่เราไปว่าๆเค้าว่าของเค้าจืดนั่นแหล่ะ

 

     ฉะนั้นภาษาที่ใช้ในการบรรยายอาหารในภาษาญี่ปุ่นนั้นจึงละเอียดมากกกกกก หวาน หวานยังไง เค็มยังไง มันละเอียดอ่อน นุ่มละไมยังไง นักชิมต้องอธิบายให้ได้ ลิ้น sensitive สุดๆ (^_^;) (เป็นเราก็บอกได้คำเดียวว่าอร่อยหรือไม่อร่อย.. บรรยายไม่เป็น)

 

     มีเรื่องเล่าตอนไปหาอะไรกินกับคุณฮายาชิที่เมืองไทย ตอนนั้นก็เข้าร้านข้างทางไปร้านนึง คุณฮายาชิถามว่า...

 

     “ ร้านนี้ขายอะไรเหรอ?”

 

     “ อาหารตามสั่งค่ะ” (แปลไปตรงตัว)

 

        สามีอึ้งไปนิดนึง... ทำหน้างงๆ

 

     “อ้าว... แล้วปกติเค้าไม่ได้ทำให้ตามเราสั่งเหรอ? คนไทยนี่แปลกจริง”

 

     (^_^;)....

 
     เราแปลผิดหรือพวกเราแปลกจริงกันล่ะเนี่ย??
 




*************************************
นิยาย เรื่องสั้น ไดอารี่ Illust --> http://hayashikisara.warabimochi.net m(_ _)m


บทความนี้เกิดจากการเขียนและส่งขึ้นมาสู่ระบบแบบอัตโนมัติ สมาคมฯไม่รับผิดชอบต่อบทความหรือข้อความใดๆ ทั้งสิ้น เพราะไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นความจริงหรือไม่ ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรอง และหากท่านพบเห็นข้อความใดที่ขัดต่อกฎหมายและศีลธรรม หรือทำให้เกิดความเสียหาย หรือละเมิดสิทธิใดๆ กรุณาแจ้งมาที่ ht.ro.apt@ecivres-bew เพื่อทีมงานจะได้ดำเนินการลบออกจากระบบในทันที