hmong2x

ผู้เขียน : hmong2x

อัพเดท: 18 ก.ย. 2009 16.19 น. บทความนี้มีผู้ชม: 74429 ครั้ง

ทุกเรื่องราวที่ข้าพเจ้า ทั้งบังเอิญพาลพบ ประสบเหตุ หรือสะดุดได้เห็น หรือฝันประหลาด เก็บตกได้ คนให้มา ปลาโลมามาบอก อันเป็นประโยชน์ ผมสัญญาด้วยเกียรติของลูกเสือว่า จะรีบนำมาให้ท่าน ๆได้อ่านแน่นอนครับ


Web 3.0 คืออะไร (Introduction to How Web 3.0 Will Work)

The Intelligent Web
web 2.0
................................................web 3.0
. ‘the document web’ .............................‘the data web’
. information abundance .........................information control
. controversial .................................... no less controversial
. ‘the social web ................................. ‘the intelligent web’
. the second decade 2000-2009 ............. the third decade 2010-2020
. Google as catalyst ............................. Semantic web companies as catalyst
. wisdom of the crowds ......................... wisdom of the expert
. mashups, fragmentation ..................... integration, new mashup tools
. search, search, search ...................... why search, when you can find?
. Pagerank .......................................... ontologies, semantic systems
. lawless, anarchic ................................ standards, protocols, rules
. print and digital ................................... digital above all else
. I search, therefore I am ........................I find, therefore I create
Posted by Dean

ที่มา http://forum.nanosofttech.com/index.php?topic=671.0

Some Internet experts believe the next generation of the Web -- Web 3.0 -- will make tasks like your search for movies and food faster and easier. Instead of multiple searches, you might type a complex sentence or two in your Web 3.0 browser, and the Web will do the rest. In our example, you could type "I want to see a funny movie and then eat at a good Mexican restaurant. What are my options?" The Web 3.0 browser will analyze your response, search the Internet for all possible answers, and then organize the results for you.
­
That's not all. Many of these experts believe that the Web 3.0 browser will act like a personal assistant. As you search the Web, the browser learns what you are interested in. The more you use the Web, the more your browser learns about you and the less specific you'll need to be with your questions. Eventually you might be able to ask your browser open questions like "where should I go for lunch?" Your browser would consult its records of what you like and dislike, take into account your current location and then suggest a list of restaurants.

ที่มา http://computer.howstuffworks.com/web-30.htm

COMPUTERS, INC. เพิ่งทำการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างเว็บครั้งใหญ่ ให้สามารถตอบสนองพี่น้องได้มากขึ้น เพื่อดำเนินการให้เป็นไปตามหลักของ Web 2.0 ยังทำไม่ทันเสร็จเลย ค้นหาข้อมูลก็ดันพบกับข้อมูลเกี่ยวกับ Web 3.0 แล้ว ดูไปแล้ว Web 2.0 อายุอานามจะสั้นพอสำควร เพราะเพิ่มลืมตาอ้าปากได้ไม่เท่าไร น้องใหม่ก็กำลังเกิดมาแย้งซีนเสียแล้ว น่าสงสารจัง ToT’       Web 3.0 ถูกออกแบบมาบนพื้นฐานความเชื่อ และการวิเคราะห์จากปริมาณของข้อมูลใน Web 2.0 ที่มีขนาดใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ  ทำให้เว็บต่างๆ ต้องมีระบบบริหารจัดการเว็บให้ดีขึ้น ง่ายขึ้น ด้วยรูปแบบ Metadata ซึ่งก็คือการนำข้อมูลมาบอกรายละเอียดของข้อมุลนั้นๆ นั่นเอง โดยระบบเว็บจะเป็นผู้จัดการในการค้นหาข้อมูลให้เราเองครับ จึงสามารถคาดการณ์ถึงข้อมูลได้ว่าจะมีการเชื่อมโยงกันอย่างมีระบบระเบียบมากขึ้น

       Web 3.0 ดูๆ ไปแล้วก็คงเป็นการพัฒนา แก้ไขปัญหาในระบบ Web 2.0 มากกว่าสร้างบนพื้นฐานความรู้ใหม่ โดยจะไปเน้นเรื่องการจัดการข้อมูลในเว็บมากขึ้น และดีขึ้น ทำให้ผู้เยี่ยมชมสามารถเขัาถึงเนื้องหาของเว็บได้ดีขึ้นนั้นเอง

      เทคโนโลยีใหม่ๆ ที่น่าจะเข้าไปมีส่วนให้การพัฒนาเว็บให้เป็น Web 3.0 นั้น เท่าที่ค้นหาจากแหล่งต่างๆ ในอินเทอร์เน็ตพอสรุปได้คราวๆ ดังนี้…

  1. Artificial Intelligence (AI) อันนี้ไม่ต้องอธิบายมาก เป็นระบบสมองกล ที่นิยายวิทยาศาสตร์มักจะนำไปใส่ไว้ในหุ่นยนต์ โดยเจ้า AI จะสามารถคาดเดาผู้ใช้งานได้ว่ากำลังค้นหา หรือคิดอะไรอยุ่
  2. Semantic Web เป็นระบบที่มีการเชื่อมโยงข้อมูลต่างๆ ทั้งที่อยู่ในเว็บของผู้พัฒนาและแหล่งข้อมูลอื่นๆ ให้มีความสัมพันธ์กัน ซึ่งจะทำให้ระบบฐานข้อมูลมีขนาดใหญ่มากๆ หรืออาจทำให้เกิดฐานข้อมุลโลก (Global Database) ไปเลยก็ได้
  3. Composite Applications เป็นการผสมผสาน Application หรือโปรแกรม หรือบริการต่างๆ ของเว็บ ที่มาจากแหล่งต่างๆ เข้าไว้ด้วยกัน เพื่อประโยชน์ของผู้ใช้งานนั้นเอง
  4. Semantic Wiki คำว่า Wiki นี้ เราเริ่มเห็นๆ ออกมามากแล้วนะครับ เป็นการอธิบายคำๆ หนึ่ง คล้ายกับดิกชันนารีนั้นเองครับ ดังนั้นถ้า Web 3.0 เป็น Wiki ด้วยแล้วนั้น จะทำให้เราสามารถหา ความหมาย หรือข้อมูลต่างๆ ได้ละเอียด และแม่นยำมากขึ้น
  5. Ontology Language หรือ OWL เป็นภาษาที่ใช้ในการอธิบายสิ่งต่างๆ ให้มีความสัมพันธ์กัน โดยดูจากความหมายของสิ่งนั้นๆ ซึ่งก็จะเชื่อมโยงกับระบบ Metadata นั้นเอง (เขียนไว้ข้างบน)

จากทั้ง 5 เทคโนโลยีที่ว่ามานี้ ยังมีอีกหลายเทคโนโลยีที่จะเข้ามาพัฒนาให้ไปสู่ Web 3.0 ถ้าได้ข้อมุลมาผมจะทำการ update ให้นะครับ ต้องยอมรับครับว่า Web 3.0 เป็นเรื่องใหม่จริงๆ ข้อมูลขาดตกบกพร่อง ผิดพลาด หรือแนะนำสิ่งต่างๆ เกี่ย่วกับ Web 3.0 มาได้นะครับ จะขอบคุณยิ่ง

ที่มา http://www.computers.co.th/blog/?p=7

ขอบคุณแหล่งที่มามากๆคับป๋ม


บทความนี้เกิดจากการเขียนและส่งขึ้นมาสู่ระบบแบบอัตโนมัติ สมาคมฯไม่รับผิดชอบต่อบทความหรือข้อความใดๆ ทั้งสิ้น เพราะไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นความจริงหรือไม่ ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรอง และหากท่านพบเห็นข้อความใดที่ขัดต่อกฎหมายและศีลธรรม หรือทำให้เกิดความเสียหาย หรือละเมิดสิทธิใดๆ กรุณาแจ้งมาที่ ht.ro.apt@ecivres-bew เพื่อทีมงานจะได้ดำเนินการลบออกจากระบบในทันที