วิกูล

ผู้เขียน : วิกูล

อัพเดท: 11 ส.ค. 2008 16.25 น. บทความนี้มีผู้ชม: 49896 ครั้ง

ธรรมะคือหน้าที่ หน้าที่คือธรรมะ หน้าที่ของลูกๆที่พึงปฏิบัติต่อบิดามารดา ตามหลักศาสนา


หน้าที่ของ “ลูก” ต้องปฏิบัติต่อแม่พ่อ ๕ ประการ

หน้าที่ของ “ลูก” ต้องปฏิบัติต่อแม่พ่อ ๕ ประการ

 

วิกูล  โพธิ์นาง

๑๑ สิงหาคม ๒๕๕๑

pd_wikulp@hotmail.com

www.oknation.net/blog/wikulponang

 

18845_untitled01.jpg

 

ที่วัดสมัยเมื่อบรรพชาอุปสมบทอยู่ ท่านเจ้าอาวาสมักเทศนาเกี่ยวกับหน้าที่ ของลูกที่ต้องปฏิบัติต่อผู้ให้กำเนิดทั้งสองท่านอยู่เนืองๆ  จึงขอนำมาบอกกล่าวแม้ไม่ครบถ้วนตามที่ท่านเทศนานั้น ก็ไม่ตกหล่นไปในประเด็นเนื้อความสำคัญ

 

จึงขออาสานำมาบอกกล่าวกัน ด้วยภูมิปัญญาเท่าที่มีนี้ ด้วยความมุ่งหวังให้ลูกทุกคนได้มีหลักยึดพื้นฐานที่จะปฏิบัติต่อเทวดาทั้งสองคือแม่และพ่อ

 

วันแม่แห่งชาติ วันพ่อแห่งชาติ ของทุกๆปี เรามีกิจกรรมให้ลูก ได้มีโอกาสแสดงออกถึงความรักความเคารพต่อแม่พ่อ โดยจัดเป็นกิจกรรมต่างๆกันไป ล้วนเป็นแรงส่งเสริมให้เกิดการฉุกคิดถึงพระคุณทั้งสองท่านเป็นอย่างดี

 

การคิดถึงพระคุณท่านนั้นดีแล้ว แต่จะให้ดียิ่งๆขึ้นไป ต้องพร้อมไปด้วยการปฏิบัติต่อท่านตลอดไปชั่วชีวิต ในสิ่งที่ลูกพึงกระทำ นั่นคือทำหน้าที่ของลูกที่พึงปฏิบัติต่อผู้ให้กำเนิดทั้งสอง

 

ในทางพระพุทธศาสนาได้แสดงหน้าที่ของลูกพึงปฏิบัติต่อแม่และพ่อ ๕ ประการ ดังนี้

 

                ๑. ท่านเลี้ยงเรามาแล้ว ต้องเลี้ยงท่านตอบแทน  ข้อนี้มิได้หมายถึงว่าแม่พ่อเลี้ยงเรามา ก็เพื่อหวังมาเอาคืนในภายหลัง ความรู้สึกนั้นไม่มีแน่นอนกับแม่พ่ออย่างแท้จริง แต่ให้เราคิดว่าถ้าเราไม่เลี้ยงท่านแล้วใครจะเลี้ยง เหมือนเช่นเราครั้งเป็นทารก ถ้าหากท่านไม่เลี้ยงเราใครจะเลี้ยง แม้นปล่อยทิ้งๆขว้างๆก็คงลำบากยากแค้นไปแล้ว

 

                ๒.ทำกิจธุระของท่าน  งานของท่านที่ได้ทำมาแล้ว และยังคงดำเนินการอยู่ หรือภาระใดๆที่เกิดขึ้น ณ ปัจจุบัน เป็นสิ่งที่ลูกควรต้องสอบถาม แสดงน้ำใจทั้งช่วยท่านแบ่งเบาภาระ เพราะอายุท่านก็เยอะแล้ว คนอื่นทำก็คงไม่ทำให้ท่านสบายใจได้มากเท่ากับลูกของท่าน

 

                ๓.ดำรงรักษาวงศ์สกุล ให้คงอยู่และไม่เสื่อมเสียหาย การได้กำเนิดลูกมาคนหนึ่ง อย่างน้อยก็หวังให้ได้สืบทอดวงศ์สกุล ไม่ให้สังคมได้ดูแคลนว่าลูกบ้านนั้นบ้านนี้ไปทำเสื่อมเสีย จนต้องออกมาถามว่า “ลูกใครหนาช่างเป็นเช่นนี้” การที่จะให้สกุลคงอยู่ได้ลูกจึงต้องคบหาแต่เพื่อนที่ใฝ่ดี ไม่ชักชวนไปในทางเสื่อม โดยเฉพาะต้องทำหน้าที่ของตน ในเบื้องต้นคือเชื่อฟังคำสั่งสอนท่าน เรียนและศึกษาตามหน้าที่อย่างสมบูรณ์ แม้ไปทำงานจะมีครอบครัว ก็ต้องปรึกษาท่านเพื่อให้ได้มาซึงสามีภรรยาที่ดี

 

                ๔.ปฏิบัติตนเป็นคนดี เป็นผู้สมควรรับมรดก   มรดกสมบัติที่ท่านมีอยู่ สุดท้ายก็มอบให้กับผู้เป็นลูก แต่ก็จะเป็นผู้รับมรดกนั้น ต้องทำตนให้สมควรรับ เพื่อให้ท่านได้สบายใจว่าสมบัตินี้จะไม่สูญไปเมื่อมอบให้ นั้นคือต้องเป็นผู้อยู่ในศีล ในธรรม อย่างน้อยก็ศีล ๕  นอกจากนั้นก็ต้องศึกษาวิชาการที่เหมาะสมกับมรดกนั้นว่า จำเป็นต้องใช้ศิลปวิทยาใดบ้างจึงจะรักษาไว้ได้อย่างสมบูรณ์ ก็ต้องศึกษาเรื่องนั้นๆอย่างเต็มที่

 

                ๕.เมื่อท่านล่วงลับ ทำบุญอุทิศให้  เป็นหน้าที่ของลูกโดยตรง ที่จะต้องทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้ท่าน เพราะนอกจากจะได้ทำบุญอุทิศส่วนกุศลแล้ว ยังได้รู้จักบริจาคทาน เข้าหาพระ เข้าหาวัด นี้เองที่จะเป็นสิ่งไม่ให้เราเสื่อมไป แม้ท่านจะล่วงลับไปแล้ว

 

 

หากแม้นวันนี้ไม่มีแม่พ่ออยู่กับเราแล้ว ก็ให้ถือว่าผู้ที่ปกครองดูแลเรานั้นแหละคือแม่พ่อของเราเช่นกันที่เราก็ควรต้องปฏิบัติไม่ต่างกัน

 

เหนือสิ่งอื่นใดเราคนไทยทุกคนมี “แม่พ่อ” คนเดียวกัน ที่ทุกคนในพื้นแผ่นดินไทยรับรู้ด้วยใจว่าท่านคือ “แม่และพ่อแห่งแผ่นดิน”

 

นอกจากหน้าที่ทั้ง ๕ ที่ลูกควรทำกับพ่อแม่แล้ว ความสามัคคีคือสิ่งสำคัญที่แม่และพ่อแห่งแผ่นดิน หวังให้ลูกหลานไทยก่อเกิดและรักษา นั่นคือ “รู้รักสามัคคี”

 

ครับ “ธรรมะคือหน้าที่ หน้าที่คือธรรมะ” นอกจากดอกมะลิ หรือพวงมาลัยที่จะให้ท่านแล้ว ก็ขอฝากหน้าที่ทั้ง ๕ นี้ไว้เป็นพื้นฐานหน้าที่ ธรรมะที่เราจะพึงปฏิบัติต่อท่านตลอดไป

 

แล้ว “ความเจริญ” ต่อท่านและคนรอบข้างรวมถึงประเทศไทย ก็อยู่ไม่ไกลครับ แค่ลงมือทำ

 

///////////////////////////////////////////////////

ภาพ : อินเทอร์เน็ต

 


บทความนี้เกิดจากการเขียนและส่งขึ้นมาสู่ระบบแบบอัตโนมัติ สมาคมฯไม่รับผิดชอบต่อบทความหรือข้อความใดๆ ทั้งสิ้น เพราะไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นความจริงหรือไม่ ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรอง และหากท่านพบเห็นข้อความใดที่ขัดต่อกฎหมายและศีลธรรม หรือทำให้เกิดความเสียหาย หรือละเมิดสิทธิใดๆ กรุณาแจ้งมาที่ ht.ro.apt@ecivres-bew เพื่อทีมงานจะได้ดำเนินการลบออกจากระบบในทันที