วันนี้ได้อ่านเรื่องซับไพร์ม Pisan_Jia ก็บังเอิญนึกถึงพี่ที่ทำงานเค้าเคยเล่าเรื่องนี้ให้ฟัง แต่เป็นอีกแง่มุมหนึ่ง
พี่เค้าเล่าว่าน้องชายเค้าใช้ชีวิตและมีครอบครัวอยู่ที่อเมริกา เมื่อสองสามปีก่อนซื้อบ้านมาหลังหนึ่ง ราคาประมาณสองแสนเหรียญ ต้องผ่อนประมาณเดือนละ 5000 เหรียญ เค้าบอกว่า ที่ดินที่โน่น ช่วงที่ถูกปั่น ราคาขึ้นสูงมาก ตอนนั้นไม่มีใครคิดว่า ราคาที่ดินจะถูกลงอย่างรวดเร็ว เมื่อราคาที่ดินถูกลงมาก คนที่เคยซื้อบ้านหลังแรก ก็เริ่มทิ้ง แล้วมาซื้อหลังที่สองซึ่งถูกกว่าครึ่งหนึ่ง โดยใช้ชื่อญาติพี่น้องเป็นคนซื้อ อย่างกรณีพี่คนนี้ น้องเค้าก็โทรมาบอกให้ซื้อบ้านหลังหนึ่งซึ่งราคาสมัยที่แพง ๆ ประมาณสามแสนเหรียญ แต่ปัจจุบัน (เมื่อกลางปีที่แล้วเอง) ราคาไม่ถึง หนึ่งแสนสองหมื่นเหรียญ ผ่อนประมาณเดือนละ 3 พันเหรียญ แล้วก็หลังใหญ่กว่าหลังของเค้าตั้งเยอะ แต่ตัวเค้าจะซื้อเองไม่ได้ เพราะติดผ่อนหลังแรก ซึ่งเค้าก็เตรียมทิ้งแล้ว ถ้าพี่เค้าซื้อหลังนี้ เค้าจะทิ้งผ่อนหลังแรกเลย แล้วย้ายมาอยู่หลังที่สองแทน
พี่เค้าบอกว่า คนที่โน่นทำแบบนี้เยอะมาก คนที่ขาดทุนก็คือบริษัทที่ปล่อยกู้หรือธนาคารนั่นเอง คนที่ยังรวยอยู่ก็คือบริษัทพัฒนาที่ดินต่าง ๆ เพราะรับเงินไปเต็ม ๆ ตั้งแต่แรกแล้ว
แต่เราก็ไม่ได้ถามเค้าว่า แล้วถ้าน้องเค้าทิ้งผ่อน จะมีผลอย่างไรก็หนี้ก้อนแรก กฎหมายและธนาคารทางโน้นจะว่าอย่างไร
ก็เลยไม่รู้ว่า นี่เป็นเหตุผลหนึ่งของซับไพร์มด้วยรึเปล่า
บทความนี้เกิดจากการเขียนและส่งขึ้นมาสู่ระบบแบบอัตโนมัติ สมาคมฯไม่รับผิดชอบต่อบทความหรือข้อความใดๆ ทั้งสิ้น เพราะไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นความจริงหรือไม่ ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรอง และหากท่านพบเห็นข้อความใดที่ขัดต่อกฎหมายและศีลธรรม หรือทำให้เกิดความเสียหาย หรือละเมิดสิทธิใดๆ กรุณาแจ้งมาที่ ht.ro.apt@ecivres-bew เพื่อทีมงานจะได้ดำเนินการลบออกจากระบบในทันที
