hmong2x

ผู้เขียน : hmong2x

อัพเดท: 09 พ.ย. 2007 14.30 น. บทความนี้มีผู้ชม: 19061 ครั้ง

เพราะผมไม่ใช่พระเอกและเธอก้อไม่ใช่นางเอก แม้ไม่มีใครสนใจชีวิตและเรื่องราวของเรา เพราะไม่ใช่คนเด่นคนดังอะไร แต่เราเทิดทูลและบูชาในความรักของเราทั้งสอง และนี่จึงเป็นสิ่งน่าหวงแหนยิ่งสำหรับเรา กับคนธรรมดาสามัญแต่เทิดทูลในความรัก แม้ฟ้าดินก็ยังต้องอิจฉา


ขอบคุณครับ กับการที่เพื่อนๆล้อชื่อ พ่อ

"เหลง เตรียมตัวซะ แม่จะพาเองไปเรียนที่ศึกษาสงเคราะห์"
"จริงหรือครับแม่"
"เตรียมตัวให้พร้อมละกัน"
"ครับ แม่"

อายุก้าวย่างสู่วัยเรียน ผม หรือที่ที่คนเรียกว่า เหลง กำลังจะเข้าเรียนที่โรงเรียนประจำ ซึ่งจังหววัดภาคเหนือตอนล่างรู้จักกันดีในชื่อ โรงเรียนศึกษาสงเคราะห์เพชรบูรณ์ นับเป็นสิ่งที่ทำให้เด็กหลังเขาอย่างผมดีใจและตื่นเต้นเป็นอย่างมากเลยที่เดียวและอีก อย่างการได้เข้าเรียนที่นี่เป็นสิ่งที่เด็ก ๆทุกคนต่างไฝ่ฝันทั้งสิ้น เพราะเป็นอะไรที่สามารถมาคุยอวดกันได้ แม้จะเป็นแค่โรงเรียนศึกษาสงเคราะห์ ที่ไม่ได้ดีเท่าโรงเรียนในตัวเมือง แต่สำหรับเราแล้วมันคือความหวังสูงสุดของเด็กรุ่นราวคราวเดียวกัน

อายุตอนนั้น แม้จะย่างเข้า 8 ขวบแล้ว เมื่อเริ่มเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่หนึ่ง แต่ชาวดอยอย่างเรานับว่าไม่ได้อายุมากนักกับการเข้าเริ่มเรียนในระดับนี้ เพราะรุ่นพี่บางคนที่ศึกษาอยู่ในชั้น ประถม 5 หรือ 6 อายุอานาก็ปาเข้าไปแล้ว 18 หรือไม่ก็ 19 ปี เพราะบางคน ตอนอาจารย์ท่านจะทำโทษ ยังต้องแหงนหน้ามองหน้าลูกศิษย์ก่อนทำโทษกันเลยที่เดียว
 
ชีวิตในโรงเรียนประจำก็ต้องทำทุกอย่างให้เป็นไปตามเวลาที่กำหนด เพราะทุกอย่างจะมีเวลาเป็นตัวบังคับ ต้องตื่น 5.30 เพื่อออกกำลังกาย 6.30 - 7.00 น. ทำความสะอาด อาบน้ำแต่งตัวเพื่อกินข้าวเช้า จากนั้นเริ่มเข้าแถวและเรียนตอน 8.00 น. จนถึง 15.30 ก็กลับมาทำความสะอาด หอ ที่พัก อาบน้ำและกินข้าวเย็นตอน 17.00 น. จากนั้นก็เล่นสนุกกันตามประสาเด็กจน 20.00 ก็จะรวมตัวกันเพื่อสวดมนต์ และทำการบ้านนอน จะเป็นอย่างนี้ ตั้งแต่ประถม 1 - ประถม 6 เป็นชีวิตที่เซ็งสุด ๆ สมัยเด็กอย่างเรา ๆ ช่วงที่สบายและอยากให้เป็นอย่างนั้นตลอดตอนที่เรียนอยู่ที่นั่น คือ วันหยุดเสาร์และอาทิตย์ เพราะไม่ต้องรีบตื่นแต่เช้าไปออกกำลังกาย

"ครู ครับ ครู ครับ"
"มีอะไร"
"ซ่ง กับ สมศักดิ์ ต่อยกันครับ"
"เย้ง ไปพา 2 คนนั่นมาหาครูหน่อยสิ"
"ครับ"

ครูเชาวลิต (ครูโบก เป็นชื่อที่นักเรียนเรียกท่าน เพราะเวลาครูท่านเป็นครูเวรคุมที่โรงอาหาร ท่านมักเอ่ยว่า โบกได้ หมายถึงกินข้าวได้ นักเรียนทุกคนจึงมักเรียก ท่านว่า ครูโบก นั่นเอง) เป็นครูฝ่ายปกครองที่นักเรียนทุกคนกลัวและไม่อยากเข้าพบมากที่สุด แต่หากถามทุกคนที่จบจากที่นั่นแล้วว่า ครูคนไหนที่ทุกคนนึกออก และคิดถึงมากที่สุดคือใคร ทุกคนจะเอ่ยขึ้นว่า ครูโบก

"เธอ 2 คนกันทำไม"
"ซ่ง เค้าล้อชื่อพ่อผมครับ" สมศักดิ์ตอบ
"ซ่ง ไปล้อชื่อพ่อสมศักดิ์เค้าทำไม"
"สมศักดิ์ ล้อชื่อพ่อผมก่อนยนี่ครับ"
เมื่อเป็นอย่างนี้ ครูจึงทำโทษทั้ง 2 คน

การล้อเลียนชื่อพ่อ ชื่อแม่ นับว่าเป็นปัญหาใหญ่ที่เด็ก ๆ แทบทุกคนมักเจอและประสบกันบ่อย ๆและลงเอยด้วยการชกต่อยและถูกครูทำโทษทุกครั้งไป หากไม่เกิดกับตนเองบางครั้งก็พูดยากครับว่า ตัวเองรู้สึกอย่างไร

ผมจำได้ว่ามีครั้งหนึ่งเพื่อนในห้องเข้าล้อชื่อพ่อผม ในสมัยนั้นผมเรียนอยู่มัธยม 4 แล้ว อาจารย์ให้ไปรายงานหน้าชั้นเรียนเรื่องเกี่ยวกับการเช่า การเซ้ง อาคาร เพื่อน ๆ บางคนที่รู้จักชื่อพ่อผม ก็หัวเราะจนทำให้ทุกคนรู้จักกันทั่วว่าพ่อผมชื่อ เซ้ง อาจารย์ต้องเบรคทุกคนกันเลยที่เดียว ผมเองรู้สึกอายเหมือนกัน ที่ทุกคนต่างก็หัวเราะ

เมื่อถึงคราวกลุ่มผมรายงาน ซึ่งผมเองจึงเป็นตัวแทนกลุ่มเพื่อไปเสนอรายงานหน้าชั้นด้วย เมื่อไปยืนอยู่หน้าชั้น เพื่อบางคนก็ยังคงหัวเราะ จะด้วยอะไรไม่รู้ คงนึกขำที่รู้จักชื่อพ่อผมกระมัง "ขอบคุณครับ พ่อผมชื่อ เซ้ง ทุกคนคงรู้จักกันหมดแล้วนะครับ แต่อย่างไรก็ดี เมื่อทุกคนรู้จักแล้วถือว่าพ่อผมก็คงมีชื่อเสียงไม่น้อย เพราะอย่างน้อยทุกคนในห้องก็รู้จักแล้ว"

แล้วเสียงที่หัวเราะก็ค่อย ๆ เบาลง คนที่แอบยิ้มและหัวเราะดังจนได้ยินกลับเป็นอาจารย์ที่นั่งอยู่หน้าชั้นแทน


บทความนี้เกิดจากการเขียนและส่งขึ้นมาสู่ระบบแบบอัตโนมัติ สมาคมฯไม่รับผิดชอบต่อบทความหรือข้อความใดๆ ทั้งสิ้น เพราะไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นความจริงหรือไม่ ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรอง และหากท่านพบเห็นข้อความใดที่ขัดต่อกฎหมายและศีลธรรม หรือทำให้เกิดความเสียหาย หรือละเมิดสิทธิใดๆ กรุณาแจ้งมาที่ ht.ro.apt@ecivres-bew เพื่อทีมงานจะได้ดำเนินการลบออกจากระบบในทันที