เรื่องของระบบบริหารจัดการคุณภาพ
สวัสดีครับ ในตอนที่ 1 ผมได้แนะนำตัวเองและงานที่ดูแลจัดการอยู่มาบ้างแล้วนะครับ ในตอนนี้ขอเขียนเกี่ยวกับระบบบริหารจัดการคุณภาพครับ
หลาย ๆ ท่านคงคุ้นเคยกับมาตรฐาน ISO 9001 เป็นอย่างดี และท่านที่อยู่ในวงการอุตสาหกรรมยานยนต์ ก็ย่อมรู้จักกับมาตรฐาน TS 16949 ใช่ไหมครับ ผมคงไม่ลงลึกไปถึงรายละเอียดข้อกำหนดต่าง ๆ ของมาตรฐานเหล่านี้ แต่ผมตั้งใจจะเขียนถึงเหตุผลและประโยชน์ของการนำข้อกำหนดเหล่านี้มาประยุกต์ใช้ในการบริหารกระบวนการภายในองค์กรครับ
อันที่จริงยังมีมาตรฐานอื่น ๆ อีกที่เกี่ยวข้องกับระบบบริหารจัดการคุณภาพ เช่นมาตรฐาน JIS ของญี่ปุ่น มาตรฐาน VDA ของเยอรมัน เป็นต้น แต่มาตรฐานเหล่านี้เป้นมาตรฐานระดับประเทศหรือระดับอุตสาหกรรม ซึ่งไม่เหมือนกับมาตรฐาน ISO และ TS ที่เป็นมารตรฐานระดับนานาชาติ และได้รับการยอมรับทั่วไปครับ
ก่อนอื่นของย้อนกลับมาอธิบายพอสังเขปว่าทั้งสองมาตรฐานี้คือมาตรฐานอะไรกันบ้าง เผื่อท่านผู้อ่านบางท่านยังไม่คุ้นเคยครับ
มาตรฐาน ISO 9001 เป็นมาตรฐานนานชาติในอนุกรมมาตรฐาน ISO 9000 ครับ ชื่อเป็นทางการคือ “Quality Management System – Requirements” แปลตรง ๆ เลยก็คือ “ข้อกำหนดระบบบริหารจัดการคุณภาพครับ” มาตรฐานในอนุกรม ISO 9000 มีอยู่หลายตัวครับ เช่น ISO 9000 เป็นมาตรฐานที่ระบุแนวทางพื้นฐานและคำศัพท์ และ มาตรฐาน ISO 9004 เป็นมาตรฐานที่ระบุแนวทางในการปรับปรุงสมรรถนะของระบบ เป็นต้น แต่มาตรฐาน ISO 9001 เท่านั้นที่สามารถใช้ในการตรวจรับรองเพื่อขอใบรับรองได้ครับ
มาตรฐาน ISO/TS 16949 เป็นมาตรฐานนานาชาติด้านระบบบริหารจัดการคุณภาพเช่นเดียวกับมาตรฐาน ISO 9001 ครับ แต่ต่างกันที่ ISO/TS 16949 เป็นมาตรฐานสำหรับผู้ผลิตในอุตสาหกรรมยานยนต์ ผู้ผลิตสินค้าอื่น ๆ เช่น เครื่องใช้ในบ้าน งานบริการต่าง ๆ เป็นต้น ไม่สามารรถขอการรับรองในมาตรฐานนี้ได้ครับ ชื่อเป็นทางการคือ “Quality Management System – Automotive Suppliers – Particular requirements for the application of ISO 9001:2000” แปลเป็นไทยก็คือ “ข้อกำหนดพิเศษสำหรับการประยุกต์ใช้ ISO 9001:2000 ในระบบบริหารจัดการคุณภาพสำหรับผู้ส่งมอบชิ้นส่วนยานยนต์” สามารถใช้เพื่อการตรวจรับรองและขอใบรับรองได้ครับ
ทำไมจึงต้องขอการรับรอง?
ในมาตรฐาน ISO 9004 ข้อ 0.1 เรื่องทั่ว ๆ ไป ระบุว่าองค์กร ต่างมีวัตถุประสงค์ที่จะ
—ชี้บ่งและสนองความต้องการและความคาดหวังของลูกค้าและผู้มีส่วนได้ส่วนเสียอื่นๆ (บุคคลภายในองค์กร ผู้ส่งมอบ เจ้าของ สังคม) เพื่อให้บรรลุความได้เปรียบในด้านการแข่งขันอย่างมีประสิทธิผลและประสิทธิภาพ และ
—เพื่อให้บรรลุ รักษาไว้ และปรับปรุงสมรรถนะและความสามารถโดยรวมขององค์กร
ซึ่งการสามารถดำเนินการได้ดังวัตถุประสงค์ต่อไปนี้จะมีผลต่อ
—ความจงรักภัคดีของลูกค้า
—การซื้อซ้ำและลูกค้าช่วยบอกต่อ
—ผลประกอบการเช่น รายได้ และส่วนแบ่งการตลาด
—ความยืดหยุ่นและความรวดเร็วในการตอบสนองต่อโอกาสด้านการตลาด
—ต้นทุนและรอบการผลิตด้วยการใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิผลและประสิทธิภาพ
—การจัดเรียงกระบวนการที่ให้บรรลุผลลัพธ์ที่คาดหวังไว้
—ความได้เปรียบด้านการแข่งขันด้วยการปรับปรุงความสามรถขององค์กร
—ทำให้บุคลากรมีความเข้าใจและมีแรงกระตุ้นให้มุ่งที่เป้าหมายและวัตถุประสงค์ และมีส่วนร่วมในการปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง
—ความเชื่อใจของผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในประสิทธิผลและประสิทธิภาพขององค์กรที่แสดงให้เห็นในรูปของผลปรโยชน์ด้านการเงินและด้านสังคมจากสมรรถนะ วงจรชีวิตของผลิตภัณฑ์ และชื่อเสียงขององค์กร
—ความสามารถในการสร้างคุณค่าสำหรับทั้งองค์กรและผู้ส่งมอบด้วยการใช้ต้นทุนและทรัพย์กรให้เกิดประโยชน์สูงสุดพร้อมทั้งมีความยืดหยุ่นและรวดเร็วในการตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงของตลาด
ผมเห็นว่าคำอธิบายข้างต้นนี้ น่าจะเป็นทั้งคำถามและคำตอบสำหรับหาเหตุผลว่าทำไมต้องมีการประยุกต์ใช้ระบบบริหารจัดการที่สอดคล้องกับข้อกำหนด ISO 9001 สำหรับองค์กรที่ยังไม่ได้เริ่มจัดทำระบบหรือมีระบบอยู่แล้ว แต่อยากให้สอดคล้องกับมาตรฐาน
บางท่านอาจแย้งว่า ที่หลาย ๆ องค์กรจัดทำระบบเพื่อขอใบรับรอง เนื่องจากเป็นความต้องการของลูกค้า ไม่ใช่ความคิดขององค์กรเอง ซึ่งก็ใช่ครับ แต่ถ้ามองในเรื่องของวัตถุประสงค์ขององค์กรเอง ก็เพื่อชี้บ่งและสนองความต้องการของลูกค้า และความต้องการของลูกค้าให้องค์กรจัดทำและขอใบรับรองระบบ ก็เพราะลูกค้าเห็นความสำคัญและประโยชน์ของการจัดทำระบบ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นว่าระบบขององค์กรจะสามารถสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างต่อเนื่องนั่นเองครับ
ในบริษัทที่ผมทำงานอยู่ เป็นบริษัทที่มีผู้ถือหุ้นส่วนใหญ่ คือบริษัทแม่ในประเทศญี่ปุ่นครับ ก่อนการปรับปรุงระบบให้สอดคล้องกับข้อกำหนด ISO 9000 ก็มีหลาย ๆ อย่างที่สอดคล้องอยู่แล้ว คือเรามีทั้งแผนคุณภาพ มีใบอธิบายวิธีการทำงาน มีการใช้ใบขอให้วางมาตรการแก้ไข เลยทำให้การขอการรับรองมาตรฐาน ISO 9001 นั้นทำได้ค่อนข้างง่าย อีกอย่างคือในขณะนั้นบริษัทมีเพียงสองโรงงาน ฝ่ายต่าง ๆ และพนักงานยังไม่มากนัก เหตุผลหลักที่เราต้องของการรับรองคือเป็นการร้องขอจากลูกค้ารายใหญ่นั่นเองครับ
แต่ตอนนี้ก็เห็นแล้วว่าการจัดทำระบบให้สอดคล้อง เป็นประโยชน์มากสำหรับบริษัทเอง เนื่องจากบริษัทฯ เป็นผู้ผลิตชิ้นส่วนไม่สำเร็จรูป จึงมีลูกค้าหลายราย และมีการเปลี่ยนแปลงบ่อย ๆ ทั้งที่เป็นการเปลี่ยนแปลงข้อกำหนดจำเพาะ (specification) และการเปลี่ยนรุ่นครับ การมีระบบอยู่แล้วทำให้วิธีการบริหารจัดการมีความชัดเจนและขั้นตอนที่แน่นอนครับ อีกอย่างก็คือลูกค้าในปัจจุบันต่างร้องขอหลักฐานการรับรองก่อนเริ่มธุรกิจกันทุกรายครับ
............ยังมีต่อตอนหน้าครับ
บทความนี้เกิดจากการเขียนและส่งขึ้นมาสู่ระบบแบบอัตโนมัติ สมาคมฯไม่รับผิดชอบต่อบทความหรือข้อความใดๆ ทั้งสิ้น เพราะไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นความจริงหรือไม่ ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรอง และหากท่านพบเห็นข้อความใดที่ขัดต่อกฎหมายและศีลธรรม หรือทำให้เกิดความเสียหาย หรือละเมิดสิทธิใดๆ กรุณาแจ้งมาที่ ht.ro.apt@ecivres-bew เพื่อทีมงานจะได้ดำเนินการลบออกจากระบบในทันที