มะลิวัลย์

ผู้เขียน : มะลิวัลย์

อัพเดท: 01 ธ.ค. 2006 19.46 น. บทความนี้มีผู้ชม: 19855 ครั้ง

ปมของชีวิต..ขึ้นอยู่กับสภาพแวดล้อมของชีวิต และส่วนที่ช่วยตอกย้ำได้มากที่สุด คือวิธีคิดของเราเอง...


บทที่ 4 อิทธิพลของมัน

บทที่ 4

อิทธิพลของมัน

เรื่องเรียน..ฉันก็พอจะเก่งอยู่นะ..ถ้าฉันอยากที่จะทำมัน
และเคยที่จะได้คะแนนสูงสุดของห้องด้วย…

ครั้งหนึ่ง ฉันเอาสมุดพกไปอวดแม่..แม่บอกว่า
พี่แกก็เคยทำได้ แกเป็นน้องเขา ทำได้ อย่างนั้นไม่เห็นแปลก
ดีแล้ว หัด ตั้งใจเรียนซะบ้าง…มัน คือ คำชมหรือการว่า..
ฉันเริ่มสับสน…ไม่รู้ว่าจะต้องรู้สึกอย่างไร
แต่ที่แน่ ๆ ทำให้ฉันเริ่มไม่อยากเรียน..ไม่อยากทำความดี..
จุดดำมันได้ที รีบบอกว่า เห็นมั้ย…ไม่มีใครเห็นความสามารถของเธอหรอก
ฉันเคยพยายามจะทำในสิ่งที่ดี…
พยายามเหลือเกินที่จะได้มาซึ่งสายตาที่ชื่นชม..บ้าง
ฉันต้องการถ้อยคำชมเชย...ต้องการกำลังใจ
ต้องการความเชื่อมั่นในตัวฉัน
ต้องการคำยืนยัน…ว่าฉันคนนี้..ก็ยังมีความสำคัญ
แต่ดู ๆ ไป ฉันทำอะไร…ก็ดูไม่น่ารัก ไม่น่าเอ็นดู
ไม่ถูกใจ…
สิ่งที่ได้….เวลาทำดี คือ การแสดงความเฉยชา
ไม่ว่า..ไม่ชมเชย..
ใจบอกกับตัวเองว่า เขาน่าจะยินดี…แต่เขาไม่แสดงออก
ด้วยวัน..อันเยาว์วัย..ฉันจึงเข้าใจว่า..เขาไม่ใยดี
หัวใจดวงเล็ก ๆ มันแห้งผาก..และแข็งกระด้างขึ้นทุกวัน.
เฉยเมย…เงียบเชียบ..หวาดระแวง ก้าวร้าว เก็บกด…สับสนในตัวเอง
มรดกนิสัย..ที่มันมากับวันเวลาและประสบการณ์ที่ฉันได้พบมัน
ฉันเริ่มมองไม่เห็นค่าตัวเอง …ขึ้นทุกวัน
ฉันเริ่มสังเกตตัวเอง..จุดดำ ๆ ใจของฉัน มันกลายเป็นปม
ปมที่ขมวดเป็นเกลียว
บางครั้งมันรัดแน่น..เจ็บจนใจฉันรู้สึก…
เจ็บปวดกับเรื่องเล็กน้อย
ขัดแย้งในตัวเอง รู้สึกผิด เจ็บปวด ด้อยค่า…ขึ้นทุกวัน
ด้วยประสบการณ์…ฉันรู้สึกอย่างนั้น…
ค่าของฉันถูกหยิบยกและนำมาเปรียบเทียบกับคนอื่นเสมอ
การมองไม่เห็นค่าตัวเอง
ทำให้ฉันมีชีวิตอยู่อย่างหวาดกลัว..และไร้จุดหมาย
มองไปที่ใดของจิตใจและร่างาย
ก็มองไม่เห็นคุณค่าของมัน
จึงรู้สึกกลัวไปหมด…
กลัว..ฉันกลัวการเปลี่ยนแปลง กลัวสิ่งใหม่ ๆ กลัวคนใหม่ ๆ
ขาดความมั่นใจไปซะทุกอย่าง
เศร้าสะเทือนกับเหตุการณ์บางอย่างซึ่งฉันคิดไปเอง…
.มันเป็นการทำงานของปม…ที่มันอาศัยอยู่ในใจฉัน
ซึ่งนับวันมันยิ่งมีขนาดโตขึ้น และ มีอิทธิพลต่อฉันขึ้นทุกวัน ๆ
ฉันนั่งมองอาการของมันด้วยความร้อนรนและเจ็บปวด
ความอ่อนไหว..ที่กลายเป็นความอ่อนแอ
ทำอะไรไม่เคยสำเร็จ จับจด โลเล ใจร้อน ขี้หงุดหงิด
ฉันกลายเป็นคนเข้ากับเพื่อนไม่ได้….ฉันกลายเป็นคนที่มีปัญหาด้านการปรับตัว
ต่อหน้าคนอื่นฉันไม่สนใจ…แต่ฉันกลับเจ็บปวดทุกครั้งที่อยู่คนเดียว
อยากหยุดยั้งอาการเหล่านี้…..แต่กาลเวลามันสั่งสมจนตกผลึกเป็นตะกอน
มันติดหนึบ..จนแกะไม่ออก
มันได้กลายเป็นส่วนหนึ่งของฉันไปเสียแล้ว…..
ฉันเริ่มเกเร…ไม่อยากเข้าเรียน
เสียงเฮฮา สนุกสนานของเพื่อน ..มันช่างน่ารำคาญ
การอ่าน ฟัง เขียนเรียนวิชา
มันช่างน่าเบื่อทีสุด
ครูผู้แก่คราวป้า....พูดมากจนน่ารำคาญ
สภาพแวดล้อมรอบตัว..น่าเบื่อไปหมด
เจ้าปมในใจมันสั่งให้ฉันไปหา..ไปหาวิมาน..ไปตามหาความฝัน
ที่ไม่มีใครขัดขวาง…ฉันเชื่อมันสนิทใจ….
หัวใจของฉัน
ซีกหนึ่งมันมุ่งมั่น ทุมเท จริงจัง และเต็มไปด้วยความคาดหวัง
อยากทำอะไรบางอย่างที่ยิ่งใหญ่..เพื่อพิสูจน์ว่าคนอย่างฉันก็ทำได้
แต่อีกซีกหนึ่งกลับหวาดกลัว
มีเสียงหัวเราะเยาะแล้วบอกว่า
น้ำหน้าอย่างเอ็ง..รึ..จะทำได้
พลางรั้ง พลางบ่อนทำลายให้หมดกำลังใจ
มันต่างก็ต่อสู้กัน..อยู่ในหัวของฉัน
ฉันสันสน..ทุรนทุรายกับความคิดของตัวเอง
อึดอัด เก็บกด หนักอึ้ง เหลือเกินกับความรู้สึกนี้
กับความคาดหวังที่มี
กับความคิดที่ด้อยค่าที่มาทำลายล้างกัน
ฉันบอกกับใครก็ไม่ได้
ในความรู้สึกฉัน
ฉันมันเป็นแค่มดตัวเล็ก ๆ ที่ไม่มีค่าไม่มีความหมายกับใคร
ป่วยการที่จะบอกถึงความอ่อนแอที่เป็นอยู่
ไม่อยากได้รับคำซ้ำเติม….ฉันคิดเช่นนั้น
ฉันเริ่มอยากหนี
หนีออกจากความจริงที่เป็นอยู่
หนีออกจากหัวใจที่สับสนในตัวเอง
หนีไปกับความฝัน..ที่พาฉันไปในที่ที่ฉันปรารถนา
หลุดพ้นจากใครต่อใคร..ที่ไม่รักฉัน
หลุดพ้นจากความทรงจำอันห่วยแตก
หลุดพ้นจากประสบการณ์อันเจ็บปวดและเรื้อรัง
หลุดพ้นจากความเหงาและเดียวดาย..ซะที
จุดดำ ๆ ตอนนี้เป็นเติบโตเป็นปมไปเรียบร้อยแล้ว
มันเจริญเติบโตได้ดีในดวงใจอันอ่อนแอ..เช่นฉัน
ตอนนี้มันเริ่มมีอำนาจเหนือฉัน
สั่งให้ฉันทำ สั่งให้ฉันคิดโน่น นี่ นั่น ตามที่มันจะบัญชาการ
มันสั่งให้ฉันเกลียดพ่อ เบื่อแม่
เกลียดพี่ชาย เบื่อพี่สาวและน้องสาว
มันสั่งให้ฉันเริ่มชกต่อยกับเพื่อน ที่โรงเรียน ทุกวัน
มันสั่งให้ฉันหนีเรียนเป็นประจำ
พ่อ..มองฉันด้วยแววตาตำหนิอย่างรุนแรง
เมื่อถูกครูเชิญไปรับทราบเรื่องราวของฉัน
พ่อไม่เอ่ยถามถึงความรู้สึกและเหตุผล..ซักคำ
แต่กลับยกความดีงามของพี่ชายขึ้นมา
เพื่อเปรียบเทียบและหวังว่าจะให้ฉันสำนึกและเอาเยี่ยงอย่าง
มันไม่เข้าหัวฉันหรอก…
เพราะใจฉันมันไม่สะอาดแล้วพ่อ..
มันเต็มไปด้วยปม…ซึ่งฉันจะโทษใครดี
ที่ทำให้มันลุกลามทั่วไปในใจฉันขณะนี้
แต่ฉันอยากบอกพ่อว่า
พ่อนั่นแหละเป็นคนให้อาหารแก่ปมนี้
แม่ก็เช่นกัน พี่ชายยิ่งตัวดี
แย่งกันให้อาหารจนปมมันแข็งแรงเติบโตและมีพลัง..
จนมันมีอำนาจเหนือฉัน มันสามารถยกคอฉันให้ชูชัน
หรือสามารถกดฉันให้ตกต่ำ
บีบฉันให้ตัวเล็กลง..จนแทบไม่เหลือตัวตน…
บอกไปใครจะเข้าใจ
บอกไปใครจะรับได้
ว่าหัวใจฉันมันไม่ปกติ
มันรังแต่จะต่อต้าน
มันรังแต่จะก่อเรื่อง
ให้สาสมกับที่ทุก ๆ คนทำกับฉัน
ปมในใจฉัน…มันบัญชาการฉันมา
 
 

 

 

 


บทความนี้เกิดจากการเขียนและส่งขึ้นมาสู่ระบบแบบอัตโนมัติ สมาคมฯไม่รับผิดชอบต่อบทความหรือข้อความใดๆ ทั้งสิ้น เพราะไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นความจริงหรือไม่ ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรอง และหากท่านพบเห็นข้อความใดที่ขัดต่อกฎหมายและศีลธรรม หรือทำให้เกิดความเสียหาย หรือละเมิดสิทธิใดๆ กรุณาแจ้งมาที่ ht.ro.apt@ecivres-bew เพื่อทีมงานจะได้ดำเนินการลบออกจากระบบในทันที