จากกราฟในรูปที่ 6 ข้างล่าง ตั้งแต่มีการบันทึกอุณหภูมิโลกซึ่งเริ่มต้นในปี ค.ศ. 1860 อุณหภูมิพื้นผิวโลก (รวมมหาสมุทรและพื้นดิน) ได้เพิ่มขึ้นประมาณ 0.6 °C ดูผิวเผินแล้วไม่มาก แต่ในความเป็นจริงแล้วเป็นการเปลี่ยนแปลงที่มากและรวดเร็วในรอบ 10,000 ปีทีเดียว จากกราฟในรูปที่ 6 พบว่าสี่ในห้าของปีที่อุณหภูมิสูงสุดเกิดขึ้นในปี ค.ศ. 2001 2004 และอุณหภูมิสูงสุดใน 20 อันดับแรกได้เกิดขึ้นหลังปี ค.ศ. 1980 และนี่เป็นหลักฐานที่ชัดเจนว่าโลกของเราร้อนขึ้นจริงๆครับ
รูปที่ 6 : รูปกราฟแสดงอุณหภูมิเฉลี่ยของผิวโลก (พื้นดินและมหาสมุทร) ที่บันทึกไว้โดยใช้เทอร์โมมิเตอร์ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1860
จากการพยากรณ์ล่าสุดของ The Intergovernmental Panel on Climate Change (IPCC) ที่พิมพ์เผยแพร่แล้วพบว่าอุณหภูมิเฉลี่ยของผิวโลกจะเพิ่มขึ้น 1.4 5.8 °C ภายในสิ้นศตวรรษที่ 21 อุณหภูมิที่เปลี่ยนแปลงถึง 6°C นี้เป็นการเปลี่ยนแปลงอย่างมหาศาลและรวดเร็ว คือเพิ่มขึ้นถึง 10 เท่า จากศตวรรษที่ 20 และเปลี่ยนแปลงภายในเวลาเพียง 100 ปี เทียบกับที่นาย Svante Arrhenius คาดการณ์ไว้ที่ 2,000 ปี
รูปที่ 7 (ก)
และ
รูปที่ 7 (ข) กราฟแสดงการพยากรณ์ปริมาณก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่เพิ่มขึ้นกับอุณหภูมิเปลี่ยนแปลงเฉลี่ย
จากรูปที่ 8 แสดงแผนที่อุณหภูมิเปลี่ยนแปลงเฉลี่ยของโลกแสดงให้เห็นอุณหภูมิที่คาดว่าจะเกิดขึ้นในทศวรรษ 2080 ซึ่งได้จากแบบจำลองภูมิอากาศ (climate model) ที่อัตราการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์สู่ชั้นบรรยากาศโลกที่ปริมาณหนึ่ง จะเห็นได้ว่าบริเวณซีกโลกเหนือและมหาสมุทรอาร์กติกจะมีอุณหภูมิเปลี่ยนแปลงเพิ่มขึ้นถึง 10°C มีโอกาสเป็นไปได้ว่าน้ำแข็งที่อยู่ในมหาสมุทรและบนพื้นดินบริเวณดังกล่าวจะละลายหมด ระบบนิเวศวิทยาจะเกิดความหายนะและจะส่งผลต่อเนื่องไปยังส่วนอื่นๆของโลก
รูปที่ 8 : แผนที่อุณหภูมิเปลี่ยนแปลงเฉลี่ยของโลก
บทความนี้เกิดจากการเขียนและส่งขึ้นมาสู่ระบบแบบอัตโนมัติ สมาคมฯไม่รับผิดชอบต่อบทความหรือข้อความใดๆ ทั้งสิ้น เพราะไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นความจริงหรือไม่ ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรอง และหากท่านพบเห็นข้อความใดที่ขัดต่อกฎหมายและศีลธรรม หรือทำให้เกิดความเสียหาย หรือละเมิดสิทธิใดๆ กรุณาแจ้งมาที่ ht.ro.apt@ecivres-bew เพื่อทีมงานจะได้ดำเนินการลบออกจากระบบในทันที