มนุษย์โลกนี่แหละครับคือต้นเหตุของปัญหา และมนุษย์โลกนี่แหละครับต้องเป็นผู้แก้ปัญหานี้เอง ทำไมผมถึงพูดเช่นนั้น ตั้งแต่เริ่มต้นของยุคอุตสาหกรรม มนุษย์โลกได้ทำให้เกิดคาร์บอนในชั้นบรรยากาศปริมาณสูงถึง 270 กิกะตันคาร์บอนจากการเผาไหม้เชื้อเพลิงประเภทไฮโดคาร์บอนซึ่งเทียบเท่ากับครึ่งหนึ่งของปริมาณคาร์บอนในชั้นบรรยากาศก่อนยุคอุตสาหกรรมที่มีค่าประมาณ 600 กิกะตันคาร์บอน นอกเหนือจากการเผาไหม้เชื้อเพลิงไฮโดรคาร์บอนแล้ว การเผาทำลายป่าทำให้เกิดคาร์บอนในชั้นบรรยากาศปริมาณสูงถึง 145 กิกะตันคาร์บอน ดังนั้นปริมาณคาร์บอนที่เพิ่มขึ้นในชั้นบรรยากาศที่เกิดจากกิจกรรมของมนุษย์โลกตั้งแต่ยุคอุตสาหกรรมจนถึงปัจจุบันเท่ากับ 415 กิกะตันคาร์บอน
ขณะนี้มนุษย์โลกสร้างคาร์บอนในชั้นบรรยากาศในปริมาณ 7.5 กิกะตันคาร์บอนต่อปี ถ้าอัตราการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ยังคงอยู่ในระดับตลอดศตวรรษนี้ ปริมาณก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในชั้นบรรยากาศจะเพิ่มขึ้นเป็น 1,200 กิกะตันคาร์บอน หรือสองเท่าของปริมาณคาร์บอนไดออกไซด์ในชั้นบรรยากาศของยุคก่อนอุตสาหกรรมก่อนสิ้นศตวรรษที่ 21
ตามสัญญาเกียวโตหรือ Kyoto Protocol สามารถสรุปได้ถึงแนวทางที่จะนำมาใช้เป็นกลไกการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์สู่ชั้นบรรยากาศได้ คือ
1. ต้องใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพและคุ้มค่า
รูปที่ 12 ออกแบบอาคารประหยัดพลังงาน
2. ต้องใช้พลังงานทางเลือกที่ปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ต่ำ (Low Carbon Energy) เช่น เซลล์แสงอาทิตย์ พลังงานลมโดยใช้กังหันลม (wind turbine)
รูปที่ 13 เซลแสงอาทิตย์ พลังงานทางเลือก
3. เสริมสร้างมาตรการ Carbon offsetting สร้างแหล่งดูดซับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ เช่น การปลูกป่า ลดการทำลายป่า อนุรักษ์ป่าเขตร้อน
รูปที่ 14 ป่าแหล่งดูดซับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ปอดของโลก
บทความนี้เกิดจากการเขียนและส่งขึ้นมาสู่ระบบแบบอัตโนมัติ สมาคมฯไม่รับผิดชอบต่อบทความหรือข้อความใดๆ ทั้งสิ้น เพราะไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นความจริงหรือไม่ ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรอง และหากท่านพบเห็นข้อความใดที่ขัดต่อกฎหมายและศีลธรรม หรือทำให้เกิดความเสียหาย หรือละเมิดสิทธิใดๆ กรุณาแจ้งมาที่ ht.ro.apt@ecivres-bew เพื่อทีมงานจะได้ดำเนินการลบออกจากระบบในทันที