suriya

ผู้เขียน : suriya

อัพเดท: 26 เม.ย. 2019 09.56 น. บทความนี้มีผู้ชม: 1290 ครั้ง

เรามาดูกันดีกว่าว่าปัจจัยใดบ้างที่อาจจะส่งผลกระทบต่อเบี้ยประกันภัย


ปัจจัยที่อาจจะส่งผลกระทบต่อเบี้ยประกันภัย

แน่นอนว่าในปัจจุบันนั้นเรื่องของการมีรถยนต์เป็นสิ่งที่จำเป็นมากๆ สำหรับใครหลายๆ คน อาจจะด้วยว่าหน้าที่การงานหรือความสะดวกในการใช้ชีวิตที่จำเป็นจะต้องมีไว้ใช้ แต่ทั้งนี้การมีรถยนต์นั้นก็จำเป็นต้องใส่ใจในรายละเอียดหลายๆ อย่างด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการดูแลรักษา การต่อหรือหา ซื้อประกันรถยนต์ที่ไหนดี รวมไปถึงการใช้งานต่างๆ และแน่นอนว่าปัจจัยของการหาว่า ทำประกันรถยนต์ที่ไหนดี นั้นก็คงจะแตกต่างกันไปตามแต่ผู้ใช้งานรถยนต์แต่ละคน

เพราะถ้าหากขับรถยนต์มาจนชำนาญแล้วนั้นการเลือกซื้อหรือทำ ประกันภัยรถยนต์ที่ไหนดี นั้นก็อาจจะไม่เน้นว่าจำเป็นที่จะต้องทำประกันภัยชั้น 1 อย่างเช่นคนที่เป็นมือใหม่หัดขับเสมอไป แต่ทว่าเขาอาจจะกำลังมองประกันภัยรถยนต์ที่เน้นให้ความคุ้มครองกับรถยนต์คันอื่นๆ และมีเบี้ยประกันภัยในราคากลางๆ ก็พอ ฉะนั้นในวันนี้เราจะมาบอกกันว่ามีปัจจัยใดบ้างที่จะส่งผลต่อเบี้ยประกันภัยรถยนต์ก่อนที่จะไปหาข้อมูลว่าบริษัท ประกันภัยรถยนต์ที่ไหนดี

  1. เพศและอายุ ซึ่งโดยทั่วไปแล้วหากเป็นชายหนุ่มที่อยู่ในช่วงวัยรุ่นนั้นจะมีความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุมากกว่าผู้หญิงวัยรุ่น ฉะนั้นแล้วในกลุ่มคนเหล่านี้ก็อาจจะมีเบี้ยประกันภัยที่แพงกว่า แต่ถ้าหากว่าเป็นผู้ชายที่อยู่ในช่วงสูงอายุหรือใกล้จะเกษียณนั้นก็จะมีความเสี่ยงน้อยกว่าผู้หญิงสูงอายุ
  2. สภาพสมรส แน่นอนว่าเพศชายที่แต่งงานมีครอบครัวแล้วนั้นจะเกิดอุบัติเหตุน้อยครั้งกว่าผู้ชายโสด เพราะฉะนั้นแล้วคนที่แต่งงานแล้วนั้นก็จะมีเบี้ยประกันภัยที่ถูกกว่า แต่ถึงอย่างไรก็ตามนั้นมันก็ขึ้นอยู่กับประวัติในการขับขี่ของเราด้วย ซึ่งถ้าหากว่าเราขับรถยนต์แทบจะไม่เคยมีอุบัติเหตุเลยนั้นเราก็จะจ่ายเบี้ยประกันภัยที่ถูกกว่
  3. พื้นที่ที่เราขับรถยนต์เป็นประจำ อย่างเช่น พื้นที่ที่ไม่มีการจราจรที่หนาแน่นนั้นก็อาจจะมีเบี้ยประกันภัยที่ถูกกว่า พื้นที่ที่มีความหนาแน่นในการใช้รถยนต์สูง ส่วนปัจจัยอื่นๆ ที่อาจจะส่งผลเช่นกันนั้นก็อย่างเช่น จำนวนระยะทางที่ขับรถในแต่ละปี จุดประสงค์ในการใช้รถ หรือจำนวนคนที่โดยสารในรถ ซึ่งสิ่งเหล่านี้ย่อมส่งผลกระทบในการคำนวนเบี้ยประกันภัยทั้งหมด
  4. ประเภทยานพาหนะ ซึ่งตามหลักการโดยทั่วไปนั้นรถยนต์ที่มีราคาถูกเบี้ยประกันก็จะถูกกว่า เพราะบริษัทประกันภัยนั้นจะพิจารณาที่ความถูกแพงของการซ่อมแซมด้วย และรถยนต์ที่มีราคาถูกนั้นก็จะมีค่าอะไหล่และการซ่อมที่ถูกกว่านั่นเอง
  5. ประวัติการขับขี่ ซึ่งมันจะบอกเราได้ว่าเราเป็นคนที่มีความเสี่ยงมากน้อยแค่ไหนที่จะเกิดอุบัติเหตุ หากเรามีความเสี่ยงมาก อย่างเช่น เคยเกิดอุบัติเหตุมาก่อนบ่อยๆ เราก็อาจจะต้องจ่ายเบี้ยประกันภัยที่แพงกว่านั่นเอง
  6. เป็นรถยนต์รุ่นยอดนิยมหรือไม่ โดยรถยนต์ที่ได้รับความนิยมนั้นก็จะเสี่ยงต่อการโจรกรรมมากกว่านั่นเอง ฉะนั้นแล้วเราก็อาจจะต้องยอมจ่ายเบี้ยประกันภัยที่แพงกว่านั่นเอง แต่ถ้าหากว่ารถยนต์ของเรามีระบบป้องกันการขโมยเพิ่มเติมที่แน่นหนามากเราก็นำไปขอเป็นส่วนลดได้นั่นเอง

 


บทความนี้เกิดจากการเขียนและส่งขึ้นมาสู่ระบบแบบอัตโนมัติ สมาคมฯไม่รับผิดชอบต่อบทความหรือข้อความใดๆ ทั้งสิ้น เพราะไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นความจริงหรือไม่ ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรอง และหากท่านพบเห็นข้อความใดที่ขัดต่อกฎหมายและศีลธรรม หรือทำให้เกิดความเสียหาย หรือละเมิดสิทธิใดๆ กรุณาแจ้งมาที่ ht.ro.apt@ecivres-bew เพื่อทีมงานจะได้ดำเนินการลบออกจากระบบในทันที