GIT Information Center

ผู้เขียน : GIT Information Center

อัพเดท: 02 ธ.ค. 2019 02.47 น. บทความนี้มีผู้ชม: 1722 ครั้ง

เรื่องราวความรักทีมีเอกลักษณ์เป็นของตนเอง และในยุคสังคมออนไลน์ที่ช่วยให้ลูกค้าได้เห็นเครื่องประดับสไตล์ต่าง ๆ มากยิ่งขึ้นรวมไปถึงสัญลักษณ์แห่งความรัก เช่นแหวนหมั้น และแหวนแต่งงานเองก็เช่นกัน จึงทำให้ เพชรสีขาวสุดคลาสสิก ที่เป็นสิ่งแทนคุณค่าชั่วนิรันด์เดินทางมาถึงจุดหักเห และต้องพร้อมรับความท้าทายใหม่ครั้งนี้ อะไรคือสิ่งที่ทำให้มีการเปลี่ยนแปลง และสิ่งใดที่ทำให้เกิดกระแสที่สั่นสะเทือนวงการเครื่องประดับหมั้นและเครื่องประดับแต่งงานที่มีมาอย่างยาวนาน สามารถติดตามได้ที่บทความนี้


กระแสที่สั่นสะเทือนวงการเครื่องประดับหมั้นและเครื่องประดับแต่งงาน

             ความต้องการแหวนหมั้นอันเป็นเอกลักษณ์มีอุปสงค์เพิ่มสูงขึ้นอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ผู้ผลิตเครื่องประดับกำลังปรับตัวตามรสนิยมและงบประมาณที่เปลี่ยนแปลงไปของผู้บริโภค

             ‘เพชรคงคุณค่าชั่วนิรันดร์’ เป็นแคมเปญทางการตลาดอันทรงประสิทธิภาพที่สุดเท่าที่เคยมีมา เวลาผ่านไปนานถึงเจ็ดทศวรรษนับตั้งแต่ De Beers เปิดตัวโครงการส่งเสริมการขายนี้ในปี 1948 แต่แหวนหมั้นกว่าร้อยละ 70 ก็ยังคงประดับเพชรสีขาวแบบคลาสสิกอยู่เช่นเดิม

 

ที่มา: http://www.brideamerica.com


           อย่างไรก็ดี ดูเหมือนกระแสกำลังเดินทางมาถึงจุดหักเห เมื่อคู่แต่งงานหันมาสนใจเพชรสีแฟนซี ตลอดจนอัญมณีที่แปลกใหม่และมีรูปทรงหลากหลายเพื่อบอกเล่าเรื่องราวความรักอันมีเอกลักษณ์ของตนเอง

          “ตลาดเครื่องประดับแต่งงานกำลังเปลี่ยนแปลงไปและผู้บริโภคในตลาดนี้ก็เปลี่ยนแปลงไปด้วย” Stephen Lussier ประธานฝ่ายผลิตภัณฑ์เพื่อผู้บริโภคของ De Beers กล่าว

           Steve der Bedrossian ประธานบริหารของกลุ่มบริษัท SAMS ซึ่งเป็นผู้จัดจำหน่ายสินค้าของ Pink Kimberley และ Blush Pink Diamonds เห็นตรงกัน “คู่แต่งงานมองหาตัวเลือกที่แตกต่างเพื่อเพิ่มสไตล์ให้แหวนหมั้นของตน” เขากล่าว “สื่อสังคมออนไลน์ช่วยให้ลูกค้าได้เห็นเครื่องประดับสไตล์ต่างๆ มากกว่าที่เห็นตามร้านเครื่องประดับ ซึ่งส่งผลต่อรายละเอียดทั้งหมดในงานออกแบบ

            ในขณะเดียวกัน ผู้ขายเครื่องประดับก็กำลังพัฒนากระบวนการออกแบบและเทคนิคการขายเพื่อตอบสนองความต้องการ ความคาดหวัง และงบประมาณที่เปลี่ยนแปลงไปของกลุ่มผู้ซื้อสินค้าหมวดนี้กลุ่มใหญ่ที่สุดในปัจจุบันและอนาคต นั่นคือคนรุ่นมิลเลนเนียลและ Gen Z ผู้บริโภคกลุ่มนี้ต้องการประสบการณ์พิเศษระหว่างการซื้อสินค้าภายในร้าน ตลอดจนตัวสินค้าที่มีเอกลักษณ์เฉพาะเหมาะกับแต่ละบุคคล โดยสามารถดึงดูดความสนใจและเล่าเรื่องราวไปพร้อมกัน

             ผู้ขายเครื่องประดับหันไปนำเสนอแหวนหมั้นที่มีความพิเศษเพื่อสนองความต้องการดังกล่าวและสร้างประโยชน์สูงสุดจากสินค้าหมวดสำคัญหมวดนี้ ซึ่งอาจเป็นโอกาสแรกที่ผู้ขายจะได้สานสัมพันธ์ต่อเนื่องกับลูกค้าไปอีกนานหลายปี การซื้อแหวนหมั้นมักเป็นก้าวแรกในการเดินทางตลอดชีวิตของลูกค้า และต่อไปในภายภาคหน้าลูกค้าก็อาจซื้อเครื่องประดับแต่งงาน ของขวัญวันครบรอบแต่งงาน ของขวัญหลังคลอด และอื่นๆ อีกมาก
 
การเปลี่ยนแปลงทางวัฒนธรรม

             ผู้บริโภคเปลี่ยนแปลงมุมมองและแนวทางการซื้อแหวนหมั้นในช่วงไม่กี่ปีมานี้ คนรุ่นใหม่ไม่ยึดมั่นตามขนบการแต่งงานเหมือนแต่ก่อน แต่ยังคงเล็งเห็นถึงความสัมพันธ์ระหว่างความรักกับการสวมแหวน ไม่ว่าจะเป็นแหวนคำมั่นสัญญา (promise rings) แหวนพันธสัญญา (commitment rings) หรือแหวนหมั้น

             “คนรุ่นมิลเลนเนียลมักมองหาเอกลักษณ์” Yseult de Crombrugghe อธิบาย เขาเป็นผู้จัดการโครงการของ Langerman Diamonds บริษัทผู้ค้าเฉพาะเพชรสีแฟนซี “คนรุ่นนี้ต้องการสัญลักษณ์แทนความรักที่สะท้อนเรื่องราวของตัวเอง เจ้าสาวยุคใหม่มักมองหาแหวนที่ไม่ซ้ำซากจำเจ ขณะเดียวกันก็ยังให้คุณค่าทางจิตใจไม่ต่างจากแหวนดั้งเดิม”
Kelly Safarewicz ผู้นำฝ่ายค้าปลีกของ Pieces of Eight ในเมลเบิร์นกล่าวเห็นด้วย “สำหรับหลายคน ความผูกพันทางอารมณ์กับเครื่องประดับก็เพียงพอแล้วที่จะชนะใจพวกเขาได้ ฉันพบว่าคนมักมองหาอัญมณีที่มีเอกลักษณ์เพื่อสะท้อนถึงความสัมพันธ์ที่มีเอกลักษณ์ของตนเอง”

              ในยุคนี้คนแต่งงานกันช้าลงด้วย ตามข้อมูลจาก Australian Bureau of Statistics ค่ามัธยฐานของช่วงอายุที่คนแต่งงานเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 1950 และปัจจุบันมาอยู่ที่ 32 ปีสำหรับผู้ชายและ 30 ปีสำหรับผู้หญิง ลักษณะการขอแต่งงานก็เปลี่ยนแปลงไปเช่นเดียวกับกระบวนการในการซื้อแหวน

              Justin Linney ผู้อำนวยการฝ่ายสร้างสรรค์ของ Linneys Jewellers ในเพิร์ธ กล่าวว่า ปัจจุบันการซื้อแหวนหมั้นกลายเป็นการ “ตัดสินใจร่วมกัน” มากยิ่งขึ้น “ในเชิงวัฒนธรรม บทบาทของคนเราพัฒนาไปอย่างต่อเนื่อง ทุกวันนี้คู่แต่งงานมาออกแบบแหวนร่วมกันมากขึ้น” เขากล่าว พร้อมเสริมว่าแนวโน้มนี้พบได้บ่อยครั้งในการแต่งงานระหว่างคนเพศเดียวกัน

              “สำหรับคู่แต่งงานเพศเดียวกันนั้น มีการทำแหวนเพื่อขอแต่งงาน หรือไม่คู่แต่งงานก็เข้ามาที่ร้านด้วยกันและสั่งทำแหวนให้เข้าคู่กัน หรือออกแบบแตกต่างกันเพื่อให้เหมาะกับสไตล์ของแต่ละคน”ถึงอย่างนั้นการขอแต่งงานตามรูปแบบดั้งเดิมก็ยังคงมีอยู่ “การขอแต่งงานแบบไม่บอกล่วงหน้ายังคงเป็นที่นิยม เพราะฉะนั้นเรายังได้เห็นภาพความโรแมนติกอยู่เสมอ” Linney กล่าว
  
               Jacqueline Fowler ที่ปรึกษาด้านเครื่องประดับของ Holdsworth Bros ในวิกตอเรียกล่าวว่า “หลายครั้งคู่แต่งงานเข้ามาที่ร้านด้วยกันเพื่อให้ได้แนวทางว่าตัวเองชอบอะไรและเราก็จะบันทึกข้อมูลนั้นเอาไว้ เมื่อได้เวลาที่เหมาะสม คนหนึ่งจะกลับมาและเรามีข้อมูลพร้อมอยู่แล้ว ตั้งแต่แนวทางการออกแบบไปจนถึงขนาดแหวน ด้วยวิธีนี้คู่รักจะได้แหวนที่ตรงใจขณะเดียวกันก็ยังสร้างความประหลาดใจให้อีกฝ่ายได้ด้วย ถือว่าได้ประโยชน์กันทุกฝ่าย”
 
สีสันแห่งความรัก

              เมื่อพูดถึงการเลือกอัญมณีที่โดดเด่น Der Bedrossian เชื่อว่าไม่มีอะไรโดดเด่นไปกว่าสีชมพู

 

แบรนด์ Sams Group Australia


             “เพชรสีชมพูเป็นอัญมณีที่หายากมากดังนั้นจึงช่วยเพิ่มความมีระดับ” เขากล่าว “เครื่องประดับของ Blush Pink นำเพชรสีชมพูอ่อนจากเหมือง Argyle มาจัดวางในงานออกแบบเพื่อช่วยขับเน้นสีสันและประกายของอัญมณีให้เด่นชัด โดยส่วนใหญ่มักเป็นแบบจิกไข่ปลา (pave) หรือแบบรวมเป็นกลุ่ม (cluster) ในขณะที่เครื่องประดับของ Pink Kimberley นั้นใช้เพชรสีชมพูจาก Argyle ซึ่งมีขนาดใหญ่กว่าและสีเข้มกว่าเพื่อสร้างผลงานชิ้นเอกในสไตล์บูติก”

              De Crombrugghe กล่าวว่าความต้องการเพชรสีแฟนซี “ร้อนแรงจนฉุดไม่อยู่ในช่วงสองปีที่ผ่านมา” โดยยกให้เป็นผลมาจากแหวนหมั้นของเหล่าคนดัง เครื่องประดับที่แย่งความสนใจบนพรมแดง ตลอดจนการประมูลที่มีมูลค่าสูงจนทำลายสถิติ เธอระบุด้วยว่าเพชรสีแฟนซีนั้นแข็งกว่าพลอยสีชนิดอื่นๆ จึงเหมาะสำหรับการใส่ในชีวิตประจำวัน

              “ความมีเอกลักษณ์และการสั่งทำตามความต้องการเป็นสิ่งสำคัญมากสำหรับคู่แต่งงานทุกวันนี้ และสีสันก็ช่วยให้แหวนมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวได้เป็นอย่างดี” de Crombrugghe กล่าว พร้อมเสริมว่า “ลูกค้ารายหนึ่งของเราอยากได้เพชรสีเดียวกันกับสีดวงตาของคู่ชีวิตเธอ แล้วเราก็หาเพชรแฟนซีสีน้ำตาลอมเขียวที่สวยงามได้ตรงตามนั้นพอดี”

                Linney กล่าวว่า เครื่องประดับสั่งทำที่ใช้เพชรสีเหลือง สีแชมเปญ และสีดำ เป็นที่นิยมในหมู่ลูกค้าที่ต้องการ “เครื่องประดับที่แตกต่างจากของเพื่อนๆ พร้อมเสริมว่า เพชรสีชมพูเป็นที่ต้องการสูง “เราชอบใช้เพชรสีชมพูเป็นอัญมณีตกแต่ง อัญมณีหลัก หรืออัญมณีล้อมรอบเพชรสีขาวที่ดูงดงามสะดุดตา”

                Fowler สังเกตเห็นด้วยว่ามีความต้องการเพชร Argyle สีชมพูและสีช็อคโกแลต ตลอดจนแหวนเพชรล้อมที่ใช้เพชรสีเหลือง

 
 
แบรนด์ Sams Group Australia



             “แซปไฟร์เป็นตัวเลือกยอดนิยมในขณะนี้ แต่เราก็พบคู่แต่งงานที่เลือกอะความารีนและทับทิมด้วยเช่นกัน” เธอกล่าวเสริม “แทนซาไนต์ก็เริ่มเป็นที่นิยมในระยะหลัง”

             ความต้องการแหวนหมั้นแซปไฟร์เพิ่มสูงขึ้นเป็นพิเศษหลังได้รับความนิยมจากบรรดาพระราชวงศ์ เจ้าหญิง Eugenie แห่งยอร์คกลายเป็นหัวข้อข่าวไปทั่วโลกในปี 2018 เมื่อพระคู่หมั้นขอพระองค์เสกสมรสด้วยแซปไฟร์ แพดพาแรดชารูปไข่จากศรีลังกาขนาดราว 3 กะรัต

             Sasha Gammampila เป็นผู้ก่อตั้ง Deliqa Gems บริษัทผู้ค้าเฉพาะแซปไฟร์หลากสีสัน เธอกล่าวว่ามีความต้องการแซปไฟร์อย่างต่อเนื่อง และแหวนของราชวงศ์ “ได้จุดกระแสความนิยมแซปไฟร์ขึ้นมาอย่างชัดเจน”

             Katherine Kovacs ผู้อำนวยการของ K&K Export Import กล่าวเห็นด้วย “ในช่วงปีสองปีที่ผ่านมา เราพบว่ามีคนถามหาพลอยสีเพื่อใช้ในแหวนหมั้นเพิ่มมากขึ้นจนเห็นได้ชัด

            “อัญมณีที่ติดอันดับสูงสุดคือแซปไฟร์ แซปไฟร์จากศรีลังกาครองตลาด แต่ความต้องการแซปไฟร์ออสเตรเลียก็เติบโตขึ้นเช่นกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งแซปไฟร์สีน้ำเงิน สีเขียว และสีน้ำเงินอมเขียว บ่อยครั้งลูกค้าก็ระบุเจาะจงมาเลยว่าต้องการอัญมณีออสเตรเลีย”
Kovacs กล่าวว่าทั้งแซปไฟร์และทับทิมเป็นอัญมณีตระกูลคอรันดัม อีกทั้งมีความแข็งและความทนทานจึงเหมาะสำหรับใส่ในชีวิตประจำวัน “สปิเนลก็เป็นตัวเลือกที่ดีในแง่ความเหมาะสมในการสวมใส่” เธอเสริม กระแสที่กำลังมาแรงอีกกระแสหนึ่งคือเพชร ‘เกลือกับพริกไทย’ (salt-and-pepper) หรือเพชร ‘กาแล็กซี’ ซึ่งก็คือเพชรสีขาวซึ่งภายในมีมลทินสีดำ ทำให้อัญมณีนั้นดูคล้ายท้องฟ้ายามค่ำคืนหรือทะเลที่มีคลื่นลม



แบรนด์ Capucinne


             Safarewicz กล่าวว่า ลูกค้าของ Pieces of Eight “สนใจรูปลักษณ์อันโดดเด่นและแตกต่างของเพชรกาแล็กซี มีแนวโน้มปรากฏชัดว่าคู่แต่งงานหนุ่มสาววัยยี่สิบและสามสิบเศษกำลังมองหาอัญมณีเหล่านี้เพื่อนำมาใช้ประดับแหวนหมั้นของตน”

             เพชรซึ่งมีมลทินจำนวนมากและมีสีเจือปนอาจเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้บริโภคที่กังวลเรื่องราคา Safarewicz กล่าวว่าเพชรกลุ่มนี้ “ช่วยให้ลูกค้าที่มีงบประมาณค่อนข้างจำกัดสามารถซื้อเพชรพร้อมกับได้แหวนที่มีเอกลักษณ์ตามความต้องการด้วย”

             ไข่มุกก็เริ่มได้รับความนิยมในการนำมาประดับแหวนหมั้นเช่นกัน จนกระทั่งบริษัทเครื่องประดับไข่มุก Kailis ได้เปิดตัวบริการออกแบบและสั่งทำแหวนหมั้นขึ้นมา

             “เราพบว่าลูกค้าของ Kailis จำนวนมากต้องการแหวนหมั้นแบบสั่งทำ” Julian Power หัวหน้าฝ่ายออกแบบของ Kailis กล่าว “ไข่มุกเซาธ์ซีของออสเตรเลียนั้นหายากที่สุดในโลก จึงเหมาะกับคู่แต่งงานและลูกค้าทั่วไปที่อยากแสดงเอกลักษณ์เฉพาะตัว รวมทั้งอยากได้แหวนที่สวยงามและผ่านการปรับแต่งให้เหมาะกับรสนิยมของตนเอง”

              มีลูกค้าของ Linneys ถามถึงแหวนหมั้นไข่มุกด้วยเช่นกัน แต่ผู้ผลิตรายนี้แนะนำลูกค้าว่าแหวนหมั้นไข่มุกจะมีความเหมาะสมในการใช้งานแตกต่างจากแหวนหมั้นเพชร เนื่องจากไข่มุกค่อนข้างเปราะบางและมีเนื้อวัสดุที่อ่อนกว่าอัญมณีอย่างแอเมทิสต์ มรกต และอะความารีนก็มีความแข็งไม่เท่าเพชร แซปไฟร์ หรือทับทิมเช่นกัน

              อัญมณีเหล่านี้เริ่มเป็นที่นิยมมากขึ้นเมื่อกระแสแหวนหมั้นตามอัญมณีเดือนเกิดฟื้นกลับมาอีกครั้ง จากเดิมที่เคยเป็นธรรมเนียมปฏิบัติก่อนคนจะหันมานิยมเพชรสีขาว

              อัญมณีประจำเดือนเกิดให้รูปลักษณ์ที่สะดุดตาและเพิ่มคุณค่าทางอารมณ์ให้แก่แหวน โดยคู่แต่งงานบางคู่เลือกใช้อัญมณีเดือนเกิดของทั้งสองคนรวมกันหรืออาจรวมอัญมณีเดือนเกิดของลูกเข้าไปด้วย ทว่าเนื่องจากอัญมณีเดือนเกิดบางชนิดมีเนื้ออ่อน จึงเหมาะสำหรับใช้เป็นอัญมณีตกแต่งเม็ดเล็กๆ หรือฝังสอด (channel-set) ลงในแหวนเกลี้ยงเพื่อลดความเสี่ยงที่จะเกิดรอยบิ่นหรือรอยขีดข่วน

 

 

 
รูปทรงยังคงเดิม

             อัญมณีที่มีสีสันอาจช่วยให้แหวนหมั้นมีรูปลักษณ์ที่ทันสมัย แต่เมื่อพูดถึงรูปทรงของอัญมณี Fowler กล่าวว่าก็ยังคงเป็นไปตามขนบเดิมๆ

            “คู่รักยังคงมองหาเพชรทรงกลมเหลี่ยมเกสรบนตัวเรือนแบบหนามเตย” เธอเผย “เพชรล้อมเป็นรูปแบบที่ได้รับความนิยมมากในเวลานี้โดยผสมผสานกับอัญมณีรูปทรงแฟนซี เช่น รูปหยดน้ำ รูปไข่ และรูปมาร์คีส์

             De Crombrugghe เห็นด้วย โดยกล่าวว่า “เพชรทรงกลมยังคงเป็นที่นิยมสูงสุดแต่อาจไม่ใช่ตัวเลือกที่ดีที่สุดสำหรับเพชรสีแฟนซีเสมอไป เนื่องจากเพชรทรงกลมเหลี่ยมเกสรนั้นออกแบบมาเพื่อช่วยขับเน้นความขาวของเพชรไร้สี”

             Linney กล่าวว่า เพชรรูปไข่มาแรงในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมา และเสริมว่า “เราสังเกตเห็นว่ามีคนถามถึงทอง 18 กะรัตเพิ่มขึ้นด้วย”

 

แบรนด์ Langerman Natural Color Diamonds



             ในขณะเดียวกัน Der Bedrossian ระบุว่า อัญมณีสีชมพูจิกไข่ปลาแบบรวมเป็นกลุ่ม (pave-style clusters) ก็กำลังเป็นที่นิยม เช่นเดียวกับการใช้เพชรสีชมพูล้อมรอบเพชรสีขาวที่เป็นอัญมณีเม็ดหลัก “ทองขาวยังคงเป็นราชาของโลหะสำหรับแหวนหมั้น” เขาเสริม
คำที่มีคนค้นหามากที่สุดในแอพอย่าง Instagram และ Pinterest สะท้อนให้เห็นแนวโน้มดังกล่าวมานี้ โดยอัญมณีรูปไข่ อัญมณีล้อมรูปกลีบดอกไม้ (petal-effect halos) และอัญมณีล้อมครึ่งวง (half-halos) อัญมณีรูปลำแสงอาทิตย์ หรือก็คือ เพชรรูปมาร์คีส์หรือรูปหยดน้ำล้อมด้วยเพชรทรงกลม (sunbursts) ตลอดจนแหวนทองคำเกลี้ยง ล้วนติดอันดับสูงสุดในรายการสินค้าที่ผู้บริโภคต้องการซื้อ
 
จับตามองราคา

              ตามข้อมูลจาก New York Times การสำรวจอย่างกว้างขวางในกลุ่มชาวสหรัฐวัยผู้ใหญ่พบว่าราคามัธยฐานในการซื้อแหวนหมั้นนั้นอยู่ที่ราว 2,000 เหรียญสหรัฐ โดยมีเพียงร้อยละเจ็ดที่ใช้เงินมากกว่า 10,000 เหรียญสหรัฐ การสำรวจในสหรัฐอีกครั้งหนึ่งพบว่าชาวมิลเลนเนียลร้อยละ 68 ตั้งใจจะจ่ายเงินไม่เกิน 2,500 เหรียญสหรัฐในการซื้อแหวนหมั้น

              ในขณะที่ในออสเตรเลียนั้นแหวนหมั้นมีราคาเฉลี่ยอยู่ที่ 5,000 เหรียญออสเตรเลีย (ประมาณ 3,521 เหรียญสหรัฐ) ตามข้อมูลจากรายงาน Australian Wedding Industry Report (AWIR) ประจำปี 2018 ซึ่งเป็นการสำรวจคู่แต่งงานกว่า 4,000 คู่โดย Easy Weddings

              ช่องว่างนี้แสดงให้เห็นความท้าทายที่ผู้ขายเครื่องประดับต้องเผชิญอย่างเห็นได้ชัด แต่เช่นเดียวกับการขายเครื่องประดับใดๆ ก็ตาม การเข้าใจลูกค้าของตนเองรวมถึงคุณค่าของสินค้าอย่างถ่องแท้ถือเป็นกุญแจสำคัญสู่การขายที่ประสบความสำเร็จ
แหวนหมั้นเป็นสินค้าที่ขึ้นอยู่กับความพอใจส่วนบุคคลเป็นสำคัญ เมื่อคู่รักหนุ่มสาวในปัจจุบันใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันมากขึ้นเรื่อยๆ และต้องเก็บเงินไว้จ่ายค่ามัดจำหรือค่าผ่อนบ้าน การทุ่มเงินมาซื้อเพชรเม็ดใหญ่จึงเป็นไปไม่ได้อีกต่อไป

              “ผู้ขายเครื่องประดับบอกเราว่า ผู้บริโภคประเภทที่ต้องการแหวนหมั้นพลอยสีนั้นชอบสิ่งที่มีเอกลักษณ์ แต่บ่อยครั้งเหตุผลเบื้องหลังก็คือเรื่องราคา เพราะคุณสามารถซื้อแหวนขนาดใหญ่ขึ้นในราคาถูกลงถ้าเลือกพลอยสีแทนที่จะเป็นเพชร” Kovacs อธิบาย

               แม้กระทั่งในตลาดบน Linney กล่าวว่า ราคาก็ยังคงเป็นปัจจัยที่ผู้ซื้อคำนึงถึง กุญแจสำคัญคือการหาแหวนที่ตรงตามงบประมาณของลูกค้า “เงินราว 10,000 เหรียญสหรัฐดูจะเป็นตัวเลขทั่วไปที่คู่รักหนุ่มสาวตั้งใจไว้ว่าจะใช้ในการซื้อแหวนหมั้น” เขาอธิบาย “การซื้อแหวนหมั้นเป็นการตัดสินใจทางการเงินครั้งสำคัญที่สุดครั้งหนึ่งของคู่แต่งงาน ดังนั้นสิ่งสำคัญคือคู่แต่งงานควรได้รับข้อมูลที่ครบถ้วนและตัดสินใจอย่างถูกต้อง”

               ด้วยเหตุนี้ คู่แต่งงานจึงมักไปซื้อแหวนแต่งงานด้วยกัน เพื่อจะได้ปรึกษากันว่าตัวเองต้องการอะไรและมีกำลังจ่ายมากแค่ไหน

              “บ่อยครั้งคู่แต่งงานเข้ามาในร้านโดยรู้แค่งบประมาณ” Fowler ยืนยัน “ในขณะที่บางคู่ก็มาพร้อมแบบที่อยากได้โดยระบุทั้งขนาดเพชรและคุณภาพที่ต้องการ”

                สื่อสังคมออนไลน์ช่วยส่งเสริมภาพการขอแต่งงานโดยช่วยให้ภาพเหล่านี้ได้เผยแพร่ออกสู่สาธารณะมากยิ่งขึ้น จึงเป็นเหตุให้เรื่องราวว่าด้วยการเลือกแหวน ความสำคัญขององค์ประกอบเฉพาะตัวด้านการออกแบบ ตลอดจนรูปลักษณ์ของชิ้นงานที่เสร็จออกมาแล้วซึ่งมีเอกลักษณ์และถ่ายรูปขึ้น ล้วนกลายเป็นจุดขายประการสำคัญ

               “การตัดสินใจว่าจะใช้เงินมากแค่ไหนในการซื้อแหวนหมั้นเป็นเรื่องส่วนบุคคลมากๆ” Fowler กล่าว “จำนวนเงินที่ลูกค้าของเราใช้ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายประการมารวมกัน แต่สุดท้ายแล้วความสำคัญของแหวนและความสุขที่ได้รับจากการใส่แหวนและโชว์แหวนให้คนอื่นๆ เห็นจะยังคงอยู่ต่อไปอีกนานหลังจากลูกค้าลืมราคาซื้อไปแล้ว”

                Safarewicz กล่าวเห็นด้วยว่า “ลูกค้ามักยอมจ่ายเงินมากกว่ากรอบราคาตั้งต้นเพื่อซื้ออัญมณีที่งดงามเป็นพิเศษหรืออัญมณีขนาดใหญ่กว่าที่วางแผนไว้แต่เดิม อย่างไรก็ตาม แทบทุกกรณีลูกค้าจะกำหนดงบประมาณเอาไว้และงบประมาณนี้ยังคงเป็นปัจจัยสำคัญสำหรับลูกค้า

                 “เราจะไม่ผลักดันให้ลูกค้าไปหาตัวเลือกที่แพงกว่า เรามักมองหาอัญมณีที่มีความสวยงามและไม่เกินงบประมาณด้วย” เธอกล่าว
การวิจัยผู้บริโภคโดย Gemological Institute of America (GIA) เมื่อไม่นานมานี้พบว่าลูกค้าเครื่องประดับแต่งงานในสหรัฐร้อยละ 69 ‘นิยมเพชรที่มีเรื่องราวความเป็นมา’ ประเด็นนี้เป็นเรื่องหนึ่งที่เพชรและอัญมณีธรรมชาติได้เปรียบเหนือวัสดุอย่างมอยส์ซอไนต์สังเคราะห์และคิวบิกเซอร์โคเนีย

                   แม้ว่าเพชรสีแฟนซีมีชื่อเสียงว่ามีราคาแพงกว่าเพชรและอัญมณีอื่นๆ แต่ de Crombrugghe เน้นว่า “เพชรธรรมชาติสีแฟนซีดูสวยงามน่าตื่นตาได้โดยไม่จำเป็นต้องมีขนาดใหญ่ นอกจากนี้เพชรสีเดียวล้วนยังมีราคาแพงกว่าด้วย ถ้าอย่างนั้นทำไมไม่เลือกใช้เพชรสีที่มีเฉดสีอื่นแฝงมาด้วยล่ะ เพชรแบบนี้มักดูมีเสน่ห์และมนตร์สะกดมากกว่าเพชรสีเดียวล้วนๆ นอกจากนี้เพชรแฟนซีสีอ่อนก็มีราคาต่ำกว่าเพชรแฟนซีที่มีสีเข้มหรือสีสดจัดจ้านอยู่มาก”

                   เธอเสริมว่า “ไม่มีใครสังเกตเห็นมลทินขนาดเล็กมากๆ หรอกถ้าไม่ได้ส่องแว่นขยาย สิ่งสำคัญคือพลังและความงดงามซึ่งจะปรากฏอยู่ทุกๆ วันบนนิ้วของคู่ชีวิตของลูกค้าต่างหาก ผู้โชคดีที่ได้ครอบครองอัญมณีอันเลอเลิศจะเป็นคนเดียวเท่านั้นที่รู้ว่าความเบี่ยงเบนเล็กน้อยนี้เป็นสัญลักษณ์เฉพาะตัวของเพชรเม็ดนั้นๆ ที่ธรรมชาติได้มอบมาให้”


แบรนด์ Linneys


              Der Bedrossian ระบุว่า เพชรสีชมพูซึ่งใช้เป็นเพชรล้อมและเพชรประดับตกแต่งกลายเป็นที่นิยมมากขึ้นในฐานะ “การปรับแต่งระดับพรีเมียม” สำหรับแหวนหมั้น เนื่องจากเพชรสีชมพูขนาดใหญ่นั้นแพงเกินไปสำหรับผู้บริโภคส่วนใหญ่

              อีกวิธีหนึ่งที่จะตอบคำถามยากๆ ในเรื่องราคาก็คือการให้ข้อเสนอทางการเงิน ผู้ขายทางออนไลน์นิยมใช้วิธีการนี้ Blue Nile และ James Allen ต่างเชิญชวนให้ลูกค้าใช้บริการทางการเงินแบบไม่มีดอกเบี้ยผ่านแผนการผ่อนชำระหรือบัตรเครดิตของทางร้าน
กิจการบางส่วนในอุตสาหกรรมเครื่องประดับก็หันไปใช้บริการซื้อก่อนจ่ายทีหลังอย่าง Afterpay และ ZipPay แม้ว่าบริการเหล่านี้อาจไม่เหมาะสมกับร้านขนาดเล็กหรือการซื้อสินค้ามูลค่าสูงๆ

               อีกแนวโน้มหนึ่งที่กำลังมาแรงคือ ‘แหวนทดแทนชั่วคราว’ หรือ ‘แหวนยืม’ โดยทั่วไปแหวนเหล่านี้มีราคาไม่เกิน 500 เหรียญสหรัฐ เป็นแหวนสำหรับว่าที่เจ้าบ่าวที่ยังไม่ได้ตัดสินใจเลือกแบบ หรือยังไม่มีเงินพร้อมที่จะซื้อแหวนในฝัน หรือไม่ต้องการเสี่ยงนำแหวนจริงติดตัวไปยังสถานที่ขอแต่งงาน

               แหวนทดแทนนี้สามารถสลักข้อความขอแต่งงานตามความต้องการและเก็บไว้เป็นสัญลักษณ์แทนความรักได้ หรือใช้เป็นเหมือนหลักประกันไว้ก่อนแล้วค่อยมาสับเปลี่ยนภายหลังเมื่อคู่แต่งงานพร้อมที่จะเลือกแหวนหมั้นของเจ้าสาว
ในสหรัฐ Helzberg Diamonds ทำการวิจัยตลาดและพบว่าผู้ชายร้อยละ 60 ยกให้ ‘การเลือกแหวน’ เป็นส่วนที่ยากที่สุดในการขอแต่งงาน คนจำนวนใกล้เคียงกันมองว่าเป็นเรื่องสำคัญที่จะต้องให้คนรักของตนมีส่วนร่วมในการเลือกแหวนด้วย
“เราคงต้องบอกว่าการซื้อแหวนหมั้นเป็นหนึ่งในประสบการณ์ที่น่าหวาดหวั่นที่สุดและคุ้มค่าที่สุดด้วยสำหรับผู้ชายส่วนใหญ่ คุณอยากที่จะได้ร่วมตื่นเต้นไปกับพวกเขาและมีส่วนร่วมในประสบการณ์ที่พิเศษนี้” Fowler กล่าว

              แหวนทดแทนช่วยให้ธรรมเนียมการขอแต่งงานแบบโรแมนติกยังคงดำเนินต่อไป โดยไม่ต้องเกิดความเครียด และยังช่วยให้ผู้ขายเครื่องประดับมีโอกาสที่จะสร้างความทรงจำอันสวยงามอีกเรื่องหนึ่งให้แก่คู่แต่งงานเมื่อทั้งสองเข้ามาที่ร้านเพื่อออกแบบแหวนในฝันร่วมกัน

              เหนือสิ่งอื่นใด แหวนหมั้นเป็นสัญญาณบ่งบอกจุดเริ่มต้นของบางสิ่งบางอย่าง ทั้งในแง่ความหมายทางตรงและในแง่อารมณ์ความรู้สึก ด้วยการผสมผสานระหว่างความทันสมัยและธรรมเนียมดั้งเดิม เครื่องประดับชิ้นนี้จึงเป็นสัญลักษณ์ของความรัก ความหวัง และความทรงจำที่สวยงาม เป็นการตัดสินใจซื้อครั้งหนึ่งที่มีความหมายมากที่สุดในชีวิตของคนเรา จึงนับเป็นโอกาสดีที่ผู้ขายเครื่องประดับจะได้ช่วยสร้างช่วงเวลานี้ให้น่าจดจำ
 
เข้าสู่พิธีวิวาห์

              หลังจากตอบรับคำขอแต่งงานแล้วก็จะมาถึงการกล่าวรับคำสาบานในพิธีแต่งงาน ซึ่งเป็นอีกโอกาสหนึ่งที่ผู้ขายเครื่องประดับจะได้สร้างความทรงจำยาวนานตลอดชีวิตด้วยการขายแหวนแต่งงาน เครื่องประดับเจ้าสาว และเครื่องประดับสำหรับผู้ร่วมพิธี
แหวนแต่งงานมีราคาต่ำกว่าแหวนหมั้นและไม่ได้หรูหราฟู่ฟ่ามากเท่า แต่ก็ไม่มีเหตุผลใดที่การซื้อเครื่องประดับชิ้นนี้จะต้องลดความสำคัญลงไป

              “เสน่ห์ของแหวนแต่งงานอยู่ที่เรื่องธรรมเนียมและพิธีการ แหวนแต่งงานเป็นสิ่งที่ผู้คนมากมายใส่กันโดยมีระดับงบประมาณที่หลากหลายแตกต่างกันไป” Olivia Baird ผู้ประสานงานด้านการตลาดที่ Peter W Beck กล่าว “แหวนแต่งงานน้ำหนักเบาแบบธรรมดาที่ทำจากทองคำ 9 กะรัตอาจมีราคาขายปลีกเพียง 150 เหรียญสหรัฐ แต่คนที่มีงบประมาณสูงกว่าจะใช้เงินหลายพันเหรียญสหรัฐไปกับแหวนแต่งงาน”

               แหวนแต่งงานถือเป็นอีกหนทางหนึ่งที่คู่แต่งงานจะได้เฉลิมฉลองความรักของตนด้วยเครื่องประดับเฉพาะตัวหรือเครื่องประดับที่เข้าคู่กันพร้อมกับแสดงให้เห็นถึงรสนิยมด้านการออกแบบด้วย “ในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมา เราพบว่า แหวนเซอร์โคเนียมได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่องในกลุ่มแหวนแต่งงานสำหรับผู้ชาย” Baird กล่าว “สีดำสะดุดตาช่วยเพิ่มความทันสมัยให้สไตล์แบบคลาสสิกของเรา ขณะที่แหวนเซอร์โคเนียมกับทองคำก็เป็นการผสมผสานวัสดุในแหวนแต่งงานได้อย่างดูดีมีระดับ

 

แบรนด์ Worth & Douglas


            Chris Scanln เป็นผู้จัดการที่ RJ Scanlan & Co ซึ่งจัดจำหน่ายแหวนแต่งงานสำหรับผู้ชายแบรนด์ Dora เขาเห็นด้วยว่าสีดำกลายเป็นกระแสนิยม โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อนำมาใช้ตัดกับทองคำสีเหลืองหรือแม้กระทั่งทองกุหลาบ และคาร์บอนไฟเบอร์ก็มีผู้สนใจเป็นจำนวนมากเช่นกัน

            Chris Worth จาก Worth & Douglas ได้สังเกตแนวโน้มเดียวกันนี้และระบุว่า “วัสดุสองสีซึ่งมีการเล่นพื้นผิวยังคงเป็นตัวเลือกยอดนิยมในแหวนสำหรับผู้ชาย แม้เรายังคงพบว่าตัวเลือกที่มีอยู่ยังค่อนข้างตามขนบแบบเก่า แต่ผู้ชายได้เริ่มก้าวออกจากรูปลักษณ์แบบดั้งเดิม และแนวโน้มนี้ชัดเจนเป็นพิเศษในแหวน ‘ZiRO’ สีดำ”

            Scanlan กล่าวว่า ราคาเฉลี่ยของแหวนแต่งงานลดลงค่อนข้างมาก โดยอาจลดถึงร้อยละ 25 ในช่วงห้าปีที่ผ่านมา แต่เสริมว่า “ยังคงมีตลาดผู้บริโภคขนาดใหญ่ซึ่งต้องการสวมแหวนที่มีคุณภาพและคุณค่าไว้บนนิ้วมือของตน”

 

แบรนด์ RJ Scanlan



             ในตลาดผู้หญิงก็เช่นเดียวกัน Baird กล่าวว่าแพลทินัมได้รับความนิยมเพิ่มสูงขึ้นเนื่องจากราคาลดลงในระยะหลังมานี้ ขณะที่งานออกแบบนั้นเน้นไปที่ “แหวนวงเล็กน่ารักขนาดความกว้าง 2-3 มม.”

             Worth ยืนยันว่า “แหวนฝังเพชรตัวเรือนทองขาวหรือแพลทินัม” ยังคงได้รับความนิยมอย่างสูงในกลุ่มแหวนสำหรับผู้หญิง ขณะเดียวกันก็เริ่มมีกระแสนิยมแหวนแต่งงานแบบหนามเตยและการกลับมาใช้ทองคำสีเหลืองทั้งในแหวนสำหรับผู้หญิงและผู้ชาย

              กระแสความนิยมหนึ่งที่พบได้ทั้งในแหวนหมั้นและเครื่องประดับประจำวันก็คือการใส่แหวนเรียงซ้อนกัน การใส่แหวนที่เรียกกันว่า ‘the Triple’ คือการใส่แหวนหมั้นคั่นระหว่างแหวนแต่งงานกับแหวน eternity (แหวนเพชรรอบวง) ซึ่งมักมอบให้แก่กันในโอกาสครบรอบแต่งงานหรือเมื่อลูกคนแรกเกิด

 


แบรนด์ Peter W Beck


             “เรานำเสนอแหวนหมั้นที่มีเอกลักษณ์หลากหลายรูปแบบและจะต้องแน่ใจว่าแหวนหมั้นเข้าคู่กันได้พอดีกับแหวนแต่งงานที่ออกแบบมาเป็นพิเศษ” Worth กล่าว

             ในขณะเดียวกัน Baird ยืนยันว่า “เราพบว่าคนหันกลับมานิยมแหวนแต่งงานที่ออกแบบให้เป็นแนวโค้งแนบไปกับแหวนหมั้นได้พอดี”

             สำหรับผู้ขาย การมีสินค้าหลากหลายสไตล์ทั้งสำหรับผู้ชายและผู้หญิงถือเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง

             “ในเยอรมนีและสแกนดิเนเวีย คู่แต่งงานเกือบทุกคู่จะเข้าร้านไปซื้อแหวนแต่งงานชายและแหวนแต่งงานหญิงที่เข้าคู่กัน” Scanlan อธิบาย “แต่ในออสเตรเลียคนมักไม่ทำกันแบบนั้น ส่วนใหญ่แล้วผู้หญิงจะซื้อแหวนแต่งงานให้เข้ากับแหวนหมั้น ในขณะที่ฝ่ายชายนั้นจะซื้อแหวนแต่งงานให้เหมาะกับสไตล์ของตนเอง”

             Baird กล่าวว่าคู่แต่งงานยังคงซื้อแหวนแต่งงานร่วมกัน แม้ว่าจะมีรสนิยมความชอบที่แตกต่างกันก็ตาม “คู่แต่งงานมักเลือกแหวนแต่งงานที่มีองค์ประกอบเข้าคู่กันสักหนึ่งอย่าง ไม่ว่าจะเป็นวัสดุ พื้นผิว หรือรูปทรง การเลือกใช้องค์ประกอบที่เข้าคู่กัน หมายความว่าแหวนทั้งสองวงจะเข้าคู่กันได้แต่ก็ยังคงเปิดโอกาสให้คู่แต่งงานได้นำเสนอสไตล์ของตนเองด้วย” เธออธิบาย

             Scanlan ยังได้ชี้ให้เห็นว่าหลายคนอาจไม่สามารถใส่แหวนแต่งงานไปทำงานได้ด้วยเหตุผลด้านความปลอดภัย ในกรณีนี้อาจซื้อแหวนร้อยสายสร้อยเพื่อจะได้ใส่เอาไว้ใต้เสื้อหรืออาจใส่กล่องโชว์ที่มั่นคงแน่นหนาเพื่อจะได้เก็บเอาไว้ให้ปลอดภัยเวลาไม่ได้ใส่
 
เรื่องของเจ้าสาวและเพื่อนเจ้าสาว

             เครื่องประดับแต่งงานไม่ได้หยุดอยู่แค่เรื่องแหวน เจ้าสาวยังต้องหาต่างหู สร้อยคอ สร้อยข้อมือ รวมถึงเครื่องประดับตกแต่งผมและผ้าคลุมหน้าด้วย รายงาน Australian Wedding Industry Report (AWIR) พบว่าโดยเฉลี่ยคู่แต่งงานทั่วไปจะเชิญคนเจ็ดถึงสิบคนมาเป็นเพื่อนเจ้าสาวและเพื่อนเจ้าบ่าว จึงเป็นโอกาสให้ผู้ขายเครื่องประดับนำเสนอเครื่องประดับที่เข้าชุดกันให้แก่เพื่อนเจ้าสาวและกระดุมข้อมือเสื้อให้แก่เพื่อนเจ้าบ่าว

             ตัวเลือกคลาสสิกที่เจ้าสาวและเพื่อนเจ้าสาวนำมาใช้ประดับร่างกายก็คือเครื่องประดับมุก ซึ่งมักเป็นสัญลักษณ์แทนความเป็นผู้หญิง ความบริสุทธิ์ และความซื่อสัตย์มั่นคง



แบรนด์ Ikecho


             “เราผลิตเครื่องประดับมุกสมัยใหม่ในราคาที่เอื้อมถึงได้สำหรับเจ้าสาวและเพื่อนเจ้าสาว เป็นเครื่องประดับที่ดูคลาสสิกและทันสมัยด้วย” Erica Miller ผู้ก่อตั้งและกรรมการบริษัท Ikecho กล่าว “เจ้าสาวอยากเพิ่มความพิเศษให้ตัวเองด้วยเครื่องประดับเสริมที่โดดเด่น ในขณะที่มักจะเลือกเครื่องประดับแบบคลาสสิกให้เพื่อนเจ้าสาว”

              ประกายนุ่มนวลของไข่มุกและสีสันที่หลากหลาย ทั้งสีดำ ชมพู ครีม ทอง และขาวบริสุทธิ์นั้นเข้ากันได้ดีกับผิวทุกโทนสี ตลอดจนโลหะชนิดต่างๆ



แบรนด์ Kailis


             “ไข่มุกมีความสง่างามเป็นอมตะจึงทำให้เป็นที่ชื่นชอบในหมู่เจ้าสาวและแม่เจ้าสาว ไข่มุกเข้ากันได้ดีกับเครื่องแต่งกายแทบทุกแบบ รวมถึงโทนสีขาวของชุดแต่งงาน” Julian Power หัวหน้าฝ่ายออกแบบของ Kailis อธิบาย “Kailis นำเสนอเครื่องประดับหลากหลายเพื่อให้ตรงใจลูกค้าที่มีรสนิยมแตกต่างกัน ไม่ว่าจะเป็นชุดเครื่องประดับกลุ่ม Classics และ Contemporary ชุดเครื่องประดับที่ได้รับแรงบันดาลใจจากศิลปะอาร์ตเดโคที่มีชื่อว่า Charlston และชุดเครื่องประดับเงิน Kailis ซึ่งเป็นของขวัญให้แก่กลุ่มผู้ร่วมพิธีได้เป็นอย่างดี”

              เมื่อพูดถึงการเลือกเครื่องประดับสำหรับเจ้าสาว Power เผยว่าบูติกใหญ่แห่งใหม่ของ Kailis ในเพิร์ธซึ่งเปิดในเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา จะมีห้องลองเสื้อสำหรับให้เจ้าสาวลองใส่เครื่องประดับพร้อมชุดแต่งงาน ในขณะที่ Ikecho เสนอให้การสนับสนุนทางการตลาดแก่ผู้ค้าปลีก โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อช่วยให้เจ้าสาวได้เลือกเครื่องประดับมุกที่เหมาะสมที่สุดสำหรับวันสำคัญ
 




ศูนย์ข้อมูลอัญมณีและเครื่องประดับ
สถาบันวิจัยและพัฒนาอัญมณีและเครื่องประดับแห่งชาติ (องค์การมหาชน)
ธันวาคม 2562
------------------------------------------
ที่มา: “The trends shaking up engagement and bridal jewellery.” by Arabella Roden. JEWELLER. Retrieved 11 September, 2019 from https://www.jewellermagazine.com/Article2/8352/The-trends-shaking-up-engagement-and-bridal-jewellery.


บทความนี้เกิดจากการเขียนและส่งขึ้นมาสู่ระบบแบบอัตโนมัติ สมาคมฯไม่รับผิดชอบต่อบทความหรือข้อความใดๆ ทั้งสิ้น เพราะไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นความจริงหรือไม่ ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรอง และหากท่านพบเห็นข้อความใดที่ขัดต่อกฎหมายและศีลธรรม หรือทำให้เกิดความเสียหาย หรือละเมิดสิทธิใดๆ กรุณาแจ้งมาที่ ht.ro.apt@ecivres-bew เพื่อทีมงานจะได้ดำเนินการลบออกจากระบบในทันที