Love

ผู้เขียน : Love

อัพเดท: 08 มี.ค. 2023 14.38 น. บทความนี้มีผู้ชม: 78008 ครั้ง

อาหารพื้นบ้านภาคเหนือ


จารีตภาคเหนือ ศึกษาขนบประเพณีที่ดีเลิศของภาคเหนือ

งานไม้แกะสลักบ้านถวาย
 
จารีตภาคเหนือ ศึกษาขนบประเพณีที่ดีเลิศของภาคเหนือ ทั้งยังการวัฒนธรรมภาคเหนือ พิธีการ ความเลื่อมใส ภาษา การแต่งกาย การละเล่นประจำถิ่น และก็ของกิน อื่นๆอีกมากมาย นับเป็นกิจกรรมที่มีการปฏิบัติสืบไปกันมาอย่างช้านาน
 
ภาคเหนือ หรือล้านนา ดินแดนที่ความมากมายหลากหลายทางจารีตรวมทั้งวัฒนธรรมที่มีความน่าดึงดูดใจมากพอๆกับภาคอื่นของไทย เนื่องจากเป็นเมืองที่เต็มไปด้วยเสน่ห์มนตร์ขลัง เชื้อเชิญให้น่าขึ้นไปสัมผัสความสวยกลุ่มนี้ยิ่งนัก ส่วนบรรดานักเดินทางที่ไปเยี่ยมดู ต่างก็ซาบซึ้งใจกับสถานที่เที่ยวล้นหลามแล้วก็ความมีน้ำใจอันล้นเหลือของคนเหนือ ด้วยเหตุนั้นคนใดที่ยังไม่มีโอกาสไปเยี่ยมสักหนึ่งครั้งคงจะจะต้องไปแล้วล่ะจ้ะ ว่าแล้วพวกเราก็ขอนำเรื่องราวนิดๆหน่อยๆพร้อมเนื้อหาสาระเกี่ยวกับวัฒนธรรมแล้วก็ขนบธรรมเนียมของภาคเหนือมาฝากกัน เผื่อเป็นไกด์ให้เพื่อนพ้องๆได้เล่าเรียนหาข้อมูลก่อนที่จะเดินทางไปเยี่ยมภาคเหนืออย่างไรล่ะ
 
สำหรับภาคเหนือของไทย มีลักษณะพื้นที่เป็นเขตภูเขาสลับที่ราบระหว่างเทือกเขา ซึ่งผู้คนอาศัยอย่างกระจายตัวแบ่งกันเป็นกรุ๊ป บางทีอาจเรียกว่ากรุ๊ปวัฒนธรรมล้านนา โดยจะมีวิถีชีวิตและก็ขนบประเพณีโบราณเป็นของตัวเองมีเอกลักษณ์ส่วนตัว แต่ว่าส่วนประกอบที่สำคัญก็ยังมีความเหมือนกันอยู่มากมาย อาทิเช่น สำเนียงการพูด การขับขาน ฟ้อน การดำเนินชีวิตแบบเกษตรกร การเชื่อถือสิ่งศักดิ์สิทธิ์แล้วก็วิญญาณของบรรพบุรุษ ความเชื่อถือในพุทธศาสนาแบบทักษิณนิกาย การแสดงออกของความคิดแล้วก็อารมณ์โดยผ่านภาษาวรรณกรรม ดนตรี แล้วก็งานหัตถกรรมต่อให้การจัดงานสังสรรค์สถานที่สำคัญที่มีมาแต่ว่าโบราณ
 
เดิมวัฒนธรรมภาคเหนือชาวเมืองหรือคนล้านนา มีศูนย์กลางอยู่ที่เมืองนพบุรีศรีนครอิงค์จังหวัดเชียงใหม่ ตามชื่อของอาณาจักรที่มีการดูแลแบบนครรัฐ ที่ตั้งขึ้นในพุทธศักราชที่ 18 โดยพญาเม็งราย
 
ด้วยเหตุว่าตำแหน่งที่ตั้งส่วนมากของภาคเหนือเป็นภูเขาขาสูงสลับกับแอ่งช่องเขา ทำให้ในช่วงฤดูหนาวมีอากาศหนาวจัด ในช่วงฤดูร้อนจะมีอุณหภูมิออกจะสูง ด้วยเหตุว่าอยู่ไกลห่างจากสมุทร มีป่าดงมากมายก็เลยนับว่าเป็นแหล่งเกิดของแม่น้ำที่สำคัญหลายสาย ยกตัวอย่างเช่น แม่น้ำปิง แม่น้ำวัง แม่น้ำยม รวมทั้งแม่น้ำน่าน มีพื้นที่รวมทั้งสิ้น 93,690.85 ตารางกิโลเมตร รวมทั้งเมื่อเทียบเคียงขนาดภาคเหนือจะมีพื้นที่ใกล้เคียงกับประเทศฮังการีสูงที่สุด แม้กระนั้นจะมีขนาดเล็กกว่าประเทศเกาหลีใต้บางส่วน
 
ดังนี้ภาคเหนือมีทั้งนั้น 17 จังหวัด แบ่งได้เป็น ภาคเหนือตอนบน และก็ภาคเหนือตอนล่าง ดังต่อไปนี้
 
ภาคเหนือ ตอนบน มีทั้งหมดทั้งปวง 9 จังหวัด เป็นต้นว่า
 
1. จังหวัดเชียงราย
2. จังหวัดเชียงใหม่
3. จังหวัดน่าน
4. จังหวัดพะเยา
5. จังหวัดแพร่
6. จังหวัดแม่ฮ่องสอน
7. จังหวัดลำปาง
8. จังหวัดลำพูน
9. จังหวัดอุตรดิตถ์
 
ภาคเหนือ ตอนล่าง มีทั้งผอง 8 จังหวัด เช่น
 
1. จังหวัดตาก
2. จังหวัดพิษณุโลก
3. จังหวัดสุโขทัย
4. จังหวัดเพชรบูรณ์
5. จังหวัดพิจิตร
6. จังหวัดกำแพงเพชร
7. จังหวัดนครสวรรค์
8. จังหวัดอุทัยธานี
 
วัฒนธรรมในเขตแดนของภาคเหนือ แบ่งออกได้ ดังต่อไปนี้
 
วัฒนธรรมทางภาษาพื้นเมือง
 
คนประเทศไทยทางภาคเหนือมีภาษาล้านนาที่นุ่มนวลเพราะ ซึ่งมีภาษาพูดแล้วก็ภาษาทางการที่เรียกว่า "คำเมือง" ของภาคเหนือเอง โดยการพูดจะมีสำเนียงที่นาๆประการตามพื้นที่ ปัจจุบันนี้ยังคงใช้กล่าวติดต่อและทำการสื่อสารกัน
 
วัฒนธรรมการแต่งกาย
 
การแต่งกายท้องถิ่นของภาคเหนือมีลักษณะนานับประการตามเชื้อชาติของฝูงชนคนกรุง เพราะเหตุว่าผู้คนมากมายเผ่าพันธุ์อาศัยอยู่ในพื้นที่ซึ่งแสดงเอกลักษณ์ของแต่ละท้องถิ่น
 
- หญิงคนเหนือจะนุ่งผ้านุ่ง หรือผ้าถุง มีความยาวแทบถึงตาตุ่ม ซึ่งนิยมนุ่งทั้งยังสาวและก็ผู้สูงวัย ผ้าถุงจะมีความประณีตบรรจง สวยงาม ตีนผ้าซิ่นจะมีลวดลายสวย ส่วนเสื้อจะเป็นเสื้อคอกลม มีชีวิตชีวา ลวดลายงาม บางทีอาจคลุมสไบทับ แล้วก็เกล้าผม
 
- เพศชายนิยมนุ่งนุ่งกางเกงที่มีขายาวลักษณะแบบกางเกงที่มีขายาวแบบ 3 ส่วน เรียกเคยปากว่า "เตี่ยว" "เตี่ยวสะดอ" หรือ "เตี่ยวกี" ทำมาจากผ้าฝ้าย ย้อมสีน้ำเงินหรือสีดำ รวมทั้งใส่เสื้อผ้าฝ้ายคอกลมแขนสั้น แบบผ่าอก กระดุม 5 เม็ด สีน้ำเงินหรือสีดำ ที่เรียกว่า เสื้อม่อฮ่อม ชุดนี้ใส่เวลาทำงาน หรือคอจีนแขนยาว อาจมีผ้าคาดเอว ผ้าพาดไหล่ และก็มีผ้าพันหัว
 
ราษฎรบางที่ใส่เสื้อเสื้อม่อฮ่อม นุ่งกางเกง สามส่วน แล้วก็มีผ้าคาดเอว เครื่องเพชรพลอยชอบเป็นเครื่องเงินแล้วก็เครื่องทองหยอง
 
ผ้าพื้นเมืองของภาคเหนือ
 
+ ผ้าฝ้ายลายปลาเสือโคน จังหวัดนครสวรรค์
+ ผ้าไหมลายเพชร จังหวัดกำแพงเพชร
+ ผ้าพื้นเมืองเชียงแสน ลายดอกขอเครือ (เกี่ยวขอ) จังหวัดเชียงราย
+ ผ้าตีนจก ลายเชียงแสน หงส์บี้ จังหวัดเชียงใหม่
+ ผ้าฝ้ายลายดอกปีกค้างคาว จังหวัดตาก
+ ผ้าไหมลายน้ำไหล จังหวัดน่าน
+ ผ้าฝ้ายลายนกกระจิบ จังหวัดพิจิตร
+ ผ้าฝ้ายมัดหมี่ลายดอกบีบ จังหวัดพิษณุโลก
+ ผ้าหม้อห้อม จังหวัดแพร่
 
วัฒนธรรมการกิน
 
คนเหนือมีวัฒนธรรมการกินคล้ายกับคนอีสานเป็นรับประทานข้าวเหนียวแล้วก็ปลาแดก ซึ่งภาษาเหนือเรียกว่า "ข้าวนิ่ง" รวมทั้ง "ฮ้า" ส่วนกระบวนการทำอาหารของภาคเหนือจะนิยมการต้ม ปิ้ง แกง หมก ไม่นิยมใช้น้ำมัน ส่วนของกินขึ้นชื่อลือนามเรียกว่าถ้าเกิดได้ท่องเที่ยวจำต้องไปลิ้มรส เช่น น้ำพริกชายหนุ่ม, น้ำพริกอ่อง, น้ำพริกน้ำปู, ไส้อั่ว, แกงโฮะ, แกงฮังเล, แคบหมู, ผักกาดหน้าจอ ลาบหมู, ลาบเนื้อ, จิ้นส้ม (แหนม), ข้าวซอกซอย แล้วก็ขนมจีนน้ำงู ฯลฯ
 
แม้อยากทราบของกินรสอร่อยของคนเหนือให้มากยิ่งกว่านี้ สามารถรับบทบาทเพลง "ของกิ๋นคนกรุง" ที่ร้องเพลงโดย คุณจรัล ใจเพ็ชร ที่บางทีอาจเชิญชวนให้คนฟังคนหิวจนกระทั่งน้ำลายไหลเลยล่ะ
 
นอกเหนือจากนั้นคนเหนือถูกใจรับประทานหมากและก็อมเมี่ยง โดยนำใบเมียงมองที่เป็นส่วนใบอ่อนมาหมักให้มีรสเปรี้ยวอมฝาด เมื่อหมักได้ช่วงเวลาที่อยาก จะนำใบเมี่ยงมาผสมเกลือเม็ด หรือน้ำตาล สุดแท้แต่ความพอใจ ซึ่งนอกเหนือจากการอมเมี่ยงแล้ว คนล้านนาโบราณมีความนิยมชมชอบดูดบุหรี่ที่มวนด้วยใบกล้วยกล้วยมวนหนึ่งขนาดเท่านิ้วมือ และก็ยาวแทบคืบ ประชาชนเรียกจะเรียกยาสูบประเภทนี้ว่า ขี้โย หรือ ยาสูบขี้โย ที่นิยมดูดกันมากมายบางทีอาจเนื่องจากอากาศหนาวเย็น เพื่อทำให้ร่างกายอบอุ่นขึ้น
 
วัฒนธรรมที่เกี่ยวกับศาสนา-ความเชื่อถือ
 
ชาวล้านนามีความสัมพันธ์อยู่กับการเชื่อถือผีซึ่งมั่นใจว่ามีสิ่งกระตุ้นลับให้ความคุ้มครองปกป้องรักษาอยู่ ที่สามารถประสบพบเห็นได้จากการดำนงชีพทุกวัน ได้แก่ เมื่อตอนที่จำต้องเข้าป่าหรือจำต้องค้างค้างแรมอยู่ในป่า จะนิยมบอกรวมทั้งขอพระภูมิ-เจ้าทางอยู่เป็นประจำ รวมทั้งเมื่อในเวลาที่ทานข้าวในป่าจะแบ่งของกินเล็กน้อยให้พระภูมิอีกด้วย เช่นเดียวกัน ซึ่งพวกนี้ชี้ให้เห็นว่าวิถีชีวิตที่ยังคงผูกผันอยู่กับการเชื่อถือผีสาง จัดหมวดหมู่ ดังต่อไปนี้
 
+ ผีบรรพบุรุษ มีบทบาทคุ้มครองปกป้องญาติพี่น้องรวมทั้งครอบครัว
+ ผีดูแล หรือผีเจ้าที่เจ้าทาง มีบทบาทคุ้มครองปกป้องประเทศชาติรวมทั้งชุมชน
+ ผีขุนน้ำ มีบทบาทให้น้ำแก่ไร่
+ ผีฝาย มีบทบาทป้องกันเมืองฝาย
+ ผีสบน้ำ หรือผีปากน้ำ มีบทบาทป้องกันรอบๆที่แม่น้ำสองสายมาบรรสิ้นสุดกัน
+ ผีวิญญาณประจำข้าว เรียกว่า เจ้าแม่โพสพ
+ ผีวิญญาณประจำแผ่นดิน เรียกว่า เจ้าแม่ปฐวี
 
ดังนี้ชาวล้านนาจะมีการเลี้ยงผีบรรพบุรุษ ในตอนระหว่างเดือน 4 เหนือเป็ง (เดือนมกราคม) จนกระทั่ง 8 เหนือ (พ.ค.) ได้แก่ ที่อำเภอเชียงคำ จังหวัดพะเยา จะมีการเลี้ยงผีเสื้อบ้านเสื้อเมือง ซึ่งเป็นผีบรรพ ผู้ชายของชาวไทลื้อ เพียงพอต่อจากนี้อีกไม่นานก็จะมีการเลี้ยงผีลัวะ หรือขนบธรรมเนียมบูชาเสาอินทขิล ซึ่งเป็นขนบธรรมเนียมดั้งเดิมของคนกรุง ไม่นับรวมทั้งการ เลี้ยงผีมด ผีเม็ง และก็การเลี้ยงผีปู่แสะคุณย่าแสะของ ชาวลั๊วะ ซึ่งจะทยอยทำกันหลังจากนี้
 
ส่วนตอนกึ่งกลางหน้าร้อนจะมีการลงเจ้าเข้าเจ้าตามหมู่บ้านต่างๆอาจเป็นเพราะเนื่องจากความศรัทธาสำนักงานลงเจ้าเป็นการพบปะสนทนากับผีบรรพบุรุษ ซึ่งในปีหนึ่งจะมีการลงเจ้าหนึ่งครั้ง แล้วก็จะฉวยโอกาสประกอบพิธีรดน้ำดำหัวผีบรรพบุรุษไปด้วย ยังมีพิธีการเลี้ยง "ผีมดผีเม็ง" ที่จัดขึ้นครั้งเดียวในหนึ่งปี โดยต้องหาโอกาสยามที่สมควร ก่อนวันเข้าพรรษา จะประกอบพิธีเชิญผีเม็งมาลง เพื่อขอใช้ช่วยปกปักษ์รักษา คุ้มครองป้องกันราษฎรที่ป่วย และก็หาดนตรีเพื่อเพิ่ม
 
อย่างไรก็ดีคนล้านนามีความเชื่อสำหรับเพื่อการเลี้ยงผีเป็นพิธีการที่สำคัญ ถึงแม้การดำรงชีวิตของจะราบรื่นไม่เผชิญกับปัญหาใด แต่ว่าก็ยังไม่ลืมเลือนบรรพบุรุษที่เคยช่วยเหลือให้มีชีวิตที่ธรรมดาสุขมาตั้งแต่รุ่นปู่ย่า ยังคงเจอเรือน เล็กๆข้างหลังเก่าตั้งอยู่กึ่งกลางหมู่บ้านเสมอ หรือเรียกว่า "หอพักเจ้าที่เจ้าทางประจำหมู่บ้าน" เมื่อเวลาเดินทางไปยังหมู่บ้านต่างๆในต่างจังหวัด ความศรัทธาดังที่ได้กล่าวผ่านมาแล้วก็เลยนำมาซึ่งการทำให้ขนบธรรมเนียมประเพณี ขนบธรรมเนียม และก็พิธีบูชาต่างๆของคนเหนือ อย่างเช่น คนเฒ่าคนแก่คนเหนือ (บิดาอุ๊ยตาย-แม่อุ๊ยตาย) เมื่อไปวัดฟัง ธรรมก็จะประกอบพิธีเลี้ยงผีหมายถึงหาของคาว-หวานบวงสรวง บวงสรวงผีปู่ย่าด้วย ถึงแม้เดี๋ยวนี้ในเขตเมืองของภาคเหนือจะมีการเชื่อถือผีที่บางทีอาจเปลี่ยนแล้วก็เหลือลดน้อยลง แม้กระนั้นอย่างไรก็แล้วแต่ประชาชนในต่างจังหวัดยังคงมีการปฏิบัติกันอยู่
 
จารีตประเพณีของภาคเหนือ มีสาเหตุจากการประสมประสานการดำนงชีพ และก็พุทธความเลื่อมใสหัวข้อการเชื่อถือผี มีผลทำให้มีขนบธรรมเนียมที่เป็นเอกลักษณ์ของขนบธรรมเนียมที่จะนานับประการตามฤดูกาล ดังนี้ ภาคเหนือจะมีงานจารีตประเพณีในรอบปีดูเหมือนจะทุกเดือน ก็เลยขอยกตัวอย่างจารีตประเพณีภาคเหนือนิดหน่อยมานำเสนอ ดังต่อไปนี้
 
วันสงกรานต์งานจารีต นับว่าเป็นระยะแรกของการเริ่มต้นปี๋ใหม่เมือง หรือวันสงกรานต์งานขนบธรรมเนียม โดยแบ่งได้
 
วันที่ 13 ม.ย. หรือวันสังขารล่อง นับว่าเป็นวันจบของปี ดยจะมีการยิงปืน ยิงสพัน แล้วก็จุดพลุตั้งแต่ก่อนสว่างเพื่อขับไล่ไสส่งสิ่งไม่ดี วันนี้จำต้องกวาดบ้านช่อง และก็ ชำระล้างวัด
 
วันที่ 14 ม.ย. หรือวันเนา ช่วงเช้าจะมีการตระเตรียมของกินรวมทั้งไทยทาน สำหรับงานทำบุญในวันพรุ่งนี้ ช่วงบ่ายจะไปขนทรายจากแม่น้ำเพื่อนำไปก่อเจดีย์ทรายในวัด เป็นการตอบแทนทรายที่เหยียบติดเท้าออกมาจากวัดตลอดทั้งปี
 
วันที่ 15 เดือนเมษายน หรือวันพญาวัน เป็นวันเริ่มศักราชใหม่ มีการทำบุญทำทานมอบให้ขันข้าว มอบตุง ไม้ค้ำโพธิ์ที่วัดรดน้ำพระพุทธปฏิมา พระบรมธาตุรวมทั้งรดน้ำดำหัวขอพรจากคนแก่ที่นับถือ
 
วันที่ 16-17 ม.ย. หรือวันปากปีแล้วก็วันปากเดือน เป็นวันประกอบพิธีทางไสยเวท สะเดาะเคราะห์ รวมทั้งบูชาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ต่างๆดังนี้ ชาวล้านนามีความเห็นกันว่า แนวทางการทำพิธีการสืบชะตาจะช่วยยืดอายุให้ตน เอง พี่น้อง รวมทั้งบ้านเรือนให้ยืนยาว ทำให้มีการเกิดความเจริญก้าวหน้ารวมทั้งความเป็นมงคล โดยแบ่งการสืบชะตาแบ่งได้ 3 จำพวกเป็นการสืบชะตาคน, การสืบชะตาบ้าน แล้วก็การสืบชะตาเมือง
 
แห่นางแมว ระหว่างพ.ค.ถึงเดือนสิงหาคม เป็นช่วงๆของการเพาะปลูก แม้ปีใดฝนไม่ตกไม่มีน้ำ จะก่อให้ท้องนาข้าวเสียหาย ประชาชนก็เลยพึ่งพิงสิ่งเหนือธรรมชาติ อาทิเช่น ประกอบพิธีขอฝนโดยการแห่นางแมว โดยมีความเชื่อกันว่าแม้ปฏิบัติแบบนั้นแล้วจะช่วยทำให้ฝนตก
 
จารีตปอยน้อย/บรรพชาลูกแก้ว/แหล่หายทดลองเป็นจารีตบรรพชา หรือการอุปสมบทของคนเหนือ นิยมจัดด้านในก.พ. มี.ค. หรือเดือนเมษายน ตอนช่วงเวลาเช้า ซึ่งเก็บเกี่ยวผลิตผลเสร็จแล้ว ในพิธีการบรรพชาจะมีการจัดงานฉลองอย่างมากใหญ่ มีการที่ลูกแก้วหรือผู้บรรพชาที่จะแต่งตัวอย่างงดงามเอาอย่างพระราชโอรสสิทธัตถะ ด้วยเหตุว่าถือแบบอย่างว่าพระราชโอรสสิทธัตถะได้เสด็จบวชจนถึงรู้แจ้ง และก็นิยมให้ลูกแก้วขี่ม้า ขี่ช้าง หรือขี่คอคน เปรียบได้ดั่งม้ากัณฐกะม้าทรงของพระราชโอรสสิทธัตถะ เดี๋ยวนี้จารีตบรรพชาลูกแก้วที่มีชื่อหมายถึงขนบธรรมเนียมบรรพชาลูกแก้ว ที่จังหวัดแม่ฮ่องสอน
 
อ้างอิง:
สถานที่ท่องเที่ยวในประเทศไทย: 
https://www.lovethailand.org/travel/th/
ที่เที่ยวกรุงเทพ ที่เที่ยวกาญจบุรี ที่เที่ยวยะลา ที่เที่ยวปัตตานี ที่เที่ยวราธิวาส
ประเพณีไทย ประเพณีภาคเหนือ ประเพณีภาคกลาง ประเพณีภาคใต้ ประเพณีภาคอีสาน
อาหารภาคเหนือ ขนมไทย ประเทศไทย

บทความนี้เกิดจากการเขียนและส่งขึ้นมาสู่ระบบแบบอัตโนมัติ สมาคมฯไม่รับผิดชอบต่อบทความหรือข้อความใดๆ ทั้งสิ้น เพราะไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นความจริงหรือไม่ ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรอง และหากท่านพบเห็นข้อความใดที่ขัดต่อกฎหมายและศีลธรรม หรือทำให้เกิดความเสียหาย หรือละเมิดสิทธิใดๆ กรุณาแจ้งมาที่ ht.ro.apt@ecivres-bew เพื่อทีมงานจะได้ดำเนินการลบออกจากระบบในทันที