ในช่วงวิกฤตโควิด-19 หลายธุรกิจอาจประสบกับปัญหายอดขายตก ไม่สามารถขายสินค้าได้ ในขณะที่ธุรกิจออนไลน์กลับเติบโตสวนทาง โดยล่าสุด Amazon ธุรกิจอีคอมเมิร์ซยักษ์ใหญ่ของโลกได้ออกรายงานผลประกอบการในไตรมาส 2 ที่ระบุว่าบริษัทสามารถทำยอดขายได้ 88,900 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มสูงขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้าถึง 40% และมีรายได้สุทธิอยู่ที่ 5,200 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นถึง 1 เท่าตัว เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา นอกจากนี้ บริการแพลตฟอร์มวิดีโอออนไลน์ On-Demand แบบสมัครสมาชิกที่ชื่อว่า Amazon Prime ปัจจุบันมีผู้ใช้งานกว่า 150 ล้านบัญชีทั่วโลกมียอดการรับชมเพิ่มขึ้นสูงเกือบ 2 เท่า เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันเมื่อปีก่อนหน้าอีกด้วย
การแพร่ระบาดของโควิด-19 ทำให้ผู้คนต้องอยู่ในบ้าน และเว้นระยะห่างทางสังคม เมื่อคนออกไปซื้อของนอกบ้านไม่ได้ จึงต้องเปลี่ยนมาสั่งสินค้าผ่านร้านค้าออนไลน์แทน จากจุดแข็งในเรื่องความหลากหลายของประเภทสินค้าและความรวดเร็วในการจัดส่งไปถึงที่หมายปลายทางที่ใช้เวลาเพียง 1-2 วัน รวมถึงทุกบริการของ Amazon สามารถตอบโจทย์การใช้ชีวิตในยุคปัจจุบันเป็นอย่างดี จึงทำให้ Amazon กลายเป็นตัวเลือกลำดับต้นๆ ของผู้ซื้อออนไลน์ทั่วโลก
ทั้งนี้ ลูกค้าของ Amazon ส่วนใหญ่คือ ชาวอเมริกัน ชาวยุโรป และเอเชีย (ยกเว้นจีน) ผู้ประกอบการอัญมณีและเครื่องประดับไทยอาจใช้ประโยชน์จาก Amazon ได้แม้ว่าจะไม่ได้สมัครเป็นผู้ขาย โดยการเข้าไปศึกษาสินค้าที่ขายดีทั้งในเรื่องรูปแบบและราคาที่เป็นที่นิยมของผู้ซื้อ เพื่อเป็นแนวทางในการนำมาปรับปรุงรูปแบบสินค้าของตนเองให้ตรงกลุ่มเป้าหมาย
เครื่องประดับผู้หญิงที่ขายดี 10 อันดับแรกบนเว็บไซต์ Amazon
|