เชื่อว่าในปัจจุบันต้องมีผู้ประกอบการผู้ทำธุรกิจหลาย ๆ ท่านที่จำหน่ายสินค้าที่มีขนาดใหญ่ ไม่ว่าจะเป็นโต๊ะ เก้าอี้ ตู้เสื้อผ้า เหล่าเฟอร์นิเจอร์เครื่องใช้ภายในบ้านและสำนักงานทั้งหลาย แต่กำลังประสบปัญหาไม่มีพื้นที่เก็บของสำหรับเป็นคลังสินค้ามากพอจะจัดเก็บสต๊อกต่าง ๆ ได้เพียงพอ ครั้นจะลงทุนสร้างเองก็ไม่มีที่ดินหรืองบประมาณ ทั้งยังไม่ตอบโจทย์เรื่องทำเลที่ยากต่อการขนส่ง การเช่าที่เก็บของขนาดใหญ่จึงเป็นโซลูชั่นที่เข้ามาแก้ปัญหาในข้อนี้
อย่างไรก็ตามพื้นที่หรือคลังเก็บของมีให้เลือกอยู่หลายแห่งในตลาด หากเลือกไม่ถูกหรือไม่เหมาะสมก็อาจจะมีเหตุให้รู้สึกขาดทุน เสียดายเงิน หรือมีพื้นที่ไม่เพียงพอได้ ในบทความนี้ เราจึงจะมาแนะนำ 4 เทคนิคในการเลือกที่เก็บของ เพื่อจัดการกับสต๊อกของชิ้นใหญ่ของคุณกัน
1. ที่เก็บของขนาดใหญ่มีให้เลือกหลากหลายขนาด
เพราะแน่นอนว่า แต่ละบริษัทย่อมมีจำนวนหรือปริมาณสินค้าที่ต้องการจัดเก็บที่ไม่เท่ากับ ดังนั้น หากไปเช่าพื้นที่เก็บของที่มีขนาดไม่เหมาะสม แม้จะตั้งอยู่ที่ทำเลที่ดีแค่ไหน แต่ก็จะเป็นการสิ้นเปลืองงบประมาณโดยใช่เหตุ และเสียพื้นที่ว่างไปโดยเปล่าประโยชน์ ดังนั้น ควรเลือกใช้บริการกับที่เก็บของที่มีห้องหรือพื้นที่หลากหลายขนาด ทั้งเรื่องความกว้างยาวและความสูงให้เลือกได้หลากหลายเหมาะกับสินค้า
2. ตั้งอยู่ในทำเลที่เดินทางสะดวก
หากจะเลือกที่เก็บของขนาดใหญ่ให้ตอบโจทย์การใช้งานในด้านการเก็บสต๊อกสินค้ามากที่สุด นอกจากขนาดพื้นที่จะตอบโจทย์ ยังมีเรื่องของทำเลที่ตั้งของคลังเก็บสินค้านั้น ๆ ด้วย เพราะหากต้องขนของไปเก็บ หรือขนของส่งต่อไปยังสถานที่อื่น หรือแม้กระทั่งเดินทางไปตรวจเช็กสินค้า แล้วที่เก็บของตั้งอยู่ไกลจากสำนักงานหรือมีถนนหนทางและการคมนาคมที่ไม่สะดวก ก็ย่อมหมายถึงงบประมาณและการเสียเวลาได้
3. มีบริการขนย้ายครบขั้น
เพื่อเพิ่มความสะดวกสบายของการจัดเก็บสิ่งของได้แบบเต็มขั้น โดยเฉพาะกับการเก็บของที่มีขนาดใหญ่และน้ำหนักมาก ควรเลือกบริการที่เก็บของขนาดใหญ่จากหน่วยงานที่มาพร้อมกับบริการขนย้ายด้วยอุปกรณ์และพนักงานมืออาชีพ เพราะจะช่วยเพิ่มความสะดวกสบายและรักษาสภาพของสิ่งของไว้ให้ดีที่สุด โดยที่ผู้ประกอบการสามารถวางใจและไปโฟกัสกับงานอื่นได้
4. มั่นใจได้ในระบบดูแลรักษาความปลอดภัย
เทคนิคข้อสุดท้าย หากต้องการใช้บริการที่เก็บของขนาดใหญ่แล้ว ควรมองหาบริการที่มีระบบรักษาความปลอดภัย เพื่อมอบความมั่นใจให้ในยามที่ไม่ได้อยู่ดูแลสินค้านั้นด้วยตนเอง โดยการดูแลความปลอดภัยควรมีตั้งแต่พนักงานรักษาความปลอดภัย ไปจนถึงระบบการเข้าถึงห้องเก็บสินค้านั้นอย่างกุญแจส่วนตัวที่ทางหน่วยงานของคุณถือไว้อยู่ในมือเพื่อการันตีความมั่นใจ
บทความนี้เกิดจากการเขียนและส่งขึ้นมาสู่ระบบแบบอัตโนมัติ สมาคมฯไม่รับผิดชอบต่อบทความหรือข้อความใดๆ ทั้งสิ้น เพราะไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นความจริงหรือไม่ ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรอง และหากท่านพบเห็นข้อความใดที่ขัดต่อกฎหมายและศีลธรรม หรือทำให้เกิดความเสียหาย หรือละเมิดสิทธิใดๆ กรุณาแจ้งมาที่ ht.ro.apt@ecivres-bew เพื่อทีมงานจะได้ดำเนินการลบออกจากระบบในทันที
