อัธยา : ataya

ผู้เขียน : อัธยา : ataya

อัพเดท: 28 ก.ย. 2006 20.17 น. บทความนี้มีผู้ชม: 20661 ครั้ง

การเดินทางตามหาสถานที่แห่งพันธะสัญญาของเด็กหญิงคนหนึ่้งซึ่งเต็มไปด้วย ความฝัน ความรัก และน้ำตา


Chapter 3

พิธีศพถูกจัดขึ้นอย่างเรียบง่าย มีเพียงเพื่อนบ้าน และเพื่อนเก่าแก่ของชายชราไม่กี่คนที่มาร่วมในงาน เด็กหญิงยังคงเฝ้ามองใบหน้าเขาจนดินกลบมิด เธอยืนอยู่ที่นั้นทั้งวันทั้งคืน เหมือนกับจะรอให้ชายชรากลับมาพูดคุยกับเธออีก แต่ก็ไม่มีสิ่งที่เธอปรารถนาเกิดขึ้น ในวันที่สามเธอจึงเดินกลับบ้านไปเพียงลำพัง คุณทนายเปิดพินัยกรรมในอีกสัปดาห์ต่อมา ทรัพย์สินส่วนที่เป็นเงินสดในบัญชีจะถูกแบ่งเป็นสามส่วน เท่าๆกัน ส่วนหนึ่งให้กับญาติมิตรที่เหลืออยู่ไม่กี่คน อีกส่วนหนึ่งยกให้การกุศล และส่วนสุดท้ายก็ยกให้เธอ ผู้คนต่างพากันจ้องมองเด็กหญิงด้วยแววตาแปลกๆ “ทำได้ด้วยหรือคะ คุณทนาย”ญาติหวงสมบัติคนหนึ่งลุกขึ้นถามอย่างออกหน้าออกตา “ครับ มันเป็นความประสงค์ของคุณท่าน และสามารถทำได้ตามกฎหมายของสหพันธ์ จักรวาลสากลครับ” ญาติอีกคนหนึ่งโพล่งขึ้น “โธ่คุณ จะเอาอะไรกันนักหนา คนที่ยกสมบัติให้หมาให้แมวก็มีเยอะไป นับประสาอะไรกับ...” “คุณหาว่าฉันหวังหุบสมบัติท่านไว้งั้นเหรอ หน่อยแนะ” การทะเลาะกันเป็นสิ่งที่เด็กหญิงไม่คุ้นเคย เธอจึงได้แต่จ้องมองดูพวกผู้ใหญ่ทำอะไรที่น่าอายกันอยู่อย่างเงียบๆ บ้านหลังนี้ก็เป็นสมบัติที่ชายชรามอบให้แก่เธอเช่นกัน มันเป็นความทรงจำระหว่างเขากับเธอ ตลอดเวลาที่เธอจำความได้ ทั้งคู่เคยช่วยกันทำขนมในห้องครัว ทำอยู่หลายครั้งกว่าจะรู้เวลาอบที่จะทำให้ขนมไม่กลายเป็นถ่านซะก่อน ทั้งคู่เคยนั่งอยู่หน้าเตาพิง เขาเคยเล่านิทานและเรื่องราวของจักรวาลที่เขาจากมา ทั้งคู่เคยนอนหลับบนทุ่งหญ้าจนรู้สึกตัวอีกทีเมื่อเขาจามออกมาดังลั่นเพราะอากาศหนาวยามราตรี เสียงหัวเราะและความทรงจำที่แสนงดงามถูกประทับตรึงตราอยู่ที่นี้ ตลอดกาล หลังจากเสร็จเรื่องต่างๆ เด็กหญิงก็นอนขดตัวอยู่บนเตียงของชายชรา เธอกอดผ้าห่มเอาไว้แน่น กลิ่นของชายชรายังคงมีอยู่บนเตียงนี้ แต่เมื่อเวลาผ่านไป จากวันเป็นเดือน จากเดือนเป็นปี กลิ่นของคุณพ่อเธอก็จางหายไปจากการรับรู้ของเธอราวกับว่าท่านได้จากเธอไปแล้วจริงๆ และปล่อยให้เด็กหญิงตัวน้อยๆต้องอยู่คนเดียวตามลำพัง เงียบเหงาและเดียวดาย วันเวลาอันแสนทรมานผ่านไปอย่างช้าๆ เด็กสาวยังคงใช้ชีวิตในบ้านหลังนั้น มีบ้างบางครั้งบางคราวที่เธอจะทำขนมไปขายที่ร้านประจำซึ่งทั้งคู่เคยแวะไปบ่อยๆ เจ้าของร้านไม่ใช่ชายร่างอ้วนขี้โมโหคนเก่าแล้ว แต่เป็นลูกชายของเขาซึ่งก็เอ็นดูเธอมาก บางทีเขาก็ให้เงินมากเป็นพิเศษ แต่เธอก็ไม่ได้เอาเงินไปซื้ออะไรฟุ่มเฟือยนอกจากอุปกรณ์สำหรับทำความสะอาดบ้านและดอกคาร์เนชันสีขาวสำหรับไปวางไว้หน้าหลุมศพคุณพ่อของเธอทุกวัน ปีแล้วปีเล่าผ่านไป วันหนึ่งขณะที่เธอกำลังอบพายอยู่ในห้องครัว เสียงกดกริ่งก็ดังขึ้น เธอเดินออกไป คว้าเก้าอี้ก่อนจะเอาไปวางเพื่อยืนให้ถึงช่องสำหรับมองหน้าประตู เป็นคุณทนายนั่นเอง ผมของเขาเริ่มมีสีขาวขึ้นแซมแล้ว “สวัสดีจ๊ะ สาวน้อย” เขาเรียกเธออย่างงั้นเสมอ “สวัสดีคะ รับชากับขนมไหมคะ” เธอไม่ได้อยู่รอฟังคำตอบ สักพักเธอก็วิ่งกลับมาจากห้องครัวพร้อมชุดชงชาและขนมพุดดิ้งที่เธอทำเอง “ขอบคุณครับ” เขายกชาขึ้นจิบ และนั่งกินขนมอยู่สักพัก ก่อนจะเอ่ยปากขึ้น “ขนมอร่อยดีนะ อ้อ พอดีตอนฉันเก็บของที่ออฟฟิต เอ๋ ต้องบอกเธอก่อนสิว่าตอนนี้ฉันเกษียณแล้ว นั้นแหละ ก็พอดีไปเจอซองจดหมายนี้เข้าในแฟ้มเอกสารเก่า ฉันคิดว่ามันคงติดไปตอนที่ฉันมาจัดการพินัย กรรมที่นี่”

บทความนี้เกิดจากการเขียนและส่งขึ้นมาสู่ระบบแบบอัตโนมัติ สมาคมฯไม่รับผิดชอบต่อบทความหรือข้อความใดๆ ทั้งสิ้น เพราะไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นความจริงหรือไม่ ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรอง และหากท่านพบเห็นข้อความใดที่ขัดต่อกฎหมายและศีลธรรม หรือทำให้เกิดความเสียหาย หรือละเมิดสิทธิใดๆ กรุณาแจ้งมาที่ ht.ro.apt@ecivres-bew เพื่อทีมงานจะได้ดำเนินการลบออกจากระบบในทันที