RFID สำหรับอุตสาหกรรมการผลิต
โลจิสติกส์และซัพพลายเชน
ดร.นระ คมนามูล
RFID คืออะไร
RFID ย่อมาจากคำว่า Radio Frequency IDentification ซึ่งเป็นเทคโนโลยีตระกูลหนึ่งของ Automatic Identification [Auto-ID] ที่นำมาใช้เพื่อช่วยให้เครื่องจักรสามารถบ่งบอก พิสูจน์ทราบ หรือชี้ตัวสิ่งของ เช่นเดียวกับ บาร์โค้ด สมาร์ตการ์ด การอ่านตัวอักษรทางแสง (OCR) และ ระบบไบโอเมตริก ทั้งหมดเป็น Identification technology ซึ่งไม่ใช่ของใหม่ หากแต่ได้ใช้กันอย่างแพร่หลายมาแล้วเป็นเวลาหลายสิบปี
ทุกวันนี้ผู้คนเกี่ยวข้องกับ RFID มากขึ้น เพราะความเจริญก้าวหน้าทางด้านคอมพิวเตอร์ เทคโนโลยีสารสนเทศ และความต้องการระบบอัจฉริยะทั้งหลาย เช่น ระบบการใช้ตั๋วรถไฟฟ้าใต้ดินรฟม เป็นเหรียญ RFID ที่สามารถใช้เครื่องกั้นอัตโนมัติตรวจราคาตั๋วจากสถานีต้นทางไปยังสถานีปลายทางให้ถูกต้องได้ตามราคาที่กำหนด เป็นต้น
RFID เป็นคำทั่วไปสำหรับเทคโนโลยีที่ใช้คลื่นวิทยุเพื่อการบ่งบอกข้อสนเทศเกี่ยวกับคน สัตว์ หรือสิ่งของโดยอัตโนมัติ มีหลายวิธีการด้วยกันที่ใช้ในการพิสูจน์ทราบหรือชี้ตัวสิ่งของ แต่ที่ใช้กันมากที่สุด คือ เพื่อการเก็บข้อสนเทศในไมโครชิปที่มีสายอากาศ (ชิป+สายอากาศ เรียกว่า RFID transponder หรือ RFID Tag) สายอากาศทำให้ชิปสามารถถ่ายทอด ข้อมูลไอดี ไปยัง ตัวอ่าน เพื่อให้ตัวอ่านแปลงคลื่นวิทยุที่ปรากฏจากป้ายอาร์เอฟไอดีให้เป็นข้อสนเทศดิจิทัลที่สามารถผ่านต่อไปยังเครื่องคอมพิวเตอร์หรือ เครื่องพีแอลซีของระบบควบคุมได้
ส่วนสำคัญของระบบ RFID ประกอบด้วย ป้าย (RFID Tag หรือ RFID Trandsponder) และอุปกรณ์ตัวอ่าน (RFID Reader หรือ RFID Interrogator) และเครื่องคอมพิวเตอร์ (Host) หรือ เครื่องพีแอลซี (ศูนย์ควบคุม)
ป้าย ( RFID Tag) ประกอบด้วยชิปและสายอากาศ ส่วนอุปกรณ์ตัวอ่าน (RFID Reader) ประกอบด้วยอาร์เอฟมอดูล (เครื่องส่งและเครื่องรับ) หน่วยควบคุม สายอากาศ และอินเตอร์เฟซทั้งหลาย
โครงสร้างของ RFID Tags ประกอบด้วย
· ชิป (Chip) : สำหรับเก็บข้อสนเทศของสิ่งของที่จะติดป้าย
· สายอากาศ (Antenna) : สำหรับการส่งข้อสนเทศไปยังตัวอ่านโดยใช้คลื่นวิทยุ และ
· สิ่งห่อหุ้มหรือเปลือก (Packaging) : สำหรับบรรจุชิปและสายอากาศเพื่อที่ป้ายจะสามารถยึดติดกับสิ่งของได้
สิ่งที่ต้องคำนึงถึงในการเลือกใช้อุปกรณ์RFID คือ Carrier Frequencies ซึ่งหมายถึงคุณสมบัติของคลื่นวิทยุที่จะใช้ส่งข้อมูล หรือพูดอีกนัยหนึ่งคือความเข้มของคลื่นวิทยุที่จะใช้ส่งข้อสนเทศ คลื่นความถี่ที่ใช้มีทั้งคลื่นความถี่ต่ำ (LF) คลื่นความถี่สูง (HF) และคลื่นความถี่สูงมาก ๆ (UHF)
ระบบ RFID อาจจะใช้ย่านความถี่หนึ่ง ๆ ของคลื่นวิทยุ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับงาน ข้อกำหนดทางกฎหมาย และที่สำคัญคือราคาที่เหมาะสมกับงาน ดังในตารางต่อไปนี้
ย่านความถี่ |
คุณลักษณะ |
การใช้งาน |
คลื่นความถี่ต่ำ 100-500 kHz |
ระยะอ่านใกล้ถึงปานกลาง ความเร็วในการอ่านต่ำ ราคาถูก |
ควบคุมการเข้าออก สำหรับชี้ตัวคน/สัตว์ ควบคุมบัญชีสินค้า |
คลื่นความถี่สูงปานกลาง 10-15 MHz |
ระยะอ่านใกล้ถึงปานกลาง ความเร็วในการอ่านปานกลาง ราคาไม่แพงมาก |
ควบคุมการเข้าออก สมาร์ตการ์ด |
คลื่นความถี่สูงมาก ๆ UHF: 850-950 MHz Microwave: 2.4-5.8 GHz |
ระยะอ่านไกล และตรงในแนวสายตา (ไมโครเวฟ) ความเร็วในการอ่านสูง ราคาแพง |
การติดตามดูตู้รถไฟขนส่ง ระบบด่านเก็บเงินทางหลวง |
การต่อเชื่อม : Coupling สำหรับคลื่นความถี่ 100 kHz- 30 MHz ใช้ Inductive coupling และสำหรับคลื่นความถี่สูงและคลื่นไมโครเวฟใช้ Electromagnetic coupling
บทความนี้เกิดจากการเขียนและส่งขึ้นมาสู่ระบบแบบอัตโนมัติ สมาคมฯไม่รับผิดชอบต่อบทความหรือข้อความใดๆ ทั้งสิ้น เพราะไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นความจริงหรือไม่ ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรอง และหากท่านพบเห็นข้อความใดที่ขัดต่อกฎหมายและศีลธรรม หรือทำให้เกิดความเสียหาย หรือละเมิดสิทธิใดๆ กรุณาแจ้งมาที่ ht.ro.apt@ecivres-bew เพื่อทีมงานจะได้ดำเนินการลบออกจากระบบในทันที