หากคุณตั้งใจเอาไว้แล้ว ว่าไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ยังไงก็จะต้องหาวิธีไปเรียนต่ออังกฤษให้ได้ เราบอกได้เลยว่าคุณสามารถพบกับสถาบันการศึกษาดีๆ ได้ทุกเมืองในอังกฤษ เพราะคนอังกฤษนั้นเป็นคนใฝ่รู้ใฝ่เรียน แถมยังมีขนบธรรมเนียม ประเพณี และวัฒนธรรมที่แข็งแกร่ง ถึงแม้ว่าพวกเขาจะดูถือตัวมากกว่าคนอเมริกัน แต่ถ้าหากว่าคุณและพวกเขาได้กลายเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันแล้ว คนอังกฤษก็พร้อมที่จะกลายเป็นเพื่อนแท้ที่แสนดี ซึ่งจะคอยดูแลประคับประคองคุณในทุกๆ มิติ ราวกับว่าคุณนั้นเป็นคนในครอบครัวของพวกเขาเลยทีเดียว
การเรียนต่อที่อังกฤษในแต่ละรูปแบบนั้น มีระยะเวลาในการเรียนที่แตกต่างกัน โดยมีหลักสูตรที่ชัดเจนและมีคุณภาพสูง หากคุณอยากศึกษาต่อในมหาลัยต่างประเทศ หรือแค่อยากมาหาที่เรียนภาษาอังกฤษ การมาเรียนต่ออังกฤษ ก็เป็นตัวเลือกอันดับ 1 สำหรับคนไทยเสมอมา
ซึ่งเป็นต้นกำเนิดของภาษาอังกฤษนั้น ทำให้เราได้เรียนภาษาอังกฤษจากต้นตำรับในการสื่อสารด้วยภาษาอังกฤษแท้ๆ ซึ่งโดดเด่นด้วยสำเนียงที่เป็นเอกลักษณ์ และน้องๆ จะได้เรียนรู้ถึงวัฒนธรรมที่ขึ้นชื่อว่ามีพิธีรีตรองตามแบบฉบับผู้ดีอังกฤษ โดยระยะเวลาในการเรียนนั้นเริ่มต้นที่ 2 สัปดาห์ เท่ากับการเรียนภาษาอังกฤษ ต่างประเทศโดยทั่วไป
ให้ได้ความรู้ควบคู่ไปกับมิตรภาพดีๆ จากเพื่อนๆ พี่ๆ ขอแนะนำโรงเรียน Berkhamsted School และ Bosworth Independent College ที่จะช่วยหล่อหลอมให้น้องๆ เติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่มีความรู้ และเป็นที่ยอมรับจากผู้คนในสังคม เพราะมีมารยาท และรู้จักการวางตัวที่ดีในสังคม
นั้นแตกต่างจากการเรียนมหาลัยอื่นๆ ในต่างประเทศ เพราะเรียนต่ออังกฤษในระดับอุดมศึกษานั้นมีความจริงจังและเข้มข้นมากกว่าที่ไหนๆ หากเรียนจนจบได้ ย่อมการันตีถึงความสามารถระดับคับแก้วของผู้เรียน โดยมหาวิทยาลัยที่น่าสนใจ นอกเหนือจาก Oxford และ Cambridge แล้ว มหาวิทยาลัย Aston University และ Bellerbys College Brighton ก็น่าสนใจ แถมค่าเทอมไม่แพงมากด้วย
ต้องมหาลัย Birkbeck และ University of London ที่จะทำให้เรียนต่ออังกฤษของน้องๆ นั้นมีสีสันมากกว่าที่เคย เพราะนอกจากความรู้ที่จะได้รับกลับมาแน่ๆ น้องๆ จะได้ทักษะในการแสวงหาความรู้ผ่านการทำวิจัยจากศาสตราจารย์มากความสามารถระดับแนวหน้าของโลกเลยล่ะ
การมาเป็นนักเรียนอังกฤษในระดับมัธยม ปริญญาตรีและปริญญาโทในประเทศอังกฤษ หรือ UK คือ การที่เหล่าบรรดาว่าที่นักเรียนอังกฤษ จะได้เริ่มต้นการเดินทางบนเส้นทางสายวิชาการในเครือจักรภพอังกฤษ หรือ United Kingdom ที่ไม่ได้มีแค่ประเทศอังกฤษ(England) แต่ยังรวมถึงประเทศสก๊อตแลนด์(Scotland) เวลส์(Wales) และไอร์แลนด์เหนือ(North Ireland)ด้วย โดยการศึกษาในแต่ละระดับชั้นนั้น มีค่าธรรมเนียมที่แตกต่างกัน ดังต่อไปนี้
- คอร์สเรียนภาษาที่อังกฤษ สนนราคาที่ 60 ปอนด์ต่อสัปดาห์
- หลักสูตรมัธยมปลายที่อังกฤษ ราคาเริ่มต้นที่ 27,050-31,150 ปอนด์/เทอม สำหรับโรงเรียนสห 29,100-32,100 ปอนด์/เทอม สำหรับโรงเรียนประจำหญิงล้วน และ 33,000-36,000 ปอนด์/เทอม สำหรับโรงเรียนชายล้วน
- เรียนปริญญาตรีที่อังกฤษ มีค่าธรรมเนียมการศึกษาตลอดหลักสูตรที่ 23,000-26,000 ปอนด์
- และเรียนปริญญาโทที่อังกฤษ ต้องเตรียมงบเอาไว้ไม่น้อยกว่า 10,000- 13,000 ปอนด์ สำหรับหลักสูตรศิลปศาสตร์ 12,000- 17,000 ปอนด์ สำหรับหลักสูตรวิทยาศาสตร์ และ 12,000– 20,000 ปอนด์ สำหรับหลักสูตรแพทยศาสตร์
อยากเรียนต่อประเทศอังกฤษที่ UK ต้องเตรียม 3 สิ่งนี้ให้พร้อม
1. สุขภาพ สิ่งที่สำคัญที่สุด ที่จะมองข้ามไปไม่ได้ เพราะประเทศอังกฤษนั้นมีฝนตกบ่อยมากๆ โดยเฉพาะฝนปรอยๆ นี่ตกบ่อยสุดๆ ใครที่รู้ตัวว่าโดนละอองฝนแล้วจะเป็นไข้ มีน้ำมูก ให้เตรียมยาและหมวกกันฝนเอาไว้เซฟตัวเองให้พร้อม ส่วนเรื่องการเดินทาง ประเทศอังกฤษนั้นมีระบบขนส่งมวลชนที่ดี มีทั้งรถประจำทาง รถราง รถไฟ แท็กซี่ มีทุกอย่างที่ช่วยให้น้องๆ เดินทางได้อย่างปลอดภัย แต่ราคาที่ต้องจ่ายนั้นไม่ใกล้เคียงกับคำว่าสบายกระเป๋าเลย
2. คะแนน IELTS จริงอยู่ที่การยื่นคะแนนสอบวัดระดับความสามารถทางภาษาอังกฤษนั้นมีหลายเจ้าให้เลือก ทั้ง TOEIC, TOEFL และ IELTS แต่การที่น้องๆ ยื่นคะแนน IELTS เท่ากับเป็นการให้เกียรติเจ้าบ้าน ประเทศต้นกำเนิดแบบทดสอบ IELTS เพราะตัว TOEIC กับ TOEFL นั้นเป็นของทางฝั่งอเมริกา โดยคะแนน IELTS ในการสมัครเรียนระดับมัธยมนั้น ควรอยู่ที่ 4.5 ขึ้นไป และ 5.5 สำหรับการเรียนต่อในในระดับปริญญาตรี ส่วนปริญญาโทและเอก ไม่ควรต่ำกว่า 6.5 หากสอบไม่ผ่าน อาจต้องลงเรียนคอร์สปรับพื้นฐานทางภาษาก่อนเริ่มเรียนวิชาอื่นๆ ในหลักสูตรต่อไป
3. เอกสาร จริงๆ แล้วมีไม่กี่อย่าง ที่ขาดไม่ได้ก็คงเป็นพาสปอร์ต วีซ่า ตั๋วเครื่องบิน ประกันสุขภาพ SOP และ Recommend Letter
หากน้องๆ ต้องการมาเรียนต่ออังกฤษ สิ่งที่ขาดไม่ได้เลย ก็คือ SOP หรือ Statement of Purpose ที่น้องๆ ต้องเขียนแนะนำตัวเองให้กับสถาบันการศึกษาได้รู้จัก ว่าน้องๆ มีความสามารถอะไรบ้าง และทำไมถึงควรได้รับการคัดเลือกให้ได้เข้าเรียน อีกส่วนที่ขาดไม่ได้ก็คือ Recommend Letter ก็ขาดไม่ได้ เพราะนี่จะเป็นการรับรองจากบุคคลที่ 3 ซึ่งอาจจะเป็นคุณครูหรือนายจ้าง เพื่อรับรองพฤติกรรมของน้องๆ ว่ามีความประพฤติเรียบร้อยดีหรือไม่นั่นเอง
หากน้องๆ มีความมุ่งมั่นตั้งใจ ว่าอยากจะมาเรียนต่ออังกฤษจริงๆ ไม่ว่าจะเป็นการเรียนภาษาอังกฤษในระยะสั้น ระยะกลาง หรือระยะยาวในต่างประเทศ ลองศึกษาเพิ่มเติมอย่างละเอียดจะทำให้การเรียนมีประสิทธิภาพได้มากขึ้น
บทความนี้เกิดจากการเขียนและส่งขึ้นมาสู่ระบบแบบอัตโนมัติ สมาคมฯไม่รับผิดชอบต่อบทความหรือข้อความใดๆ ทั้งสิ้น เพราะไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นความจริงหรือไม่ ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรอง และหากท่านพบเห็นข้อความใดที่ขัดต่อกฎหมายและศีลธรรม หรือทำให้เกิดความเสียหาย หรือละเมิดสิทธิใดๆ กรุณาแจ้งมาที่ ht.ro.apt@ecivres-bew เพื่อทีมงานจะได้ดำเนินการลบออกจากระบบในทันที
