วัตพล

ผู้เขียน : วัตพล

อัพเดท: 30 มี.ค. 2024 23.41 น. บทความนี้มีผู้ชม: 43374 ครั้ง

ความรู้ทั่วไป การตลาด ประชาสัมพันธ์


Search Engine คืออะไร และมีกระบวนการทำงานอย่างไรบ้าง

ในโลกยุคใหม่หากคุณอยากรู้อะไร หรือต้องการค้นหาข้อมูลอะไรสักอย่างก็ดูเหมือนจะเป็นเรื่องง่ายไปหมด เพียงแค่คุณคลิกปลายนิ้วข้อมูลที่คุณต้องการก็จะปรากฏอยู่ตรงหน้าจอ แต่คุณรู้หรือไม่ว่า การที่ข้อมูลต่างๆที่คุณค้นหาแสดงขึ้นมาอยู่บนหน้าจอของคุณได้นั้นมาจากโปรแกรมที่เรียกว่า Search Engine ซึ่งเว็บไซต์ที่ใช้ Search Engine และมีคนรู้จักมากมายทั่วโลกเลยก็คือ Google

 

นอกจากนี้ Search Engine ยังถือว่ามีผลอย่างมากในการทำการตลาด Online ด้วย หากใครที่สนใจจะทำเว็บไซต์ขายสินค้าออนไลน์ หรือทำเว็บไซต์ให้กับธุรกิจของคุณ เรื่องของ Search Engine จึงเป็นสิ่งสำคัญที่คุณควรรู้ วันนี้เราจะมาเล่าให้ทุกคนฟังว่า Search Engine คืออะไร มีกี่ประเภท และ Search Engine มีขั้นตอนอะไรบ้าง 

 
 หน้าเว็บไซต์ที่บ่งบอกว่า Search Engine คือ

Search Engine คือ

หลายคนอาจเคยได้ยินคำว่า Search Engine มาก่อนแต่ไม่รู้ว่า Search Engine คืออะไร หรือบางคนอาจจะไม่เคยรู้จักคำคำนี้เลยก็ได้ หากพูดแบบให้เข้าใจง่ายเลย Search Engine คือ โปรแกรมชนิดหนึ่งที่ใช้บนโลกออนไลน์เพื่อค้นหาข้อมูลต่างๆที่คุณต้องการ 


ไม่ว่าจะเป็น เว็บไซต์ สถานที่ รูปภาพ เพลง หรือวิดีโอ หากคุณใส่ Keyword ที่ตรงกับ เว็บไซต์ หรือรูปภาพที่คุณต้องการ ข้อมูลเหล่านั้นก็จะถูกแสดงบนหน้าจอคอมพิวเตอร์ของคุณ


โดยการสืบค้นข้อมูลของ Search Engine จะเป็นเป็นการสืบค้นข้อมูลบนเครือข่ายอินเทอร์เน็ตเท่านั้น สิ่งที่สำคัญที่จะทำให้การค้นหาของคุณตรงตามความต้องการก็คือ Keyword ซึ่งวิธีการค้นหาก็คือการใส่ Keyword หรือคำที่คุณคิดว่าเป็นใจความสำคัญลงในช่องค้นหา แล้วเว็บไซต์ที่เป็น Search Engine ก็จะทำการประมวลผลออกมาเป็นเว็บไซต์ต่างๆที่ตรงกับคำสืบค้นของคุณ 


Search Engine มีหลักการทำงานอย่างไร 

เมื่อคุณพอเข้าใจแล้วว่า Search Engine คืออะไร เรามาดูกันว่า Search Engine มีขั้นตอนอะไรบ้าง และมีหลักการทำงานอย่างไร โดยทั่วไปแล้ว Search Engine จะมีการทำงานอยู่ 3 ขั้นตอน

1.การเก็บรวบรวมข้อมูล (Crawling)

ขั้นตอนแรกของ Search Engine คือ การเก็บรวบรวมข้อมูลของเว็บไซต์ต่างๆ โดยทำการส่ง Web Crawler หรือที่เรียกกันว่า Spider หรือ Bot เข้าไปสำรวจยังเว็บไซต์ต่างๆ และดึงข้อมูลจากเว็บไซต์เหล่านั้น ไม่ว่าจะเป็น URLs เนื้อหา หรือรูปภาพ ทั้งหมดของเว็บไซต์ มานำใส่ไว้ในฐานข้อมูล โดยจะมีการอัปเดทข้อมูลที่เก็บรวบรวมอยู่เรื่อย

2.การทำดัชนีข้อมูล (Indexing)

หลังจากที่ Web Crawler ทำการเก็บข้อมูลรวบรวมมาไว้เรียบร้อยแล้ว Search Engine ก็จะมีข้อมูลอยู่มากมายมหาศาล ซึ่งขั้นตอนต่อไปที่ Search Engine จะทำก็คือ การตรวจสอบข้อมูลที่เก็บรวบรวมมา และทำการจัดเก็บข้อมูลโดยจะคัดแยกข้อมูลเป็นหมวดหมู่ เพื่อให้ง่ายต่อการสืบค้น

3.การจัดลำดับ (Ranking)

ขั้นตอนสุดท้ายหลังจากที่ Search Engine ทำการคัดแยกข้อมูลเป็นหมวดหมู่แล้ว Search Engine ก็จะมีการจัดอันดับข้อมูล เพื่อให้ผู้ที่ทำการค้นหาโดยใช้ Keyword ต่างๆนั้นได้รับผลการค้นหาที่ดีที่สุด ซึ่งส่วนใหญ่หลักเกณฑ์ในการจัดอันดับของเว็บ Search Engine จะไม่ได้มีการเปิดเผยไว้อย่างชัดเจน

อย่างไรก็ตามนักการตลาดออนไลน์ก็ได้มีการศึกษาว่าจะทำอย่างไร เพื่อให้เว็บไซต์ที่ต้องการติดอันดับต้นๆของการค้นหา ซึ่งการประมวลผลที่ใช้ในการจัดอันดับของ Web Search Engine ก็คือ Algorithm 

Algorithm ถือว่าเป็นตัวแปรสำคัญที่จะทำให้เว็บไซต์ของคุณติดอันดับ ดังนั้นการจะทำให้เว็บไซต์ของคุณติดอันดับได้คุณจะต้องทำ Search Engine Optimized (SEO) ซึ่งก็คือการที่คุณจะต้องหาข้อความ Keyword หรือแม้กระทั่งใส่ Blacklink ที่ทำให้ระบบ Algorithm วิเคราะห์ และประมวลผล เพื่อดึงเว็บไซต์ของคุณมายังหน้าแรกของการค้นหา   


ประเภทของ Search Engine 

Search Engine จะถูกแบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ แบ่งตามประเภทของข้อมูล และแบ่งตามลักษณะของเครื่องมือ 

Search Engine แบ่งตามประเภทของข้อมูล 

Search Engine แบ่งตามลักษณะของเครื่องมือ 

ภาพที่จะสื่อถึงประเภทการค้นหาของ Search Engine

Search Engine มีข้อดีอย่างไร 

พอเราได้รู้จักว่า Search Engine คืออะไร ก็ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า Search Engine มีความสำคัญแค่ไหนต่อผู้คนในยุคปัจจุบัน และยังเป็นประโยชน์ในโลกของธุรกิจอีกด้วย เรามาดูกันว่าประโยชน์ของ Search Engine มีอะไรบ้าง

1.เชื่อมต่อคุณกับข้อมูลจากทั่วโลก

ข้อดีอันดับแรกที่จะไม่พูดถึงไม่ได้เลย ก็คือ Search Engine ทำให้คุณสามารถเข้าถึงข้อมูลต่างๆได้แทบทุกข้อมูลที่อยู่ทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็น บนเว็บไซต์ รูปภาพ หรือคลิปวิดีโอ ถ้าหากข้อมูลเหล่านั้นไม่ได้มีการปิดกั้น คุณก็สามารถเข้าถึงได้อย่างไม่ยาก และยังสามารถรองรับการค้นหาแบบหลายภาษาได้ด้วย

2.ทำให้ค้นหาข้อมูลได้ง่ายและรวดเร็ว

เนื่องจาก Search Engine ได้มีการจัดเก็บข้อมูล และแบ่งข้อมูลต่างๆไว้เป็นหมวดหมู่เรียบร้อยแล้ว ดังนั้นการที่จะค้นหาข้อมูลจึงเป็นเรื่องง่าย และใช้เวลาไม่นาน ข้อมูลที่คุณสืบค้นก็จะปรากฏขึ้นบนหน้าจอ

3.เข้าถึงข้อมูลที่ตรงตามความต้องการของคุณ

จากการจัด Ranking ของ Search Engine ที่คัดสรรข้อมูล และจัดอันดับโดยระบบ Algorithm ทำให้คุณสามารถพบเจอข้อมูลที่ตรงกับสิ่งที่คุณต้องการได้ในหน้าแรกๆของการค้นหา ซึ่งเว็บไซต์เหล่านั้นจะมีความน่าเชื่อถือในระดับหนึ่ง

4.เข้าถึงกลุ่มลูกค้าเป้าหมายได้

นอกจาก Search Engine จะมีประโยชน์สำหรับผู้ใช้งานทั่วไปแล้ว Search Engine ยังมีประโยชน์ในด้านการตลาดออนไลน์ด้วย เพราะหากผู้ทำการตลาดมีการทำ SEO ก็จะทำให้ลูกค้าที่มาค้นหาสินค้าต่างๆบนโลกออนไลน์

สามารถเจอข้อมูลของสินค้าที่ตรงตามความต้องการได้จากการใส่ Keyword ในการค้นหา ซึ่งถือว่าทำให้ทั้งผู้ขายและผู้บริโภคเข้าถึงกลุ่มลูกค้าและกลุ่มสินค้าที่ตรงตามเป้าหมาย


Search Engine กับ Online Marketing 

เนื่องจาก Search Engine มีความเกี่ยวเนื่องอย่างมากในการทำ Online Marketing ซึ่งใครที่สนใจในเรื่องการตลาดออนไลน์จำเป็นจะต้องรู้เกี่ยวกับ SEM (Search Engine Marketing) และการทำ SEO (Search Engine Optimization ว่าคืออะไรและมีความแตกต่างกันอย่างไร โดยจะมีตัวอย่างในการอธิบายความแตกต่างของทั้ง 2 ประเภทนี้

?Google Ads คือการซื้อโฆษณาให้เว็บไซต์ของคุณขึ้นติดหน้าแรกของการค้นหา โดยผ่านการค้นหาจาก Keyword ที่ Google ได้กำหนดไว้ให้ตรงกับเนื้อหาของเว็บไซต์คุณ ซึ่งการซื้อโฆษณาบนโลกออนไลน์เพื่อให้ติดหน้าแรกของการค้นหาแบบนี้ถือว่าเป็นการตลาดออนไลน์แบบ SEM โดยหน้าเว็บไซต์ที่ทำการซื้อ Goolgle Ads จะปรากฏคำว่า Ad ตรงหน้าเว็บไซต์?

ส่วนการทำการตลาดออนไลน์แบบที่ 2 คือการทำ SEO เพื่อให้เว็บไซต์ของคุณอยู่หน้าแรกของการค้นหา ซึ่งการทำ SEO จะต่างจาก SEM ตรงที่ไม่ต้องเสียเงินซื้อ Ads แต่คุณจะต้องเลือกใช้ Keyword บนหน้าเว็บไซต์ของคุณให้ตรงกับคำที่มีคนนิยมค้นหามากที่สุดในหมวดหมู่สินค้า หรือบริการที่คุณต้องการจะนำเสนอบนเว็บไซต์ โดยคุณสามารถทำ Backlink เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ และทำให้เว็บไซต์ของคุณติดอันดับต้นๆได้?

อย่างไรก็ตามถึงแม้ว่าคุณจะทำ SEO จนติดอันดับหน้าแรก แต่เว็บไซต์ของคุณก็จะอยู่หลังจากเว็บไซต์ที่มีการซื้อโฆษณา Google Ads อยู่ดี ซึ่งทั้งการทำ SEO และ SEM ต่างก็มีข้อดีและข้อเสียที่ต่างกัน คุณแค่ต้องเลือกใช้รูปแบบของการทำการตลาดออนไลน์ที่ถูกต้องเหมาะสมกับธุรกิจ และสินค้าของคุณ รวมถึงงบประมาณในการทำการตลาดด้วย

ภาพความเกี่ยวเนื่องของการทำ SEO (Search Engine Optimization)

6 อันดับของ Search Engine ที่นิยมใช้

หลังจากที่เรารู้จัก Search Engine มากขึ้นแล้ว เรามาดูกันว่ามีเว็บไซต์ Search Engine ไหนบ้างที่เป็นที่นิยม และมีคนใช้ทั่วโลก 

1. Google 

เว็บไซต์ Search Engine อันดับหนึ่งที่มีผู้ใช้งานทั่วโลกมากที่สุด ที่จะไม่พูดถึงไม่ได้เลยก็คือ Google ซึ่งในแต่ละวันมีคนจากทั่วโลกทำการค้นหาบนเว็บไซต์ของ Google มากกว่า 3 พันล้านคำสั่งต่อวัน โดยการค้นหาก็จะมีตั้งแต่หน้าเว็บไซต์ ไปจนถึง รูปภาพ วิดีโอ และสถานที่ต่างๆ ซึ่ง Google จะมียอดผู้ใช้งานค้นหาข้อมูลต่างๆ เพิ่มขึ้นมากกว่า 10% ของทุกๆปี 

 

 
Google Search

2. Bing 

เว็บไซต์ Search Engine ที่มาจากการพัฒนาของ Microsoft จึงทำให้มีลูกเล่นที่มีความโดดเด่น เช่น Theme ของหน้าเว็บไซต์ที่ทำการค้นหา เป็นต้น ด้วยความที่ Bing พยายามสร้างความแตกต่างและโดดเด่นจาก Google จึงทำให้เว็บไซต์ของ Bing ขึ้นมาเป็นอันดับที่ 2 คิดเป็น 2.27% ที่มีผู้ใช้งานจากทั่วโลกในการค้นหาข้อมูล

Bing Search

3. Yahoo 

อีกหนึ่งเว็บไซต์ Search Engine ที่ทุกคนคุ้นเคยกันดีก็คือ Yahoo บางคนอาจจะรู้จัก Yahoo จากการใช้อีเมล แต่คุณรู้ไหมว่า Yahoo ก็มีหน้าเว็บไซต์ที่เป็น Search Engine ด้วยและถือว่ายังเป็นที่นิยมในอันดับที่ 3 ที่มีผู้ใช้งาน 1.5% จากทั่วโลกอีกด้วย  

 
Yahoo Search

4. Baidu 

เว็บ Search Engine สัญชาติจีนที่มีผู้ใช้งานถึง 1.4 % จากทั่วโลก และได้รับความนิยมอยู่ในอันดับ 4 ของเว็บไซต์ Search Engine โดยผู้ใช้ส่วนใหญ่จะเป็นชาวจีนเพราะว่ามีเว็บไซต์บางอย่างที่ถูกปิดกั้นจึงทำให้ใช้งานไม่สะดวกสำหรับผู้ที่อาศัยอยู่ในประเทศจีน ดังนั้นประเทศจีนจึงออกแบบเว็บไซต์ Baidu ออกมาเพื่อตอบโจทย์การใช้งานแทน Google

 
 Baidu Logo

5. Yandex

เว็บไซต์ Search Engine ยอดนิยมอันดับ 5 ที่มีผู้ใช้งานส่วนใหญ่อยู่ในประเทศรัสเซียซึ่งเป็นประเทศต้นกำเนิดของเว็บไซต์ Yandex โดยมีผู้ใช้งานแบ่งเป็นสัดส่วนจากทั่วโลกอยู่ที่ประมาณ 0.68% นอกจากนี้ประเทศในยุโรปบางพื้นที่ก็มีการใช้งานเว็บไซต์ Yandex เช่นกัน

 
Yandex Logo

6. DuckDuckGo

หากพูดถึงเว็บไซต์ Search Engine ยอดนิยมอันดับสุดท้ายคงหนีไม่พ้นเว็บไซต์ที่มีโลโก้หน้าตาน่ารักเป็นรูปเป็ดอย่าง DuckDuckGo ที่มีจำนวนผู้ใช้เพิ่มขึ้นจนทะลุ 100 ล้านคำค้นหาต่อวัน ซึ่งความแตกต่างในเรื่องของความปลอดภัย หรือ Pivacy ของข้อมูลที่ค้นหา จึงทำให้เว็บไซต์ดังกล่าวก้าวขึ้นมาเป็นที่นิยมได้อย่างรวดเร็ว

 
6. DuckDuckGo หากพูดถึงเว็บไซต์ Search Engine ยอดนิยมอันดับสุดท้ายคงหนีไม่พ้นเว็บไซต์ที่มีโลโก้หน้าตาน่ารักเป็นรูปเป็ดอย่าง DuckDuckGo ที่มีจำนวนผู้ใช้เพิ่มขึ้นจนทะลุ 100 ล้านคำค้นหาต่อวัน ซึ่งความแตกต่างในเรื่องของความปลอดภัย หรือ Pivacy ของข้อมูลที่ค้นหา จึงทำให้เว็บไซต์ดังกล่าวก้าวขึ้นมาเป็นที่นิยมได้อย่างรวดเร็ว

Search Engine คือ โปรแกรมการค้นหาข้อมูลบนโลกอินเทอร์เน็ตที่สามารถค้นหาได้ทั้งเว็บไซต์ รูปภาพ วิดีโอ หรือแม้แต่สถานที่ ซึ่งมี Search Engine มีประโยชน์อย่างมากต่อผู้คนในยุคปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการเรียนรู้ หรือเรื่องของการทำการตลาดออนไลน์ 


ซึ่งสามารถทำได้ 2 แบบคือการทำ SEO และ SEM สิ่งสำคัญที่จะทำให้เว็บไซต์ของคุณติดหน้าแรกก็คือ Keyword หากคุณใช้คำที่เป็นที่นิยม การที่เว็บไซต์ของคุณจะติดหน้าแรกของการค้นหาก็ไม่ใช่เรื่องยาก  


 

 


บทความนี้เกิดจากการเขียนและส่งขึ้นมาสู่ระบบแบบอัตโนมัติ สมาคมฯไม่รับผิดชอบต่อบทความหรือข้อความใดๆ ทั้งสิ้น เพราะไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นความจริงหรือไม่ ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรอง และหากท่านพบเห็นข้อความใดที่ขัดต่อกฎหมายและศีลธรรม หรือทำให้เกิดความเสียหาย หรือละเมิดสิทธิใดๆ กรุณาแจ้งมาที่ ht.ro.apt@ecivres-bew เพื่อทีมงานจะได้ดำเนินการลบออกจากระบบในทันที