ปัญหาอีกแล้ว แบตเตอรี่โทรศัพท์หมดยังไม่พอ ยังลงผิดป้ายด้วย ผมรู้สึกห่อเหี่ยวอีกรอบ พยายามเปิดโทรศัพท์มือถือใหม่อีกครั้ง เพื่ออย่างน้อยจะได้จดเบอร์โทรศัพท์ของเพื่อนผมออกมาโทรด้วยตู้โทรศัพท์สาธารณะ แต่ไม่ว่าจะกดปุ่มไว้นานแค่ไหน มันก็เงียบสนิทไร้ซึ่งการตอบรับ
ผมรู้สึกท้อแท้จนอยากจะกลับหอพักตัวเองเลยทีเดียว ผมพยายามแบกร่างกายที่เหนื่อยอ่อน และจิตใจที่เหนื่อยล้า ไปให้พ้นจากตรงนั้น ผมทำอะไรไม่ถูกแล้ว ได้แต่เดินไปเรื่อยๆอย่างไร้จุดหมาย มารู้สึกตัวอีกทีก็เมื่อรู้สึกเมื่อยขามากแล้ว
อ่อนแรง เหนื่อยล้า อยากจะหลับตาลงซะให้ได้ ในใจผมได้แต่คิดแบบนั้น ผมหลับตาลงรวบรวมสมาธิและสติ เพื่อคิดหาวิธีแก้ปัญหาตรงหน้า
ทุกเซลล์ประสาทในสองรวบรวมพลังงานไฟฟ้าแปรผลออกมาว่า ให้โทรกลับไปหาเพื่อนคนอื่นที่เมืองไทย แล้วถามเขาว่าเบอร์โทรศัพท์มือถือของนายบอย คือเบอร์อะไร จดมาแล้วก็โทรไปหานายบอยด้วยโทรศัพท์สาธารณะ
ผมพยายามมองหาตู้โทรศัพท์ ยังไงโทรศัพท์สาธารณะคงหาไม่ยากแน่ๆ หลังจากเหลียวมองไปมา โทรศัพท์เครื่องหนึ่งก็เตะตาผมเข้าด้วยสีเขียวสดใสของมัน มันอยู่หน้าร้านสะดวกซื้อแห่งหนึ่งซึ่งไกลจากที่ผมยืนอยู่ประมาณเกือบร้อยเมตร ผมรีบเดินตรงไปทางนั้นอย่างรวดเร็ว ไม่ถึงนาทีผมก็มาหยุดอยู่หน้าโทรศัพท์สาธารณะเครื่องนั้น คว้าหูโทรศัพท์ด้วยมือขวา เตรียมหยอดเหรียญด้วยมือซ้าย
แกร๊ก ผมวางมันลงโดยที่ยังไม่ทันจะได้หยอดเหรียญ
เพราะผมดันไปเห็นเจ้าสิ่งๆหนึ่งเข้า สิ่งนั้นคือ ทางออกของผม ถ้าอยู่เมืองไทยเวลาเราหลงทาง หรือเงินหมด แต่ยังจำเป็นต้องเดินทางและสามารถไปเก็บเงินปลายทางได้ มันก็คงเป็นอะไรไม่ได้นอกจาก
แท็กซี่
ผมโบกมือเรียกในขณะที่มันแล่นเลียบทางเท้ามาด้วยความเร็วไม่มากนัก มันแล่นช้าลงกว่าเดิมเพราะตอบสนองต่อการโบกมือของผมประหนึ่งครูฝึกสอนสั่งปลาโลมา
ประตูถูกเปิดออกโดยอัตโนมัติ ผมเข้าไปนั่งอย่างรวดเร็ว รถแท็กซี่โดยทั่วไปในประเทศญี่ปุ่น จะมีระบบเปิดและปิดประตูอัตโนมัติพร้อมกับระบบเนวิเกเตอร์แทบจะทุกคัน พนักงานในชุดสีขาวสวมหมวกคล้ายนักบินกล่าวทักทายอย่างเป็นกันเอง ผมก้มลงอ่านออกเสียงชื่อหอในกระดาษที่จดมา หอพักโครินเฮียว เพื่อบอกกับพนักงานขับรถว่านั่นคือจุดหมาย
เขาหันกลับไปและบรรจงจัดการกับ เนวิเกเตอร์ ซึ่งเป็นระบบการแสดงผลผ่านทางหน้าจอบอกตำแหน่งพิกัดของรถว่าตอนนี้อยู่ในส่วนใดของประเทศ เขาป้อนชื่อหอพักลงในเนวิเกเตอร์เพื่อหาว่าอยู่แห่งใด คำตอบที่ได้จากหน้าจอเล็กๆนั้น คือ ไม่มี ไม่มีจุดหมายที่ว่านั่น
ผมคงจดชื่อหอมาผิดเป็นแน่ พนักงานขับรถพูดกับผมว่าไม่มีหอชื่อนี้ในระบบในขณะที่นิ้วยังคงกดปุ่มที่หน้าจอต่อไป แล้วผมจะทำยังไงดี ผมคงต้องกลับไปโทรหาเพื่อนในเมืองไทยตามแบบฉบับที่คิดไว้จริงๆ ก่อนที่ผมจะตัดสินใจลงจากรถ พนักงานก็พูดออกมาว่า มีแต่หอพักโคชินเรียว ถ้าหอพักชื่อนี้ อยู่ไม่ไกลจากที่นี่มากนัก ผมจึงตัดสินใจด้วยจิตใจที่อ่อนล้าว่า ไปหอพักโคชินเรียวก็แล้วกันครับ
ไม่นานนักสี่ล้อไฮเทคก็พาผมมาถึงหน้าหอพักโคชินเรียว แทบจะไม่ต้องบอกเลยว่า มันใช่หอพักของเพื่อนผมหรือไม่ เพราะว่าเจ้าเพื่อนตัวดี มายืนอยู่หน้าหอพร้อมกับโทรศัพท์มือถือแนบอยู่ข้างหู
ถึงมันจะใช้เวลาไม่นานมากนักเพื่อมาถึงจุดหมาย ผมก็ยังเสียดายค่ารถที่สามารถซื้อก๋วยเตี๋ยวในบ้านเราได้เป็นสิบชาม ค่าแท็กซี่แพงอย่างที่เพื่อนผมบอกจริงๆ แต่อย่างน้อยก็ทำให้ผมมาถึงที่หมายอย่างปลอดภัย จากนั้นผมก็เล่าเรื่องราวทั้งหมดให้เพื่อนผมฟังในขณะที่เดินไปยังห้องพัก
ผมทิ้งตัวลงกับโซฟาที่อ่อนนุ่มในห้องนั้น แล้วหลับตาพักอยู่ครู่หนึ่งเพื่อให้เพื่อนผมได้เตรียมตัวไปหาข้าวทานกันก่อนที่เราสองคนจะดำเนินชีวิตคนละประเทศอีกครั้ง
ตื่นๆๆ เพื่อนผมเขย่าตัวพร้อมกับเสียงเรียกซ้ำๆ
จะไปกันแล้วเหรอ ผมขยี้ตาแล้วดันตัวขึ้นนั่ง พยายามปรับสายตา ด้านหน้ายังคงเป็นท้ายรถที่มีไฟสีแดงสาดส่องจากการเหยียบเบรค
ไปไหนอะไร รถยังไม่ขยับไปไหนเลย กรุงเทพฯก็รถติดแบบนี้ล่ะเนอะ คงไปงานเลี้ยงรุ่นไม่ทันแน่
ขอขอบคุณ ภาพบางส่วนจาก Wikipedia, the free encyclopedia
http://en.wikipedia.org/wiki/Chubu_Centrair_International_Airport
http://en.wikipedia.org/wiki/Taxicab และ
http://www.zone81.com/arch_sections/trains/nagoya_subway
บทความนี้เกิดจากการเขียนและส่งขึ้นมาสู่ระบบแบบอัตโนมัติ สมาคมฯไม่รับผิดชอบต่อบทความหรือข้อความใดๆ ทั้งสิ้น เพราะไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นความจริงหรือไม่ ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรอง และหากท่านพบเห็นข้อความใดที่ขัดต่อกฎหมายและศีลธรรม หรือทำให้เกิดความเสียหาย หรือละเมิดสิทธิใดๆ กรุณาแจ้งมาที่ ht.ro.apt@ecivres-bew เพื่อทีมงานจะได้ดำเนินการลบออกจากระบบในทันที