ดื่มน้ำเย็นเข้าไปกำหนดรู้อยู่ที่ตรงจุดที่เย็นวาบตรงปลายน้ำ จุดนั้นกำหนดรู้อยู่นานนาน สติระลึกอยู่ตรงนั้นสิบนาทีสภาวะที่เจอคือความว่างเวิ้งว้างแต่มีความรู้ไม่เหมือนหลับที่ว่างแต่ไม่มีสติ ร่างกายหายไปนึกคิดเท่าไหร่ก็หาไม่เจอ ความคิดหายไปนึกคิดเท่าไหร่ก็หาไม่เจอ อารมณ์หายไปนึกคิดเท่าไหร่ก็หาไม่เจอ สัญญาหายไปนึกคิดเท่าไหร่ก็หาไม่เจอ สังขารหายไปนึกคิดเท่าไหร่ก็หาไม่เจอ อาการนี้คือการแยกตัวผู้รู้ออกจากขันธ์ห้าซึ่งคือ รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ เรียบร้อยแล้ว ภาษาพระท่านเรียก เจโตวิมุติ แต่เมื่อออกจากสมาธิมาแล้วขันธ์5 ก็จะกลับมาทำงานเหมือนเก่า จริงๆแลัวขันธ์ห้าน่าจะทำงานไม่เคยหยุดเพียงแต่เราเอาสติไประลึกรู้ที่ผู้รู้ขันธ์5จึงดับไป ต่อไปก็มาเจริญปัญญาเพื่อให้จิตธรรมดามีลักษณะของวิมุติ โดยพระอาจารย์ให้เริ่มจากร่างกายก่อนให้จิตได้รู้ว่าร่างกายเป็นเพียง ธาตุสี่ที่มาประชุมกัน อะไรมากระทบ ก็เป็นสิ่งที่มากระทบเท่านั้น ค่อยๆเจริญปัญญา สอนตัวสัญญาและสังขารให้ยอมรับว่านี่ไม่ใช่ตัวเรา นี่ไม่ใช่ของๆเรา พระอาจารย์ได้เน้นย้ำว่าไม่ต้องไปอ่านหนังสือธรรมะมากแล้วเดี๋ยวจะสับสน เพราะองค์ความรู้ที่แท้จริงได้ปรากฏขึ้นแล้วในใจ นี่แหละการพบผู้รู้และปฏิบัติตนต่อไป
บทความนี้เกิดจากการเขียนและส่งขึ้นมาสู่ระบบแบบอัตโนมัติ สมาคมฯไม่รับผิดชอบต่อบทความหรือข้อความใดๆ ทั้งสิ้น เพราะไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นความจริงหรือไม่ ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรอง และหากท่านพบเห็นข้อความใดที่ขัดต่อกฎหมายและศีลธรรม หรือทำให้เกิดความเสียหาย หรือละเมิดสิทธิใดๆ กรุณาแจ้งมาที่ ht.ro.apt@ecivres-bew เพื่อทีมงานจะได้ดำเนินการลบออกจากระบบในทันที
