Emma

ผู้เขียน : Emma

อัพเดท: 01 มิ.ย. 2023 10.22 น. บทความนี้มีผู้ชม: 663 ครั้ง

ในบทความนี้เราจะพูดถึงแนวทางการจัดเก็บและเตรียมน้ำนมแม่ รวมถึงภาชนะที่ดีที่สุดที่จะใช้ อุณหภูมิในการเก็บรักษา และวิธีการละลายและอุ่น


ห้ามกินอะไรบ้าง? รวมลิสต์อาหารคนท้องที่คุณแม่ต้องเลี่ยง

ห้ามกินอะไรบ้าง? รวมลิสต์อาหารคนท้องที่คุณแม่ต้องเลี่ยงลูก

เนื้อปรุงไม่สุก

เนื้อดิบ เนื้อปรุงสุกๆ ดิบๆ ทั้งหลาย ไม่ว่าจะเป็น เนื้อวัว เนื้อหมู หรือเนื้อปลานั้น ไม่เหมาะกับคนตั้งครรภ์เป็นอย่างยิ่ง เพราะในเนื้อปรุงไม่สุกนั้น มีเชื้อโรคท็อกโซพลาสมา (Toxoplama) แบคเทีเรียลิสทีเรีย (Listeria) ซาลโมเนลลา (Salmonella) อีโคไล (E. Coli) และอื่นๆ อีกมาก ที่หากประสบในคนที่ภาวะร่างกายปกตินั้น จะทำให้เกิดอาการอาหารเป็นพิษ ท้องเสีย แต่หากเกิดกับคนตั้งครรภ์นั้น อาจทำให้ทารกในครรภ์ติดเชื้ออย่างรุนแรง เกิดภาวะสมองถูกทำลาย พิการทางสายตา หรือนำไปสู่ปัญหาท้องก่อนกำหนด ทารกตายคลอด หรือแท้งลูกได้เลย

ไข่ดิบ ไข่ลวก หรือไข่ที่ไม่ผ่านการปรุงสุก

เนื่องจากในไข่ที่ไม่ผ่านการปรุงสุก หรือปรุงสุกไม่ทั่วถึงนั้น เป็นที่อยู่ของเชื้อแบคทีเรียซาลโมเนลลา (Salmonella) ซึ่งผู้ที่ติดเชื้อโรคนี้ผ่านการทานไข่ดิบหรือไข่ปรุงไม่สุกนั้น จะเกิดอาการท้องเสีย ปวดท้อง วิงเวียนศีรษะ เบื่ออาหาร ซึ่งหากเป็นผู้ที่ไม่ตั้งครรภ์ ก็ถือว่าเป็นอาการที่พอรับมือได้โดยไม่ต้องถึงมือแพทย์ แต่หากเป็นคุณแม่ที่ตั้งครรภ์นั้น นอกจากจะเกิดอาการท้องเสียและอาการอื่นๆ ข้างต้นแล้ว อาจเป็นอันตรายต่อทารกน้อยในครรภ์ เป็นสาเหตุให้เกิดการติดเชื้อรุนแรงถึงชีวิตเลยทีเดียว

ผลิตภัณฑ์นมที่ไม่ผ่านการพาสเจอร์ไรส์

ผลิตภัณฑ์นมต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น นมวัว ชีส เนย หรืออะไรก็ตาม หากไม่ผ่านการพาสเจอร์ไรส์แล้ว อาจมีความเสี่ยงเจอเชื้อโรค แบคทีเรียแบบเดียวกันกับที่เจอในเนื้อสัตว์ได้ เช่น ท็อกโซพลาสมา (Toxoplama) ซาลโมเนลลา (Salmonella) ลิสทีเรีย (Listeria) อีโคไล (E. Coli)  แคมไพโลแบคเตอร์ (Campylobacter) และอื่นๆ ซึ่งเชื้อโรคและแบคทีเรียเหล่านี้ ก็เป็นสาเหตุให้เกิดอาการท้องเสีย ท้องร่วง อาหารเป็นพิษ นับได้ว่าเป็นอันตรายกับคุณแม่และทารกน้อยในช่วงตั้งครรภ์เป็นพิเศษ ไม่ควรมองเชื้อแบคทีเรียเหล่านี้เป็นเรื่องเล็กในช่วงตั้งครรภ์เด็ดขาด

ปลากินเนื้อตัวใหญ่

อาหารทะเล เป็นวัตถุดิบที่มีสารอาหารที่มีประโยชน์ต่อพัฒนาการทารกอย่างไอโอดีน แต่ในขณะเดียวกัน การทานอาหารทะเลโดยเฉพาะปลานั้น ก็ต้องเลือกทานชนิดที่มีปรอทสะสมต่ำ ให้ประโยชน์และทานในประมาณเหมาะสมด้วยเช่นกัน จึงจะให้สารอาหารให้กับคุณแม่และทารกน้อยได้สูงสุด ซึ่งในปลาส่วนใหญ่นั้น จะมีปลาบางชนิดที่เป็นปลาที่มีสารปรอทสะสมอยู่ในตัว เสี่ยงเกิดปัญหากับระบบไหลเวียนโลหิตและการทำงานระบบอื่นๆ ของร่างกายได้

ซึ่งปลาที่จะมีสารปรอทสะสมในปริมาณที่น่าเป็นห่วงนั้น โดยส่วนมากแล้วมักเป็นปลาตัวใหญ่ ที่เป็นปลาที่กินเนื้อสัตว์เป็นอาหาร ได้แก่ ปลาดุก ปลาอินทรีย์ ปลาทูน่าตาโต เป็นต้น 

ของสดที่ล้างไม่สะอาด

กรณีนี้พบได้บ่อยในผักสดและผลไม้ ตัวผักสดและผลไม้นั้น หากล้างไม่สะอาดก็สามารถเป็นที่อยู่ของสารพิษตกค้างจากการเกษตร หรือเชื้อโรค แบคทีเรียที่อยู่ในดิน ปุ๋ย หรือมูลสัตว์ได้นั่นเอง รวมถึงบริเวณช้ำของผักผลไม้ ก็เป็นแหล่งที่จะเจอเชื้อโรคเหล่านี้ และเป็นอันตรายกับทารกในท้องได้เช่นกัน ดังนั้นในการปรุงอาหารที่มีผักสดหรือผลไม้นั้น ทางที่ดีที่สุดคือปรุงและล้างด้วยตนเอง เพื่อให้มั่นใจว่าผ่านการล้างน้ำอย่างสะอาด ปลอดเชื้อโรค

อาหารหรือของสดที่ทิ้งไว้ในอุณหภูมิห้อง

อากาศร้อนๆ แบบประเทศไทยบ้านเรานั้น เรื่องผลกระทบอุณหภูมิห้องเป็นเรื่องที่สำคัญกับอาหารการกินมากเช่นกัน เพราะอุณหภูมิที่สูง อากาศที่อุ่นแต่ไม่ร้อนมากพอ ก็ย่อมเป็นปัจจัยที่ให้แบคทีเรียและเชื้อโรคในอาหารเติบโตได้เช่นกัน ดังนั้น คุณแม่ควรเลี่ยงการทานอาหารหรือของสดใดๆ ก็ตามที่ถูกวางทิ้งไว้ในอุณหภูมิห้องนานกว่า 2 ชั่วโมง เพราะอาจทำให้ท้องเสีย และเป็นอันตรายกับลูกน้อยในครรภ์ได้

ผลไม้แป้งเยอะ

เข้าใจผิดกันไปหลายคน หลายกรณีว่ากินผลไม้เท่ากับปลอดภัย แต่จริงๆ แล้วก็มีผลไม้บางชนิดที่มีสารอาหารที่หากทานเข้าไปก็เป็นภัยเงียบไม่แพ้กับของทอดของมันเลยทีเดียว ผลไม้แป้งเยอะอย่าง มะม่วง แอปเปิ้ล องุ่น หรือกระทั่ง กล้วย นั้น บางครั้งก็คือผลคาร์โบไฮเดรตพร้อมทานดีๆ นี่เอง แต่บางครั้งผลไม้เหล่านี้ก็ให้วิตามินและแร่ธาตุที่มีประโยชน์กับครรภ์ เพราะฉะนั้นควรจำกัดปริมาณการทานให้เหมาะสม อย่าทานเยอะจนเกินไปจนเสียสุขภาพแทนที่จะได้สุขภาพดี

ผลไม้รสหวานจัด

เช่นเดียวกันกับผลไม้ที่มีแป้งเยอะ ผลไม้ที่มีรสหวานจัดอาจไม่ใช่ตัวเลือกสุขภาพที่สมบูรณ์สำหรับคุณแม่ เพราะผลไม้ที่มีรสหวานหมายความว่าผลไม้นั้นมีน้ำตาลเยอะ และน้ำตาลเยอะไม่ใช่ผลดีต่อสุขภาพ เพราะน้ำตาลเมื่อเข้าไปในร่างกายก็จะสะสมเป็นไขมัน อีกทั้งหากน้ำตาลเมื่อเข้าร่างกายไปแล้วจะเข้าไปอยู่ในกระแสเลือด ส่งผลต่อระบบไหลเวียนของเลือด เสี่ยงเป็นโรคความดันโลหิตสูงได้ ซึ่งผลไม้รสหวานจัด ได้แก่ ทุเรียน ลำไย น้อยหน่า หรือขนุน เป็นต้น ดังนั้น คุณแม่ท่านไหนที่ชื่นชอบผลไม้เหล่านี้ ควรระมัดระวังปริมาณในการทานให้พอดี ไม่มากเกินไป

 

ขอบคุณข้อมูลจาก

https://www.parentsmart.co/


บทความนี้เกิดจากการเขียนและส่งขึ้นมาสู่ระบบแบบอัตโนมัติ สมาคมฯไม่รับผิดชอบต่อบทความหรือข้อความใดๆ ทั้งสิ้น เพราะไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นความจริงหรือไม่ ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรอง และหากท่านพบเห็นข้อความใดที่ขัดต่อกฎหมายและศีลธรรม หรือทำให้เกิดความเสียหาย หรือละเมิดสิทธิใดๆ กรุณาแจ้งมาที่ ht.ro.apt@ecivres-bew เพื่อทีมงานจะได้ดำเนินการลบออกจากระบบในทันที