หลายคนที่กำลังมองหาธุรกิจที่น่าลงทุน คงปฏิเสธไม่ได้ว่าการทำน้ำดื่มขายเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจมาก ๆ เพราะน้ำดื่มเป็นสิ่งจำเป็นในชีวิตประจำวัน มีความต้องการตลอดทั้งปี ไม่ว่าจะฤดูไหนก็ขายได้ แถมยังเป็นธุรกิจที่สามารถเริ่มต้นได้ทั้งขนาดเล็กและขนาดใหญ่
แต่หลายคนอาจกังวลว่า การทำน้ำดื่มขายต้องใช้เงินลงทุนเท่าไหร่ ? จะคุ้มค่ากับการลงทุนไหม ? และจะเริ่มต้นอย่างไรดี ? วันนี้เรามีคำตอบมาฝากทุกคนที่สนใจทำธุรกิจน้ำดื่มแบบครบถ้วน พร้อมแนะนำขั้นตอนการเริ่มต้นธุรกิจอย่างละเอียด เพื่อให้สามารถวางแผนการลงทุนทำธุรกิจน้ำดื่มได้อย่างมั่นใจ
การลงทุนทำน้ำดื่มขายนั้นมีหลายระดับให้เลือก โดยเริ่มต้นที่ขนาดเล็กใช้เงินลงทุนประมาณ 300,000 - 500,000 บาท เหมาะสำหรับตลาดในชุมชน ส่วนขนาดกลางใช้เงินลงทุน 500,000 - 1,500,000 บาท เหมาะกับตลาดระดับอำเภอ และขนาดใหญ่ลงทุน 1,500,000 บาทขึ้นไป สำหรับตลาดระดับจังหวัด โดยเงินลงทุนส่วนใหญ่จะใช้ไปกับเครื่องกรองน้ำ ระบบบรรจุ และอุปกรณ์ที่จำเป็นต่าง ๆ
การทำน้ำดื่มขายนั้น มีตัวเลือกในการลงทุนที่หลากหลาย ขึ้นอยู่กับขนาดของกิจการที่ต้องการ โดยสามารถแบ่งการลงทุนออกเป็น 3 ระดับดังนี้
การทำน้ำดื่มขายขนาดเล็ก เหมาะสำหรับผู้ที่เริ่มต้นธุรกิจ หรือต้องการทำตลาดในชุมชน ละแวกใกล้เคียง โดยมีกำลังการผลิตประมาณ 300-500 ถัง/เดือน ค่าใช้จ่ายหลัก ๆ ประกอบด้วย
การทำน้ำดื่มขายขนาดกลาง เหมาะกับผู้ที่ต้องการทำตลาดในระดับอำเภอหรือจังหวัด มีกำลังการผลิต 1,000-2,000 ถัง/เดือน เงินลงทุนจะประกอบด้วย
สำหรับผู้ที่ต้องการทำตลาดระดับจังหวัดหรือภูมิภาค มีกำลังการผลิตมากกว่า 3,000 ถัง/เดือน ประมาณการการลงทุนมีดังนี้
หมายเหตุ : ราคาข้างต้น คือ การประมาณการทำน้ำดื่มขายเท่านั้น งบประมาณจริง ๆ ย่อมมีการเปลี่ยนแปลง
ธุรกิจน้ำดื่มถือว่าคุ้มค่ากับการลงทุน เพราะมีต้นทุนการผลิตต่ำเพียง 8-12 บาทต่อถัง ในขณะที่ขายได้ราคา 25-35 บาท ทำให้มีกำไรต่อถังสูงถึง 15-20 บาท แถมยังเป็นสินค้าที่มีความต้องการตลอดทั้งปี และมีลูกค้าประจำที่สั่งซื้อต่อเนื่อง
สำหรับการลงทุนขนาดเล็กที่ใช้เงินประมาณ 300,000-500,000 บาท หากสามารถผลิตและขายได้เฉลี่ย 400 ถังต่อเดือน จะมีรายได้ประมาณ 10,000-12,000 บาท และสามารถคืนทุนได้ภายใน 2-3 ปี โดยความสำเร็จของธุรกิจขึ้นอยู่กับการบริหารจัดการที่ดี และการรักษามาตรฐานคุณภาพอย่างสม่ำเสมอ
การผลิตน้ำดื่มขาย มี 2 วิธี คือ
การทำโรงงานผลิตน้ำดื่มเป็นของตัวเองนั้นเป็นการลงทุนที่ค่อนข้างสูง แต่ให้ผลตอบแทนที่คุ้มค่าในระยะยาว โดยต้องเริ่มจากการหาทำเลที่เหมาะสม ขออนุญาตจัดตั้งโรงงานให้ถูกต้องตามกฎหมาย ติดตั้งระบบการผลิตที่ได้มาตรฐาน และขอใบรับรอง อย. เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือให้กับแบรนด์ของเรา
ข้อดีของการมีโรงงานผลิตน้ำดื่มเป็นของตัวเอง
การจ้างโรงงานผลิตน้ำดื่มเป็นทางเลือกที่ดี สำหรับผู้ที่ต้องการเริ่มธุรกิจน้ำดื่มแต่มีงบประมาณจำกัด หรือยังไม่พร้อมลงทุนสร้างโรงงานเอง โดยต้องเลือกโรงงานที่ได้มาตรฐาน มีใบรับรอง อย. และมีประสบการณ์การผลิตที่น่าเชื่อถือ เพื่อให้ได้น้ำดื่มที่มีคุณภาพและปลอดภัยสำหรับผู้บริโภค
ข้อดีของการจ้างโรงงานผลิตน้ำดื่ม
การทำธุรกิจน้ำดื่มอาจดูเหมือนง่าย แต่มีหลายสิ่งที่ต้องระวังเป็นพิเศษ โดยเฉพาะเรื่องคุณภาพน้ำและความสะอาดที่ต้องได้มาตรฐาน อย. อย่างเคร่งครัด ต้องมีการตรวจสอบคุณภาพน้ำอย่างสม่ำเสมอ รวมถึงดูแลรักษาเครื่องกรองและอุปกรณ์การผลิตให้อยู่ในสภาพดี เพราะหากเกิดปัญหาเรื่องคุณภาพน้ำแม้เพียงครั้งเดียว อาจส่งผลเสียต่อความน่าเชื่อถือของแบรนด์ในระยะยาว
การทำธุรกิจน้ำดื่มเป็นธุรกิจที่น่าสนใจและมีโอกาสเติบโตสูง เพราะเป็นสินค้าที่มีความต้องการตลอดปี โดยสามารถเริ่มต้นได้หลายรูปแบบ ตั้งแต่การลงทุนขนาดเล็ก 300,000-500,000 บาท ไปจนถึงการลงทุนขนาดใหญ่ที่มากกว่า 1,500,000 บาท
สำหรับผู้ที่มีงบประมาณจำกัด สามารถเริ่มต้นจากการจ้างโรงงานผลิตก่อนได้ แล้วค่อยๆ สะสมทุนเพื่อขยายกิจการในอนาคต แต่ไม่ว่าจะเลือกรูปแบบไหน สิ่งสำคัญที่สุดคือการรักษามาตรฐานคุณภาพน้ำดื่มและการบริการที่ดี เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับลูกค้าในระยะยาว
บทความนี้เกิดจากการเขียนและส่งขึ้นมาสู่ระบบแบบอัตโนมัติ สมาคมฯไม่รับผิดชอบต่อบทความหรือข้อความใดๆ ทั้งสิ้น เพราะไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นความจริงหรือไม่ ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรอง และหากท่านพบเห็นข้อความใดที่ขัดต่อกฎหมายและศีลธรรม หรือทำให้เกิดความเสียหาย หรือละเมิดสิทธิใดๆ กรุณาแจ้งมาที่ ht.ro.apt@ecivres-bew เพื่อทีมงานจะได้ดำเนินการลบออกจากระบบในทันที