หลาย ๆ คนอาจจะมีปัญหาผมร่วง หรือผมบาง ไม่ว่าจะมีสาเหตุจากเวลาที่เริ่มมากขึ้น หรือเป็นเพราะโรคพันธุกรรม แต่ไม่ว่าจะด้วยสาเหตุใด ปัญหาเส้นผมก็ย่อมสร้างความกังวลใจของแก่เจ้าตัวได้อยู่ดี ซึ่งในปัจจุบันได้มีวิธีการรักษาด้วยการปลูกผมที่หลากหลาย แต่บางวิธีก็ต้องผ่าตัด และทำให้เจ็บตัวได้
โดยวิธีที่ได้รับความนิยมมากก็คือ การฉีด PRP ผม ซึ่งเป็นการปลูกผมอีกวิธีหนึ่งที่จะช่วยรักษาผมบาง เสริมสร้างสุขภาพเส้นผมที่เกิดใหม่ให้แข็งแรง ด้วยวิธีการรักษาจากธรรมชาติ โดยเฉพาะการใช้เซลล์จากร่างกายของเราเอง ซึ่งไม่ต้องผ่าตัด ไม่เจ็บตัว ไม่ต้องใช้เวลาในการพักฟื้น ถือว่าเป็นวิธีการปลูกผมที่น่าสนใจไม่น้อยเลยทีเดียว
การฉีด PRP ผม คือ วิธีการปลูกผมอีกวิธีหนึ่ง ที่ช่วยกระตุ้นเซลล์ใต้ผิวหนังให้เกิดการปรับสภาพหนังศีรษะ และซ่อมแซมเซลล์รากผมในบริเวณที่เส้นผมบาง ลีบ เล็ก และกำลังจะหลุดร่วงไป ให้งอกใหม่แข็งแรงขึ้น และหนาขึ้น
โดยแพทย์จะทำการฉีด PRP (Platelet Rich Plasma) หรือที่เรียกว่าเกล็ดเลือดเข้มข้นของตนเอง มาปั่นแยก และคัดเฉพาะพลาสม่าที่มีเกล็ดเลือด และ Growth factor ที่เข้มข้น ฉีดเข้าไปที่หนังศีรษะในส่วนที่มีอาการผมร่วง ผมบาง เพื่อกระตุ้นเซลล์ให้เกิดการซ่อมแซม ลดการอักเสบ กระตุ้นการสร้างเซลล์ ทำให้รากผมแข็งแรง ชะลอการผมร่วง และผมที่ขึ้นใหม่ดก เส้นหนา รวมถึงมีคุณภาพเส้นผมที่ดีขึ้น เป็นการปลูกผม ที่ถือว่า เป็นวิธีการรักษาแบบธรรมชาติที่ปลอดภัยต่อร่างกาย และใช้เวลาพักฟื้นไม่นาน
หากคุณกำลังจะเตรียมตัวฉีด PRP ผม เพื่อทำการปลูกผมอย่างเป็นธรรมชาติ เรามาดูกันเลยว่า ต้องเตรียมตัวกันอย่างไรบ้าง
เมื่อเราเตรียมตัวมาเรียบร้อย ก็ต้องรู้ว่า กระบวนการการทํา PRP ผมนั้น มีขั้นตอนอย่างไร จะสามารถใช้พลาสม่าของเราได้อย่างไร เรามาดูกระบวนการฉีด PRP ผม กัน
การฉีด PRP ผม แม้ว่าจะมีรายละเอียดขั้นตอนที่ละเอียดอ่อน แต่รับรองเลยว่า ผลลัพธ์ที่คุณจะได้รับนั้น จะต้องถูกใจอย่างแน่นอน เพราะการฉีด PRP ผมจะทำให้…
อย่างไรก็ตาม การฉีด PRP ผม ไม่ใช่การปลูกผมถาวร ทำให้มีโอกาสกลับไปผมร่วงอีก จึงต้องมีการทำซ้ำในระยะเวลา 3 – 6 เดือน เพื่อให้ผลที่ยาวนาน
การทำ PRP ผม ขึ้นอยู่กับความยากง่ายและความรุนแรงของอาการของผู้เข้ารับการรักษา เพื่อให้เห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจน ควรพบแพทย์อย่างต่อเนื่อง และควรทำซ้ำทุก ๆ 3 – 6 เดือน โดยในครั้งแรกที่ทำ ควรทำเดือนละ 1 ครั้ง และจะต้องทำ 3 เดือนติดกัน
จากนั้นเมื่อเริ่มเห็นผลดีขึ้น ให้ลดลงเป็นการทำซ้ำทุก 3 – 6 เดือน เพื่อให้เห็นผลในระยะยาว หากรักษาอย่างต่อเนื่องจะเห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจนมากขึ้น ทั้งผมร่วงน้อยลง ผมเกิดใหม่มากขึ้น สุขภาพเส้นผมดูแข็งแรง ดก ดำหนาขึ้น ยิ่งหากผู้รับการรักษาดูแลตัวเองได้ดี ทานอาหารที่มีประโยชน์ ก็จะช่วยให้ผลการรักษาดียิ่งขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
การทำ PRP ผม จะไม่รู้สึกเจ็บเลย เนื่องจากในทุกขั้นตอนแพทย์ที่ทำการฉีด PRP ผมจะฉีดยาชาและใช้เข็มที่มีขนาดเล็กเป็นพิเศษ (Microneedle) ฉีดให้ก่อนการรักษา ไม่มีการผ่าตัดเหมือนปลูกผม หรือแผลเปิดใด ๆ เหมาะกับผู้ที่ต้องการปลูกผมแต่กลัวเจ็บ ไม่อยากมีแผล และที่สำคัญราคาถูกกว่าปลูกผมเยอะ อย่างไรก็ตามควรปฏิบัติตามคำแนะนำหลังการทำอย่างเคร่งครัด
การรักษาด้วยการฉีด PRP ผม แม้ไม่มีแผลผ่าตัด เราก็ต้องดูแลตัวเองหลังการฉีด PRP ผม อาจจะไม่ต้องระวังเท่าการปลูกผม แต่หลังการทำ PRP ผม หนังศีรษะจะบอบบาง บางคนอาจมีอาการช้ำบ้าง ดังนั้น จึงควรดูแลตนเองด้วยวิธีการดังนี้
สำหรับผู้ที่ต้องการรักษาอาการผมร่วง ผมบาง ด้วยวิธีการฉีด PRP ผม ตามที่เราได้อธิบายขั้นตอนกระบวนการ ซึ่งเป็นการใช้เซลล์ในร่างกายของเราเองในการรักษา และนอกจากนี้ การฉีด PRP ผม ยังเป็นกระบวนการรักษาที่มีข้อดีอย่างมากมาย ดังต่อไปนี้
การฉีด PRP ผม เป็นวิธีการรักษาอีกวิธีการหนึ่งที่ดี มีประสิทธิภาพสูง และได้รับความนิยมอยู่ในขณะนี้สำหรับผู้ที่มีปัญหาผมร่วง ผมบาง ไม่อยากเจ็บตัวเสียเลือดจากการผ่าตัด ไม่มีเวลาพักฟื้น ไม่อยากมีแผลเป็น ทั้งยังมี
ประสิทธิภาพที่ดี เห็นผลชัดเจนในระยะยาว
ขอบคุณข้อมูลจาก https://drtarinee.com/
บทความนี้เกิดจากการเขียนและส่งขึ้นมาสู่ระบบแบบอัตโนมัติ สมาคมฯไม่รับผิดชอบต่อบทความหรือข้อความใดๆ ทั้งสิ้น เพราะไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นความจริงหรือไม่ ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรอง และหากท่านพบเห็นข้อความใดที่ขัดต่อกฎหมายและศีลธรรม หรือทำให้เกิดความเสียหาย หรือละเมิดสิทธิใดๆ กรุณาแจ้งมาที่ ht.ro.apt@ecivres-bew เพื่อทีมงานจะได้ดำเนินการลบออกจากระบบในทันที
