ครีมรักษาแผลเป็นซิลิโคนเจล เจลทาแผลยอดนิยม แนะนำเจลทาแผลเป็น มีแผลเป็นหลายประเภทที่เหมาะจะใช้ซิลิโคนเจล รวมถึงประโยชน์ที่หลากหลายของซิลิโคนเจล
การใช้ชีวิตในปัจจุบัน ล้วนสามารถเกิดสิ่งที่ไม่คาดฝันอยู่เสมอ เช่น เกิดอุบัติเหตุ หรือเกิดโรคภัยภายในร่างกายอย่างกะทันหัน จนทำให้ต้องมีบาดแผลจากอุบัติเหตุ หรือแผลเป็นจากการผ่าตัดเพื่อรักษาชีวิตจากโรคภัย รวมถึงแผลเป็นจากการศัลยกรรม เป็นต้น
จากที่กล่าวมา ปัญหาที่หลายคนกังวลมากที่สุดคือการที่เมื่อทำการรักษาแล้วจะทิ้งรอยแผลเป็นเอาไว้ จึงมีการหาวิธีรักษาแผลเป็น ซึ่งหนึ่งในวิธีที่ได้รับความนิยมในปัจจุบันคือการใช้ซิลิโคนเจลในการช่วยลดรอยแผลเป็นออกไป โดยซิลิโคนเจลเป็นครีมทาแผลเป็นทำงานโดยสร้างชั้นฟิล์มบนผิวหนัง ฟิล์มนี้ช่วยให้แผลชุ่มชื้นและป้องกันไม่ให้สูญเสียน้ำ จะสามารถช่วยลดการมองเห็นของแผลเป็นและทำให้แผลเป็นเรียบและนุ่มขึ้นด้วย
รอยแผลที่สามารถใช้เจลทาแผลเป็นซิลิโคนเจลในการรักษาได้ ต้องมีลักษณะที่เหมาะสมในการใช้งานซึ่งประกอบด้วยรอยแผลเป็น 5 ชนิด ดังนี้
รอยแผลเป็นปกติ คือ รอยที่เกิดขึ้นบนผิวหนังหลังจากแผลหายดี มักมีสีซีดกว่าผิวหนังบริเวณโดยรอบ และอาจมีลักษณะนูน เรียบ หรือบุ๋ม อาจรู้สึกตึง คัน หรือเจ็บเล็กน้อย มักเกิดขึ้นหลังจาก แผลถลอก แผลจากสิว แผลจากการผ่าตัด เป็นต้น รอยแผลเป็นปกติมักจะจางลงและเรียบเนียนขึ้นเมื่อเวลาผ่านไป
รอยแผลเป็นคีลอยด์เป็นรอยแผลเป็นชนิดหนึ่งที่เกิดจากเนื้อเยื่อที่เจริญเติบโตมากเกินไป มักมีลักษณะนูน แดง หนา และขยายใหญ่กว่าขอบเขตของแผลเดิม มักเกิดขึ้นบริเวณหน้าอก ไหล่ ใบหู แก้ม หรือหลัง เป็นต้น สาเหตุของรอยแผลเป็นคีลอยด์ยังไม่ทราบแน่ชัด แต่เชื่อกันว่าเกี่ยวข้องกับพันธุกรรม ฮอร์โมน การอักเสบ หรือการบาดเจ็บของผิวหนัง เป็นต้น อาการของรอยแผลเป็นคีลอยด์ เช่น รอยแผลเป็นนูน แดง หนา และขยายใหญ่กว่าขอบเขตของแผลเดิม คัน เจ็บ หรือรู้สึกตึงรั้ง เป็นต้น
รอยแผลเป็นแบบนูนโตเป็นรอยแผลเป็นชนิดหนึ่งที่เกิดจากเนื้อเยื่อแผลที่เจริญเติบโตมากเกินไป มักมีลักษณะนูน แดง หนา คล้ายไต มักเกิดขึ้นบริเวณหน้าอก ไหล่ หลัง หรือใบหน้า เป็นต้น สาเหตุของรอยแผลเป็นแบบนูนโต ยังไม่ทราบแน่ชัด แต่เชื่อกันว่าเกี่ยวข้องกับพันธุกรรม ฮอร์โมน การอักเสบ หรือการบาดเจ็บของผิวหนัง เป็นต้น เช่นเดียวกับรอยแผลเป็นแบบคีลอยด์ อาการของรอยแผลเป็นแบบนูนโต
รอยแผลเป็นนูน แดง หนา คล้ายไต เจ็บ คัน หรือรู้สึกตึงรั้ง เป็นต้น
รอยแผลเป็นแบบหลุมเป็นรอยแผลเป็นชนิดหนึ่งที่เกิดจากการสูญเสียเนื้อเยื่อใต้ผิวหนัง มักมีลักษณะเป็นหลุมบุ๋มลงไป รอยแผลเป็นแบบหลุมมักเกิดขึ้นหลังจากสิวอักเสบ โรคอีสุกอีใส การบาดเจ็บของผิวหนัง หรือการผ่าตัด เป็นต้น รอยแผลเป็นแบบหลุมเกิดขึ้นเมื่อคอลลาเจนและอีลาสตินใต้ผิวหนังถูกทำลาย แบ่งได้ 3 ประเภท ได้แก่
รอยแผลเป็นแบบหดรั้งเป็นรอยแผลเป็นชนิดหนึ่งที่เกิดจากเนื้อเยื่อแผลเป็นดึงรั้งผิวหนังบริเวณโดยรอบ ทำให้ผิวหนังตึง ยืดหยุ่นได้น้อยลง และอาจส่งผลต่อการเคลื่อนไหว รอยแผลเป็นแบบหดรั้งมักเกิดขึ้นหลังจากไฟไหม้ น้ำลวก แผลจากอุบัติเหตุ หรือการผ่าตัด เป็นต้น รอยแผลเป็นแบบหดรั้งเกิดขึ้นเมื่อเนื้อเยื่อแผลสร้างตัวผิดปกติ เกิดเป็นเนื้อเยื่อที่แข็งและตึง มีลักษณะเป็นรอยแผลเป็นนูน แดง หนา ผิวหนังบริเวณรอยแผลเป็นตึง ยืดหยุ่นได้น้อยลง อาจส่งผลต่อการเคลื่อนไหว เป็นต้น
การรักษาด้วยซิลิโคนเจลเป็นวิธีที่สะดวกและสามารถทำได้เอง เหมาะสำหรับรอยแผลเป็นหลายประเภท เช่น รอยแผลเป็นนูน รอยแผลเป็นคีลอยด์ รอยแผลเป็นหลุมสิว รอยแผลเป็นจากการผ่าตัด ทำได้ดังนี้
การใช้ซิลิโคนเจลมีประโยชน์และสรรพคุณมากมาย เช่น
ซิลิโคนเจลเป็นครีมทาแผลเป็นที่ช่วยให้รอยแผลเป็นเรียบเนียน จางลง นุ่มลง และลดอาการคัน มีหลายรูปแบบ เช่น เจล ครีม แผ่นแปะ และเทป เป็นวิธีลบรอยแผลเป็นที่ได้รับความนิยมอย่างมากในปัจจุบัน
บทความนี้เกิดจากการเขียนและส่งขึ้นมาสู่ระบบแบบอัตโนมัติ สมาคมฯไม่รับผิดชอบต่อบทความหรือข้อความใดๆ ทั้งสิ้น เพราะไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นความจริงหรือไม่ ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรอง และหากท่านพบเห็นข้อความใดที่ขัดต่อกฎหมายและศีลธรรม หรือทำให้เกิดความเสียหาย หรือละเมิดสิทธิใดๆ กรุณาแจ้งมาที่ ht.ro.apt@ecivres-bew เพื่อทีมงานจะได้ดำเนินการลบออกจากระบบในทันที
