เมโสหน้าใส เป็นการฉีดบำรุงหน้าเพื่อช่วยกระชับรูขุมขนให้เล็กลง ลดรอยสิว ฝ้าให้กลับมาเรียบเนียนกระจ่างใสดูเยาว์วัยอีกครั้ง โดยเมโสหน้าใสกี่ครั้งเห็นผลขึ้นอยู่กับสภาพผิว
ไม่ว่าใครก็อยากจะมีผิวหน้าใสไร้ร่องรอย ดูเรียนเนียน กระจ่างใส เพราะนอกจากจะทำให้รูปลักษณ์ของตนเองดูดีแล้ว ยังส่งผลต่อทางด้านจิตใจโดยช่วยให้มีความมั่นใจในตนเองและกล้าแสดงออกมากขึ้น
แต่ด้วยสภาพแวดล้อมในปัจจุบันที่เต็มไปด้วยมลภาวะต่าง ๆ รวมถึงสภาพผิวของตนเอง ทำให้ใบหน้าเต็มไปด้วยความมัน รูขุมขน รวมถึงสิว กระ ฝ้าที่รักษาให้หายยาก ดังนั้นในปัจจุบันจึงมีวิธีรักษาปัญหาผิวหน้าที่เรียกว่า “เมโสหน้าใส” หรือการฉีดหน้าใสซึ่งช่วยบำรุงเติมเต็มผิวหน้าเพื่อแก้ไขปัญหาผิวหนังได้อย่างตรงจุด
เมโสหน้าใสคือ การบำรุงผิวรูปแบบหนึ่งที่นำส่วนผสมธรรมชาติอย่างวิตามินต่าง ๆ จากครีมบำรุงผิวที่สามารถดูดซึมได้ยากมารวมไว้ และฉีดเข้าไปในชั้นผิวโดยตรงทำให้ออกฤทธิ์ไวมากขึ้น โดยจะค่อย ๆ เริ่มเห็นผลจากการทำเมโส เช่น ผิวกระจ่างใส เต่งตึง ลดปัญหาผิวต่าง ๆ ได้อย่างชัดเจน 1 อาทิตย์
หมายเหตุ
เมโสหน้าใสจะได้ผลลัพธ์ดีมากแค่ไหนนั้นจะขึ้นอยู่กับสภาพปัญหาผิวของผู้เข้ารับการรักษา โดยบางคนจะเห็นผลไว แต่บางคนจะเห็นผลช้า เพราะฉะนั้นก่อนเข้ารับการฉีดเมโสควรจะให้แพทย์ประเมินสภาพผิวหน้าก่อน
หลังทำเมโสประมาณ 7-14 วัน จะเริ่มเห็นผลลัพธ์อย่างชัดเจน โดยผิวหน้าของผู้เข้ารับการรักษาจะดูอมชมพูอย่างสุขภาพดี ดูกระจ่างใสเรียบเนียน และผิวดูชุ่มชื้นมากกว่าเดิม โดยผลจากทำmesoหน้าใสจะอยู่ได้ประมาณ 1-2 เดือนขึ้นอยู่กับการดูแลตนเอง
สำหรับผู้ที่อยากลองทำเมโสหน้าใส แต่ก็กังวลว่าเมโสหน้าใสอันตรายไหม? ต้องบอกเลยว่าไม่ต้องกังวลถ้าหากเป็นเมโสแท้ที่ได้รับมาตรฐานผ่านอย. เพราะส่วนผสมที่นำมาใช้ฉีดmesoหน้าใสนั้นจะสกัดขึ้นมาจากธรรมชาติที่สามารถสลายตัวได้โดยไม่ตกค้าง โดยตัวยาจะเป็นวิตามินหลากหลายชนิดที่ช่วยบำรุงและเสริมภูมิคุ้มกันกับผิว
สิ่งที่สำคัญอีกอย่างหนึ่งเพื่อความปลอดภัยของการทำเมโสหน้าใส ผู้เข้ารับการรักษาควรรักษากับทางคลินิกที่ได้รับมาตรฐาน และมีแพทย์ผู้มีประสบการณ์เชี่ยวชาญเป็นผู้ดูแลรักษาอย่างใกล้ชิดเพื่อความปลอดภัยของผิวหน้า
แต่การฉีดหน้าใสจะมีเรื่องที่จำเป็นต้องระวังเพื่อไม่ให้เกิดอันตรายกับร่างกาย คือ เมโสปลอม เพราะเมโสปลอมเป็นตัวยาที่ไม่ได้รับมาตรฐาน ถ้าซื้อเมโสหน้าใสฉีดเองหรือรักษาในสถานที่ที่ไม่มีมาตรฐาน ก็อาจจะได้รับเมโสปลอมที่ก่อให้เกิดอาการแพ้ระคายเคืองผิว ผิวอักเสบ ทำให้ผิวบาง หรือส่งผลอันตรายอื่น ๆ กับร่างกายได้
เมโสสะกิด เป็นการนำเข็มฉีดยามาสะกิดชั้นผิวหนังตื้น ๆ เป็นจุดเล็ก ๆ ทั่วใบหน้าเพื่อให้ผิวซึมซับวิตามินได้ดีมากขี้น ซี่งจะกระตุ้นชั้นผิวให้สร้างคอลลาเจน แต่การสะกิดเมโสหน้าใสจะมีข้อจำกัด คือ หลังสะกิดเมโสอาจจะมีรอยแดงบนใบหน้า และถ้าเข็มที่ใช้ทำเมโสไม่สะอาดมากพอ ก็จะทำให้ใบหน้ามีโอกาสอักเสบและติดเชื้อได้
เมโสหน้าใส 16 จุด เป็นการฉีดวิตามินหน้าใสให้กับผิวหน้าทั้งหมด 16 จุด โดยจะค่อย ๆ ไล่ฉีดตามทิศทางการไหลของต่อมน้ำเหลือง ซึ่งจะช่วยให้ผิวซึมซับวิตามินได้เช่นเดียวกันกับเมโสสะกิด แต่จะเห็นผลลัพธ์จากการทำนานกว่าเพราะจะฉีดในชั้นผิวหนังที่ลึกลงไป และหลังจากฉีดจะเป็นแผล มีรอยช้ำ และรู้สึกเจ็บระคายเคืองน้อยกว่าการทำเมโสสะกิดด้วย
หากต้องการเลือกยี่ห้อที่ใช้ทำเมโสหน้าใสจะต้องพิจารณาตามลักษณะผิวหน้าของตนเองเป็นหลัก โดยจะฉีดหน้าใสตัวไหนดีนั้นควรเข้าพบแพทย์ เพื่อให้แพทย์ประเมินและแนะนำเมโสหน้าใสที่เหมาะกับสภาพผิวและความต้องการของผู้เข้ารับการรักษาได้ โดยแต่ละยี่ห้อก็จะมีประสิทธิภาพที่แตกต่างกัน ดังนี้
ช่วยลดการเกิดสิว ผื่น อาการแพ้ต่าง ๆ บนใบหน้า โดยจะช่วยฟื้นฟูผิวให้หมองคล้ำน้อยลง ดูอิ่มเอม
ช่วยทำให้ผิวดูขาวกระจ่างใสอย่างสม่ำเสมอ และช่วยลดปัญหาฝ้าบนใบหน้า
ช่วยผลัดเซลล์ผิวเก่าทำให้เม็ดสีฟ้าลดลง ช่วยกระตุ้นคอลลาเจนในชั้นผิวทำให้ผิวแข็งแรงมากขึ้น
ช่วยรักษาผิวที่มีปัญหาฝ้าและกระให้ลดลงโดยตรง
ช่วยลดรอยสิว กระ และริ้วรอยต่าง ๆ บนใบหน้า และช่วยแก้ปัญหาผิวแห้งให้ชุ่มชื้นมากขึ้น
ช่วยบำรุงผิวให้ดูขาวกระจ่างใสอย่างล้ำลึก และช่วยลดฝ้าให้ดูจางลง
เพื่อให้ผลลัพธ์ของการฉีดเมโสหน้าใสเป็นไปได้อย่างมีประสิทธิภาพและคงอยู่ได้นาน หลังจากเข้ารับการรักษาเมโสหน้าใสแล้วควรดูแลตนเอง ดังนี้
อยากฉีดเมโสแต่ไม่รู้จะทำเมโสหน้าใสที่ไหนดี? สิ่งที่ควรทราบก่อนทำเมโสหน้าใส คือ การศึกษาหาข้อมูลเกี่ยวกับสถานเข้ารับการรักษา โดยจะต้องมั่นใจว่าในที่เข้ารับการรักษาจะต้องได้รับมาตรฐานอย่างดี มีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเป็นผู้รักษา มีเจ้าหน้าที่ที่คอยให้บริการให้ความรู้และแนะนำเกี่ยวกับการฉีดเมโสหน้าใสอย่างละเอียด เพื่อให้มั่นใจว่าผู้เข้ารับการรักษาจะได้ฉีดเมโสของแท้ปลอดภัยต่อผิวหน้า
ซึ่งรมย์รวินท์คลินิกคือหนึ่งในคลินิกเสริมความงามให้กับร่างกายอย่างครบวงจร โดยมีแพทย์หญิงฐานิสร ธรรมลิขิตกุล ผู้มีประสบการณ์เชี่ยวชาญทางด้านโรคผิวหนังเป็นผู้คอยดำเนินการ และยังมีแพทย์ท่านอื่น ๆ ที่มีความชำนาญเป็นผู้ดูแลรักษาโดยตรง
อีกทั้งทางคลินิกมีใบอนุญาตที่สามารถตรวจสอบได้อย่างชัดเจน และก่อนฉีดเมโสก็สามารถขอตรวจสอบก่อนฉีดได้ทุกครั้ง จึงทำให้มั่นใจได้ว่าการทำเมโสหน้าใสนั้นจะประสบความสำเร็จได้อย่างปลอดภัย และได้ผลอย่างดีเยี่ยม
สำหรับผู้ที่สนใจให้ทางรมย์รวินท์คลินิกดูแลผิวของคุณให้เรียบเนียนกลับมาดูเยาว์วัยเช่นเด็กได้อีกครั้งสามารถติดต่อได้ทางช่องทาง
วิธีที่สามารถแยกเมโสหน้าใสของแท้กับเมโสหน้าใสของปลอมได้ง่าย ๆ คือ เมโสที่สามารถซื้อขายตามตลาดได้ง่ายส่วนใหญ่มักจะเป็นของปลอม เนื่องจากยาที่ขายมักจะไม่ผ่านการรองรับจากอย. และไม่สามารถตรวจสอบแหล่งผลิตได้อย่างชัดเจน และเนื่องด้วยกฏหมายยา เมโสหน้าใสของแท้ที่ได้รับการรองรับจากอย.จะถูกขายให้กับทางแพทย์เท่านั้น
อย่างไรก็ตามมักจะมีคนที่เลือกซื้อเมโสหน้าใสผ่านทางอินเตอร์เน็ตเพราะคิดว่าราคาไม่แพงและถูกกว่าการฉีดที่คลินิก แต่เชื่อว่าหลายคนยังไม่ทราบว่าเมโสหน้าใสของปลอมมักมีส่วนผสมของสเตียรอยด์อยู่ แม้ว่าในช่วงแรกจะเห็นผลลัพธ์ได้เร็วมาก แต่เมื่อใช้สักระยะจะทำให้ผิวบาง เกิดฝ้า ริ้วรอย และมีความเสี่ยงก่อให้เกิดมะเร็งได้
ดังนั้นถึงแม้ว่าจะอยากฉีดหน้าใส แต่ก็ไม่ควรสั่งซื้อเมโสหน้าใสตามอินเตอร์เน็ตมาฉีดเอง และที่สำคัญเพื่อที่จะหลีกเลี่ยงไม่ให้เผลอฉีดเมโสหน้าใสของปลอมจึงควรเข้ารับการรักษากับทางคลินิกที่มีมาตรฐานรองรับ และฉีดหน้าใสกับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อให้ผู้เข้ารับการรักษาสามารถฉีดเมโสหน้าใสได้อย่างปลอดภัย
เมโสหน้าใสกี่ครั้งเห็นผล? ผลลัพธ์จากการฉีดเมโสหน้าใสจะขึ้นอยู่กับสภาพร่างกายของผู้รักษา โดยส่วนมากเมโสหน้าใสเริ่มเห็นผลตั้งแต่ครั้งแรกหลังจากฉีด 3 วัน แต่จะเห็นผลเต็มที่ในช่วง 7-14 วัน แต่เพื่อให้ผลจากการฉีดหน้าใสคงอยู่เรื่อย ๆ จึงควรเข้ารับการฉีดบ่อย ๆ
โดยปกติแล้วหลังฉีดเมโสหน้าใส ผลลัพธ์จะคงอยู่ที่ราว 1-2 เดือนและจะค่อย ๆ สลายหายไปเอง แต่ถ้าทำเมโสอย่างสม่ำเสมอผลจากการฉีดหน้าใสก็จะอยู่ได้นานมากขึ้น
ฉีดเมโสหน้าใสสามารถช่วยทั้งเรื่องความมันบนใบหน้ารวมถึงรูขุมขนกว้างได้ เนื่องจากการฉีดเมโสจะช่วยให้ต่อมไขมันที่คอยทำหน้าที่รักษาความชุ่มชื้นให้กับใบหน้าทำงานน้อยลง และจะทำให้ความมันบนใบหน้าลดลง แล้วยังทำให้รูขุมขนบนใบหน้าค่อย ๆ กระชับเล็กมากขึ้นด้วย
เมโสหน้าใสสามารถรักษาฝ้าได้จริง แต่การฉีดเมโสฝ้านั้นไม่ได้เป็นการฉีดเพื่อกำจัดฝ้าอย่างถาวร เพราะการทำเมโสเป็นเพียงแค่การฉีดเพื่อควบคุมและชะลอการทำงานของเม็ดสีให้ฝ้ากระจายตัวน้อยลงเท่านั้น โดยจะฉีดเข้าไปในชั้นผิวโดยตรงเพื่อให้ตัวยาสามารถซึมเข้าผิวได้ทันที การฉีดหน้าใสจะทำให้ฝ้ากระจายตัวช้าลงราว 20-50% นับว่าเป็นการรักษาที่เห็นผลได้เร็วกว่าการทาครีม
เมโสหน้าใสแบบทาสามารถรักษาปัญหาผิวหนังบนใบหน้าได้เช่นเดียวกับกับเมโสหน้าใสแบบฉีด แต่ตัวเมโสที่ใช้ทาก็จะมีรูปแบบเป็นเซรั่มหรือครีมบำรุงผิวซึ่งจะต้องใช้เวลารอให้เนื้อครีมซึมซับเข้าไปในชั้นผิว ซึ่งกว่าจะเห็นผลลัพธ์ก็จะช้ากว่าการทำเมโส อีกทั้งยังมีประสิทธิภาพต่างจากการทำเมโสหน้าใสเพราะการฉีดเมโสจะฉีดเข้าไปในผิวโดยตรง
ขอบคุณอ้างอิงจาก : https://www.saiwink.com/mesotherapy/
บทความนี้เกิดจากการเขียนและส่งขึ้นมาสู่ระบบแบบอัตโนมัติ สมาคมฯไม่รับผิดชอบต่อบทความหรือข้อความใดๆ ทั้งสิ้น เพราะไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นความจริงหรือไม่ ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรอง และหากท่านพบเห็นข้อความใดที่ขัดต่อกฎหมายและศีลธรรม หรือทำให้เกิดความเสียหาย หรือละเมิดสิทธิใดๆ กรุณาแจ้งมาที่ ht.ro.apt@ecivres-bew เพื่อทีมงานจะได้ดำเนินการลบออกจากระบบในทันที
