ระบบประกันคุณภาพการศึกษา เป็นกระบวนการที่สถาบันการศึกษาทุกสถาบันตั้งแต่ระดับอนุบาลที่ถูกควบคุมโดยสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน หรือ สพฐ. จนกระทั่งระดับอุดมศึกษาที่ถูกควบคุมโดยสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา หรือ สกอ. จะต้องตระหนักและใส่ใจมากเป็นพิเศษ เพราะนั่นคือเป็นกระบวนการจัดการศึกษาที่ให้ความมั่นใจกับผู้ปกครอง นักเรียน นักศึกษา ซึ่งถือว่าเป็นผู้ที่มีส่วนได้ส่วนเสียภายใน หรือPrimary Stakeholder และ องค์การ หน่วยงานที่รับผู้ที่สำเร็จการศึกษาเข้าไปทำงาน หรือSecondary Stakeholder มีความพึงพอใจกับคุณภาพของการทำงาน ว่ามีคุณลักษณะอันพึงประสงค์ ตามที่ องค์การ หรือ หน่วยงานต้องการ
ดังนั้น การดำเนินการการประกันคุณภาพการศึกษา จึงมีความจำเป็นพอ ๆ กับการเรียนการสอน เพราะอย่างน้อยที่สุด ถ้าผู้เรียนไม่มีคุณภาพตรงกับความต้องการของ องค์การหรือหน่วยงานที่รับผู้สำเร็จการศึกษาเข้าไปทำงาน จะเกิดผลเสียในเรื่องของชื่อเสียงตามมา ยิ่งถ้าเป็นสถานศึกษาเอกชนด้วยแล้ว จะส่งผลเสียในส่วนของผลกำไรที่ได้จากการดำเนินการ เพราะถ้าหาก ผู้ที่เรียนจบมาจากสถานศึกษานี้แล้วไม่มีความรับผิดชอบในการทำงาน ทำงานตามที่มอบหมายได้ไม่ตรงกับที่ องค์การ หรือ หน่วยงาน คาดหวัง จะเกิดคำถามว่า เรียนจบมาจากที่ไหน ในที่สุดจะส่งผลกับจำนวนผู้ที่สมัครเข้าเรียนในสถาบันการศึกษานี้
ตั้งแต่ พ.ศ. 2540 เป็นต้นมารัฐธรรมนูญฉบับนี้มาตราที่ 81 เกี่ยวกับการศึกษาแห่งชาติ ได้ให้ความสำคัญกับการศึกษามากเพราะจะต้องให้มีอย่างทั่วถึงและมีคุณภาพเท่าเทียมกัน
นับตั้งแต่นั้น จึงมีหน่วยงานที่เรียกว่า สำนักงานรับรองมาตรฐานและประเมินคุณภาพการศึกษา หรือ สมศ.ขึ้น เพื่อเป็นหน่วยงานที่คอยตรวจติดตาม ประเมินผล สถาบันการศึกษาว่าจะต้องมีหลักการบริหารจัดการตามข้อกำหนด และตัวบ่งชี้ที่เป็นมาตรฐานเดียวกันทั่วประเทศ ซึ่งแต่ละระดับการศึกษา จะมีแตกต่างกันออกไป ทั้งนี้เพื่อให้สถาบันการศึกษาทุกสถาบันมีการดำเนินตามที่กำหนดครบวงจร ซึ่งจะต้องมีการวางแผน การทำงาน การตรวจสอบ และการดำเนินการแก้ไขตามสิ่งที่พบเป็นวงจร หรือกระบวนการ P D C A ของดร. ชิวฮาร์ตซึ่ง
ดร.เอดเวริ์ด เดมมิ่ง นำมาใช้อย่างแพร่หลาย จนเรียกติดปากว่า วงจรคุณภาพของเดมมิ่ง นั่นเอง
นับตั้งแต่มีการอนุญาตให้เอกชน หรือคณะบุคคลสามารถจัดตั้งสถาบันการศึกษาขึ้นมาเองได้ จะเห็นว่ามีการรับสมัครผู้ที่สนใจจะเข้าเรียน มาเรียนได้โดยไม่ต้องสอบคัดเลือก และส่วนใหญ่จะเป็นผู้ที่ไม่สามารถผ่านการคัดเลือกจากสถาบันการศึกษาของรัฐ เพราะมีพื้นความรู้ไม่ดีพอเมื่อเป็นเช่นนี้เป็นหน้าที่อันสำคัญของครู อาจารย์ผู้สอนในสถาบันการศึกษาของเอกชน จะต้องฝึกฝน สร้างและคิดกระบวนการเรียนรู้เพื่อที่จะเสริมพื้นฐานความรู้ของผู้เรียนให้แน่น และถ่ายทอดองค์ความรู้ที่เป็นประโยชน์แก่ผู้เรียน ให้มากขึ้น ตลอดจนดำเนินการตามมาตรฐานและตัวบ่งชี้ของสำนักงานรับรองมาตรฐานและประเมินคุณภาพการศึกษา หรือ สมศ.กำหนดขึ้นอย่างเคร่งครัด
ฉะนั้น การที่สถาบันการศึกษาใดที่มีรับรองมาตรฐานการบริหารจัดการ ISO 9001 : 2000 ด้วยจะต้องปรับแผนการทำงานให้เป็นไปในทิศทางเดียวกันเพื่อลดภาระการทำงานของบุคลากร ดังนั้นจึงจะต้องมีการปรับกระบวนการทำงาน ของ8 ข้อกำหนดของ ISO 9001 : 2000 และมาตรฐานกับตัวบ่งชี้ของ สมศ.
แต่บุคลากรเองจะต้องเข้าใจและให้ความร่วมมือกันด้วยเป็นอย่างดี ส่วนใหญ่จะพบบุคคลากรที่มีอายุการทำงานมากต่อต้านการเปลี่ยนแปลง ไม่ทำงานตามกระบวนการหลีกเลี่ยง ผลักภาระงาน สุดท้ายผู้บริหารระดับสูงนั่นละจะต้องมีอำนาจให้คุณให้โทษ อย่างเด็ดขาด และลงมาบริหารจัดการเอง เป็นดีที่สุด
บทความนี้เกิดจากการเขียนและส่งขึ้นมาสู่ระบบแบบอัตโนมัติ สมาคมฯไม่รับผิดชอบต่อบทความหรือข้อความใดๆ ทั้งสิ้น เพราะไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นความจริงหรือไม่ ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรอง และหากท่านพบเห็นข้อความใดที่ขัดต่อกฎหมายและศีลธรรม หรือทำให้เกิดความเสียหาย หรือละเมิดสิทธิใดๆ กรุณาแจ้งมาที่ ht.ro.apt@ecivres-bew เพื่อทีมงานจะได้ดำเนินการลบออกจากระบบในทันที