ตอนที่ 64
วันที่ 18
ภาคปฏิบัติของการบริหารงาน (Practical Management)(3)
(Case Study -7)
1. OB Analysis Model
เปรียบเสมือนเครื่องมือทางปัญญาชิ้นหนึ่ง
..ที่ใช้สำหรับช่วยให้ผู้บริหาร
ได้วิเคราะห์ ประเมินบุคลากรขององค์การ
..ว่าพร้อมที่จะต่อสู้ไปกับ
..การดำเนินธุรกิจ / การทำงานให้กับองค์การ
.ได้อย่างมีประสิทธิภาพหรือไม่ / อย่างไร ?.........ผู้บริหารจำเป็นต้องวางแผนการบริหารงานเชิงกลยุทธ์ทางด้านการวิเคราะห์
พฤติกรรมองค์การหรือ organizational behavior analysis เพื่อให้เป็นกลจักรสำคัญที่สุดขององค์การเดินไปได้ตาม
แผนที่กลยุทธ์ทุกประการ
ความสำเร็จขององค์การจะเกิดขึ้นได้ก็ต้องให้บุคลากรขององค์การหรือผู้ปฏิบัติงานจริงๆ
.เป็นกลจักรขับเคลื่อนแผนการทำงานโดย
.มีผู้บริหารองค์การเป็นผู้ควบคุมอย่างตั้งใจ / ใกล้ชิด / ให้ความเข้าใจและไว้ใจทีมงาน ตามสายบังคับบัญชาพร้อมทั้ง สร้างขวัญกำลังใจให้แก่
..เจ้าหน้าที่ทุกคนในองค์การ
..ย่อมทำให้องค์การได้รับความสำเร็จตามวัตถุประสงค์ได้อย่างแน่นอน
ผู้นำ / ผู้บริหาร / ผู้จัดการ
ขององค์การจะต้องเปิดโอกาสให้บุคลากรภายในสามารถแสดงออกซึ่งความเห็นที่เป็นประโยชน์ต่อองค์การอย่างใจกว้าง
.สร้างสรรค์...พร้อมให้มีการเสริมทักษะให้แก่บุคากรตามสายงานอย่าง
เต็มใจ / ใส่ใจ
ในคุณภาพความเป็นอยู่ ของ
การทำงาน / การดำเนินชีวิตประจำวัน
..อย่างรู้เท่าทันเหตุการณ์ที่มีการเปลี่ยนแปลงของ
สังคม / เทคโนโลยี
อย่างรวดเร็วในขณะนี้
การสร้างบรรยากาศที่ดี เสริมสร้างจริยธรรมและความเป็นธรรมของสังคมภายในองค์การก็ย่อมส่งผลให้พฤติกรรมขององค์การเปลี่ยนแปลงได้เช่นกัน
.กับทั้งมีอิทธิพลต่อแนวนโยบายหลักขององค์การเป็นอย่างมาก
และเพื่อให้เข้าใจในพฤติกรรมขององค์การเบื้องต้น
แบ่งเป็นกลุ่มในการวิเคราะห์ไว้เป็น 2 กลุ่มคือ
.1. การศึกษาและวิเคราะห์ พฤติกรรมส่วนบุคคล (Personal Behavior)
. 2. การศึกษาและวิเคราะห์ พฤติกรรมการรวมกลุ่ม (Social Behavior)
ดังแสดงตามรูปด้านล่างนี้
ผู้บริหารองค์การที่มีวิสัยทัศน์ด้านบุคคลากรเป็นเลิศย่อมมองเห็นว่า
..การบริหารทรัพยากรมนุษย์เป็นสิ่งจำเป็นและสำคัญมาก
..ตนเองต้องเป็นผู้กำหนดนโยบาย
.ความล้าสมัยของความคิดย่อมทำให้ท่านเองต้อง
..ถูกปัญหาของมนุษย์ รุมเล้า
.เป็นการสิ้นเปลืองสมองโดยใช่เหตุ !......ท่านต้องตั้งคำถามและหาคำตอบในทุกๆวันที่ทำงาน
.เมื่อ
เข้าบริษัท / เข้าโรงงาน / หรือทุกๆที่ของหน่วยงานขององค์การ
..จำเป็นหรือไม่ที่ต้องให้พนักงานขององค์การ
.บริหารงานด้วยความขัดแย้งเพื่อหวังเพียงการตรวจสอบ !
..จำเป็นหรือไม่ที่ต้องให้มีการแบ่งพักแบ่งพวกกันในองค์การ เพียงเพื่อป้องกันการรั่วไหล !
..และจำเป็นหรือไม่ที่ต้องแบ่งความอาวุโสตามหน้าที่และตำแหน่งงาน !
..มีเพดานของแต่ละหน้าที่และตำแหน่งงานอยู่ ณ จุดใด!
.สังคมในองค์การย่อมรับหรือไม่ !......จากรูปด้านบนสามารถตอบข้อสงสัยต่างๆเหล่านี้ได้
..เมื่อเราเข้าใจพฤติกรรมของบุคลากรในองค์การพร้อมๆกับเข้าใจความสัมพันธ์ระหว่างบุคคลภายในองค์การ
..เราก็ย่อมสามารถเข้าใจการอยู่ร่วมกันเป็นกลุ่มขององค์การได้
..และลงลึกไปถึงการทำความเข้าใจความสัมพันธ์และพฤติกรรมของกลุ่มภายในองค์การได้อย่างไม่ยากนัก
..มีการพัฒนาความสัมพันธ์ระหว่างพฤติกรรมกลุ่มให้เป็นพฤติกรรมของสังคมที่ดีขององค์การ
.และในขั้นสุดท้ายผู้บริหารองค์การต้องวิเคราะห์ความสัมพันธ์ทั้งหมดให้เป็น
.พฤติกรรมขององค์การในที่สุด
..
2. จุดประสงค์หลักของการทำความเข้าใจ
. organizational behavior
.เพื่อให้เกิดผลโดยตรงกับระบบการจัดการ และการบริหารองค์การ พอสรุปได้ดังนี้
1. เพื่อความเข้าใจบุคคลากรขององค์การอย่างลึกซึ้งในด้านความแตกต่างของเชื้อชาติ สังคม และวัฒนธรรม
.2. เพื่อให้เข้าใจถึงความต้องการทางปัจจัย 4 ของบุคลากรภายใน ทำให้เกิดความเต็มใจ สบายใจ และเกิดความมั่นคงในการประกอบอาชีพ
..3. เพื่อการเรียนรู้ พัฒนา ฝึกฝน สร้างทักษะและตั้งกฎ / ระเบียบ / วินัย ให้กับสังคมองค์การ
..4. สร้างทางเลือก ให้มีการพัฒนาผลผลิต และลดต้นทุนในการจัดการ / การบริหารงาน / การผลิต
.5. มีแรงกระตุ้น และผลักดัน ให้องค์การเดินไปได้อย่างมั่นคง ด้วยความแข็งแรงของบุคลากรภายในองค์การ ด้วยการนำพาของผู้นำที่ชาญฉลาด และด้วยความเต็มใจในการเป็นผู้ตามที่ดีของบุคลากรภายในที่พร้อมใจร่วมกันพัฒนาองค์การ
.6. การสร้างแรงจูงใจเพื่อให้เกิดแรงกระตุ้นในการสร้างผลงาน และปรับปรุงกระบวนการภายในทั้งหมด ให้เท่าทันเหตุการณ์ของการเปลี่ยนแปลงของโลก
..7. เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าในทุกๆด้านไม่ว่าจะเป็นด้านคุณภาพ ราคา ความสะดวกสบายในการใช้สอย และการปรับปรุงให้ตรงตามความต้องการและสมัยนิยมของตลาด
..8. การปรับปรุงเพื่อให้องค์การอยู่รอดในภาวะของตลาดที่ฝืดเคือง ตกต่ำ และขาดกำลังซื้อ
.แต่สามารถพยุงสถานการณ์และรักษาลูกค้าไว้ได้
.โดยเดินงานตามแผนที่กลยุทธ์ขององค์การ
3. Organizational Behavior
.ต้องเข้าใจหลัก 4 ข้อ
.คือ 1. เข้าใจพฤติกรรมของบุคลากรในองค์การเป็นข้อสำคัญที่สุด
จนนำมาแปรเปลี่ยนและประเมิน ความสามารถ / ศักยภาพ เป็นรายบุคคลได้
2. เมื่อเข้าใจพฤติกรรมรายบุคคลได้แล้วต้องสื่อสารกับ เขาให้เข้าใจทั้ง
เขา / เรา / หลักขององค์การ
.และระวังความสารถในการสื่อสาร อาจต้องใช้ผู้ช่วยสื่อสาร ก็จะทำให้เกิดความนุ่มนวลเข้าใจ
.ได้ดีขึ้น / ง่ายขึ้น / รวดเร็วและเต็มใจในการรับฟังและพร้อมที่จะนำไปปฏิบัติ
.3. หน้าที่หลักของผู้บริหารที่ต้องเข้าใจหลักพฤติกรรมของบุคคลขององค์การคือ
.ต้องประเมินสถานการณ์ ผลลัพธ์ที่ได้จากแผนการทำงานขององค์การ
ตามสภาพแวดล้อมของการทำงาน
.หมั่นฝึกฝนตนเองและสร้างแผนอบรมพนักงานทุกระดับชั้น
.มีการปรับระบบ / ระเบียบ / แผนการบริหารงาน
.ตามแผนกลยุทธ์ของพฤติกรรมกลุ่ม
4. นำผลของการทำงานตามพฤติกรรมกลุ่มมาสรุปเป็น
หลักปฏิบัติของพฤติกรรมขององค์การ
Personal Behavior 1. ต้องเข้าใจ อุปนิสัย ใจคอ สังคมความเป็นอยู่ ความต้องการในปัจจัย 4 ของแต่ละคนแต่ละครอบครัว พื้นฐานความรู้ รวมถึงประเพณีท้องถิ่นของคน ลงลึกถึงจิตสำนึกของบุคลา กรขององค์การ 2. นำข้อมูล มากำหนดข้อมูล การบริหาร กำหนดผลตอบแทนและสร้างแรงจูงใจ Group Behavior & Relationship 1. ผู้บริหาร แสดงความเป็นผู้นำที่มีวิสัยทัศน์เพื่อสร้างความ สัมพันธ์ระหว่างบุคคลในองค์ การ สื่อให้รู้ถึง ความเป็นอยู่ภายในกลุ่ม และต้องเป็นผู้ประสาน ผลประโยชน์ที่ดีต่อกัน 2. ต้องปกป้อง ผลกระทบใดๆจากภายนอก ที่อาจส่งผลต่อบุคลากร Social Behavior Organizational Behavior 1. สร้างเป็นวัฒนธรรมองค์การ จัดให้มีการแสดงออก และให้เกิดความหลากหลาย ทางพฤติกรรมองค์การก่อนสรุปเป็นกฎระเบียบ 2. จัดการบริหารตามโครงสร้างของวัฒนธรรมองค์การ พร้อมกับการเปลี่ยนแปลงของสมัยนิยมและการตลาดไร้พรมแดน เสริมสร้างความรู้และพัฒนาอย่างต่อเนื่อง มีการปรับเปลี่ยนตามความเหมาะสม
รูปด้านบนนี้
แสดงกรอบของพฤติกรรมองค์การที่ครอบคลุมทุกๆตำแหน่งหน้าที่ ของทุกๆแผนกขององค์การ
..ผู้บริหารที่มองเห็นว่าไม่มีอะไรที่จะสำคัญยิ่งไปกว่าการยอมรับและเปิดโอกาสให้บุคลากรมีโอกาสแสดงออกซึ่งความคิด
.และมีส่วนร่วมในการบริหารองค์การ ย่อมทำให้ประสบความสำเร็จในการบริหารไปกว่าครึ่งแล้ว !
/////////////////////////////////////////
7/3/2553
บทความนี้เกิดจากการเขียนและส่งขึ้นมาสู่ระบบแบบอัตโนมัติ สมาคมฯไม่รับผิดชอบต่อบทความหรือข้อความใดๆ ทั้งสิ้น เพราะไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นความจริงหรือไม่ ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรอง และหากท่านพบเห็นข้อความใดที่ขัดต่อกฎหมายและศีลธรรม หรือทำให้เกิดความเสียหาย หรือละเมิดสิทธิใดๆ กรุณาแจ้งมาที่ ht.ro.apt@ecivres-bew เพื่อทีมงานจะได้ดำเนินการลบออกจากระบบในทันที