ช่วงต่อของกาลเวลา เพื่อค้นหาชีวิตที่ Slow Life
ถ้าคนเราสามารถหมุนเข็มนาฬิกาบนหน้าปัดข้อมือ แล้วสามารถย้อนเวลากลับไปหาอดีตได้ ....ลองดูว่าภาพในช่วงไหนของชีวิต ที่ฉายขึ้นมาเป็นภาพแรกในความทรงจำ
ภาพความทรงจำในอดีตมันถูกฝังอยู่ในส่วนลึกของจิตใต้สำนึกที่ไม่เคยลืมเลือน และส่งผลสะท้อนต่อความเป็นอยู่ในปัจจุบัน
ภาพในอดีตของฉัน เป็นภาพของแสงตะวันที่สาดส่องเข้ามาในยามบ่ายทางทิศตะวันตกที่ตะวันเริ่มลาลับขอบฟ้า เด็กผู้หญิงคนหนึ่งนั่งเดียวดายกับกองหนังสือเรียนชั้นมัธยมศึกษาตอนปลายที่วางเรียงรายบนโต๊ะรีดผ้า ซึ่งถูกดัดแปลงเป็นโต๊ะทำงานที่พร้อมจะพับเก็บและเคลื่อนย้ายไปที่ใดก็ได้ ใจของเด็กผู้หญิงจดจ่อกับบทเรียนที่ต้องทบทวนในช่วงอาทิตย์ที่ผ่านมา บนโต๊ะรีดผ้ามีเพียงหนังสือ และเสียงเพลงคลอเบาๆเพื่อสร้างความผ่อนคลาย ไร้ซึ่งโทรศัพท์มือถือที่ต้องติดตามข่าวสารตลอดเวลา ไร้ซึ่งเสียงเตือนเวลามีข่าวสารหรือความเคลื่อนไหวในโลกสังคมออนไลน์ มีเพียงใจที่จดจ่ออยู่กับตัวหนังสือ และหูที่รับเสียงเพลงบรรเลงที่ช่วยจัดระเรียบความคิดในสมองให้เรียบง่ายไม่วุ่นวายเหมือนกับการจราจรบนท้องถนนในเมือง แต่เป็นระเบียบของความคิดที่โลดแล่นบนท้องถนนนอกเมืองที่มีจุดหมายเพื่อการไปผ่อนคลาย ณ ชายหาดที่มีเพียงเสียงของสายลม นกร้อง และเสียงคลื่นกระทบฝั่ง
ความสุขของภาพในอดีตที่เมื่อย้อนเวลากลับไป ค่อยเลือนหายออกจากความทรงจำราวกับความมืดค่อยๆจางหายไป เมื่อแสงตะวันเข้ามาเยี่ยมเยียนในบรรยากาศยามเช้า ที่ ณ เวลานี้บนโต๊ะทำงานของฉันที่ไม่ได้มีเพียงโต๊ะ หนังสือ และเสียงเพลง แต่เพียบพร้อมไปด้วย หน้าจอโทรทัศน์ 40 นิ้ว ที่สามารถเลือกดูได้เป็นร้อยช่องอยู่ตรงหน้า โทรศัพท์มือถือสองเครื่องที่พร้อมรับการเคลื่อนไหวบนโลกสังคมออนไลน์ โน๊ตบุ๊คที่ต้องไม่ต้องเขียนเพียงแค่ใช้ปลายนิ้วสัมผัส สิ่งแวดล้อมยามนี้ยังแตกต่างจากอดีตราวกับหน้ามือเป็นหลังมือ และทำให้ฉันนึกถึงสิ่งหนึ่งขึ้นมา สิ่งนั้น เรียกว่า 'ชีวิต Slow Life'
ชีวิต Slow Life ในอดีตช่างแตกต่างกับปัจจุบันอย่างสิิ้นเชิง อาจจะเป็นเพราะฉันเกิดมา ในช่วงรอยต่อของเวลาในอดีตและปัจจุบัน ที่เด็กที่เกิดมาในยุคนี้ไม่มีโอกาสสัมผัสกับเหตุการณ์และช่วงเวลาในอดีต เวลาในปัจจุบันเริ่มถอยห่างจากชีวิต Slow life ไปเรื่อยๆ ไม่เว้นแม้แต่เด็กที่เรียนตั้งแต่เช้าจรดค่ำ แถมวันเสาร์อาทิตย์ยังต้องไปเรียนพิเศษ คนทำงานที่ต้องรีบตื่นแต่เช้า เพื่อแข่งขันกันไปถึงจุดหมายปลายทางให้ทันเวลา วัยรุ่นที่ต้องการคำตอบเร็วๆ โดยไม่รู้จักการรอคอย หรือวัยรุ่นที่อยู่กันก่อนแต่งงานแล้วค่อยตัดสินใจว่าจะรักหรือจะเลิก และอีกหลายๆอย่างที่รูปแบบความเป็นอยู่เฉกเช่นอดีตได้เลือนลางหายไปจากชีวิตความเป็นอยู่ในปัจจุบัน
มีคำถามอยู่ว่าจะใช้ชีวิตอย่างไรให้ Slow Life ท่ามกลางความเร่งรีบและร้อนรนในปัจุบัน ที่อะไรๆก็เหมือนกับอาหารฟาดฟู้ด แต่ชีวิตของ Slow Life ไม่ได้ยากอย่างที่คิด พระพุทธทาสบอกว่า "ชีวิตไม่ได้เกิดมาเพื่อเป็นทุกข์ เพราะฉะนั้นอย่าเป็นทุกข์ให้โง่"
เด็กคนหนึ่งบอกพ่อว่าให้ขับรถดีๆหน่อย เพราะเขารู้สึกว่าตัวเองกระดกขึ้นลงตามจังหวะของพื้นถนนที่เป็นหลุมเป็นบ่อ คนเป็นพ่อจึงบอกว่า ' ลูกไม่สามารถห้ามถนนไม่ให้เป็นหลุมเป็นบ่อได้ แต่ลูกสามารถห้ามใจตนเองไม่ให้ร้อนรน ตามสภาพของหลุมและบ่อที่เป็นได้'
ดังนั้นไม่ว่าสภาพแวดล้อมจะเป็นอย่างไร เปลี่ยนไปขนาดไหน แต่ใจที่สงบนิ่งไม่วุ่นวาย จะสามารถนำพาชีวิตไปสู่สิ่งที่อยากจะเป็น คือ ชีวิต Slow Life by your heart
ชีวิต slow life คือ ชีวิตที่ใจไม่ร้อนรน -khwanjai-
บทความนี้เกิดจากการเขียนและส่งขึ้นมาสู่ระบบแบบอัตโนมัติ สมาคมฯไม่รับผิดชอบต่อบทความหรือข้อความใดๆ ทั้งสิ้น เพราะไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นความจริงหรือไม่ ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรอง และหากท่านพบเห็นข้อความใดที่ขัดต่อกฎหมายและศีลธรรม หรือทำให้เกิดความเสียหาย หรือละเมิดสิทธิใดๆ กรุณาแจ้งมาที่ ht.ro.apt@ecivres-bew เพื่อทีมงานจะได้ดำเนินการลบออกจากระบบในทันที