Fight for your dreams or Fight for your success
มีสองคำถามที่เกิดขึ้นในใจแต่ละช่วงวัน หลังจากที่หมดสิ้นภาระงานในช่วงเวลายามเย็นที่แสงอาทิตย์เริ่มอัสดงลาลับขอบฟ้า
"เราทำไปเพื่ออะไร?"
"เราทำเพื่อความฝันหรือเพื่อความสำเร็จ"
ในอดีตเวลาเรียนคณิตศาสตร์ เรื่องหนึ่งที่เด็กนักเรียนได้เรียนกันคือ 'สมการ' ข้อมูลด้านซ้ายต้องเท่ากับข้อมูลด้านขวา เช่น 2+1= 3 ทำให้ฉันย้อนนึกถึงสมการของความฝันและความสำเร็จคืออะไร
ความสำเร็จ = สิ่งที่ทำแล้วเสร็จหรือเปล่า
ความฝัน = สิ่งที่ทำแล้วยังไม่เสร็จหรือเปล่า
ฉันลองคิดตั้งสมการในใจ ว่าความสำเร็จในชีวิตคือการทำสิ่งไหน แล้วสมการของความฝันคืออะไร ในที่สุดก็ได้คำตอบ
ความสำเร็จ = การบรรลุเป้าหมายในการทำงานที่เราทำอยู่ โดยต้องทุ่มเทความคิด เวลา และแรงกาย แรงใจ ในการทำงาน
ความฝัน = การทุ่มเทจิตวิญญาณในการ กระทำ ที่เราจะทำโดยผ่านความเชื่อที่มีอยู่ว่า จะต้องสำเร็จให้ได้ในวันใดหนึ่ง
อาจจะมีสูตรของความสำเร็จที่แน่นอนว่าต้องทำแบบไหนถึงจึงจะสำเร็จ แต่ไม่มีสูตรสำหรับการทำความฝันให้สำเร็จ
สูตรวัดความสำเร็จของความฝัน มันวัดกันที่ใจล้วนๆ ใจที่สู้ ไม่ว่าจะพ่ายแพ้สักกี่ครั้ง ขอแค่สำเร็จครั้งเดียวก็พอ
ชีวิตต้องการสิ่งที่มาเติมเต็มความสมบูรณ์ ฉันลองนั่งถามใจตัวเองว่าสิ่งที่มาเติมเต็มความสมบูรณ์ในชีวิต คือ ความฝันที่ได้ทำให้เป็นจริงหรือความสำเร็จที่มาพร้อมกับเงินทอง เราจะมีความสุขกับความฝันที่ทำขึ้นเอง หรือความสำเร็จที่คนหยิบยื่นมาให้
เป็นไปได้มั้ยที่เราจะสามารถประสบความสำเร็จในชีวิต พร้อมกับความฝันที่ได้ทำให้เป็นจริง โดยไม่เป็นเส้นทางที่คู่ขนาน แต่เป็นเส้นทางที่มาบรรจบกันในวันใดวันหนึ่ง ดังนั้น ข้อมูลของสมการทั้ง 2 ด้าน สามารถรวมกันได้ ดังนี้
ความสำเร็จของงาน + ความสำเร็จของความฝัน =
การทุ่มเทเวลา ความคิดในการทำงาน + การทุ่มเทจิตวิญญาณในการทำความฝันในเป็นจริง
เป็นไปได้มั้ยที่ความสำเร็จของงานแปรผันโดยตรงกับ ความสำเร็จของความฝัน คำตอบนี้เป็นไปได้สูงมาก โดยของอ้างคำพูดของคุณบัณฑิต อึ้งรังษี ที่เคยพูดไว้ในหนังสือเสียงว่า "คุณต้องทำให้ท้องคุณอิ่มก่อน ท้องอิ่มหมายถึง มีเงินมีทองพอใช้ก่อน ไม่ต้องดิ้นรนหาเงิน เพราะการดิ้นรนหาเงิน จะทำให้สมองคุณไม่มีเวลาทำความฝันให้สำเร็จ เมื่อใดก็ตามเมื่อท้องคุณอิ่มแล้ว คุณสามารถที่จะทำตามความฝันของคุณได้อย่างเต็มที่"
ดังนั้น ความสำเร็จของงานแปรผันโดยตรงกับความสำเร็จของความฝัน ยิ่งมีความสำเร็จในงานมากเท่าไหร่ โอกาสที่จะทำความฝันให้สำเร็จยิ่งมีมากเท่านั้น การเติมเต็มความสำเร็จในงานมากเท่าไหร่ ก็สามารถเติมเต็มความสำเร็จของความฝันได้มากเท่านั้น เพราะไม่มีอะไรได้มาง่ายๆ สำหรับการต่อสู้เพื่อความสำเร็จและความฝัน แต่มันเป็นสายนำ้สองสายที่ไหลออกจากเส้นทางสายหลักทั้งคู่ ถ้าเส้นทางน้ำเส้นใหญ่ไหลแรงและเร็วเปรียบเหมือนงานที่ต้องทำให้สำเร็จ เส้นทางน้ำสายรองก็จะแรงตามไปด้วย และจะมาบรรจบกันในไม่ช้า ก็คือความสุขจากความสำเร็จในงานและการเดินตามความฝัน
ความฝันจะไม่สูญหายไปไหน ตราบใดที่ยังมีความเชื่อว่าสักวันฝันจะเป็นจริง -khwanjai-
บทความนี้เกิดจากการเขียนและส่งขึ้นมาสู่ระบบแบบอัตโนมัติ สมาคมฯไม่รับผิดชอบต่อบทความหรือข้อความใดๆ ทั้งสิ้น เพราะไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นความจริงหรือไม่ ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรอง และหากท่านพบเห็นข้อความใดที่ขัดต่อกฎหมายและศีลธรรม หรือทำให้เกิดความเสียหาย หรือละเมิดสิทธิใดๆ กรุณาแจ้งมาที่ ht.ro.apt@ecivres-bew เพื่อทีมงานจะได้ดำเนินการลบออกจากระบบในทันที