Love

ผู้เขียน : Love

อัพเดท: 10 เม.ย. 2024 15.21 น. บทความนี้มีผู้ชม: 160782 ครั้ง

ท่องเที่ยวไทยไปได้ตลอดปี พบกับข้อมูลงานเทศกาลทั่วประเทศไทย และสถานที่ท่องเที่ยว 77 จังหวัด


ลักษณะภูมิศาสตร์ประเทศไทย

ภาพรวมของประเทศไทย
 
ลักษณะภูมิศาสตร์ประเทศไทย เมืองไทยมีพื้นที่ราว 513,115 ตารางกิโลเมตร มีขนาดใหญ่เป็นชั้นที่ 50 ของโลกรวมทั้งเป็นชั้นที่ 3 ในเอเซียอาคเนย์ รองจากประเทศอินโดนีเซีย (1,910,931 กิโลเมตร2) และก็ประเทศพม่า (676,578 กิโลเมตร2) แล้วก็มีขนาดใกล้เคียงกับประเทศสเปน (505,370 กิโลเมตร2) เยอะที่สุด
 
เมืองไทยมีลักษณะพื้นที่ที่มากมาย ภาคเหนือเป็นหลักที่เทือกเขาสูงซับซ้อน จุดที่สูงที่สุดในประเทศไทยเป็นภูเขาอินทนนท์ใน2,565 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล และก็ยังปกคลุมด้วยป่าดงอันเป็นต้นน้ำที่สำคัญของประเทศ ภาคอีสานโดยมากเป็นหลักที่ของที่ราบสูงวัวราช ภาวะของดินออกจะแห้งและไม่ค่อยเอื้อต่อการเพาะปลูก แม่น้ำเจ้าพระยามีต้นเหตุมาจากแม่น้ำปิงรวมทั้งยมที่ไหลมาบรรจบกันที่ปากน้ำโพ จังหวัดนครสวรรค์ ทำให้ภาคกึ่งกลางเปลี่ยนเป็นที่ราบลุ่มแม่น้ำที่มีความอุดมสมบูรณ์ที่สุดในประเทศ และก็นับว่าเป็นแหล่งปลูกข้าวที่สำคัญแห่งหนึ่งของโลกภาคใต้เป็นส่วนหนึ่งส่วนใดของแหลมไทย-มาเลย์ ประกบด้วยสมุทรทั้งคู่ด้าน มีจุดที่แคบลงในคอคอดกระ แล้วขยายใหญ่เป็นแหลมมลายู ส่วนภาคตะวันตกเป็นซอกเขาแล้วก็แนวแนวเขาซึ่งพิงตัวมาจากด้านตะวันตกของภาคเหนือ
 
แม่น้ำเจ้าพระยาแล้วก็แม่น้ำโขงนับว่าเป็นแหล่งทำการเกษตรที่สำคัญของเมืองไทย การสร้างของภาคอุตสาหกรรมการกสิกรรมควรต้องอาศัยผลิตผลที่เก็บเกี่ยวได้จากแม่น้ำทั้งคู่และก็สาขาทั้งหลายแหล่ อ่าวไทยมีพื้นที่ราวๆ 320,000 ตารางกิโลเมตร รองรับน้ำซึ่งไหลมาจากแม่น้ำเจ้าพระยา แม่น้ำแม่กลอง แม่น้ำบางปะกง และก็แม่น้ำตาปี นับว่าเป็นแหล่งเย้ายวนใจนักเดินทาง ด้วยเหตุว่าน้ำตื้นใสตามแนวริมฝั่งของภาคใต้และก็คอคอดกระ นอกนั้น อ่าวไทยยังเป็นศูนย์กลางด้านอุตสาหกรรมของประเทศ เนื่องจากว่ามีท่าเรือหลักที่สัตหีบ นับได้ว่าเป็นประตูที่จะทำให้เกิดท่าเรืออื่นๆในจังหวัดกรุงเทพมหานคร ภาคใต้มีสถานที่เที่ยวซึ่งเย้ายวนใจนักเดินทางมากมาย นักเดินทางมักเดินทางมาเยี่ยมเสมอ ตั้งแต่จังหวัดภูเก็ต จังหวัดกระบี่ จังหวัดระนอง จังหวัดพังงาจังหวัดตรัง และก็หมู่เกาะตามแนวริมฝั่งของสมุทรอันดามัน
 
เมืองไทยแบ่งได้เป็น 6 ภาค ซึ่งแต่ละภาคมีลักษณะทางภูมิศาสตร์ที่ต่างกันดังต่อไปนี้ ภาคเหนือ มีเทือกเขาสูง โดยจุดสุดยอดเป็น ภูเขาอินทนนท์ซึ่งเป็นแหล่งต้นน้ำที่สำคัญ ภาคอีสาน จำนวนมากเป็นที่ราบสูงแห้ง ไม่เอื้อต่อการเพาะปลูก ภาคกึ่งกลาง เป็นที่ราบลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยามีความอุดมสมบูรณ์ที่สุด ภาคใต้ ติดสมุทรสองฝั่ง มีจุดแคบสุดที่คอคอดกระ ภาคทิศตะวันออก มีชายฝั่งทะเลเรียบขาวแล้วก็โค้งเว้า
ภาคตะวันตก เป็นซอกเขาและก็แนวแนวเขา
ทิศเหนือ ใกล้กับเมียนมาร์แล้วก็ลาว
ทิศตะวันตก ชิดกับสมุทรอันดามันแล้วก็เมียนมาร์
ทิศตะวันออก ชิดกับลาวรวมทั้งเขมร
ทิศใต้ ใกล้กับอ่าวไทยและก็มาเลเซีย
 
ลักษณะอากาศของไทยเป็นแบบเขตร้อน หรือแบบสะวันนา มีอุณหภูมิเฉลี่ย 18-34 °C รวมทั้งมีจำนวนฝนตกเฉลี่ยทั้งปีกว่า 1,500 มม. สามารถแบ่งได้ 3 ฤดู: ระหว่างก.พ.ถึงเมษายนเป็นหน้าร้อน ระหว่างพ.ค.ถึงตุลาคมเป็นหน้าฝน เมืองไทยได้รับอิทธิพลจากลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้จากสมุทรจีนใต้และก็พายุหมุนเขตร้อน ส่วนในพ.ย.ถึงตอนกลางเดือนมี.ค.เป็นหน้าหนาว เมืองไทยได้รับอิทธิพลจากลมมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือจากจีน ส่วนภาคใต้มีสภาพภูมิอากาศแบบป่าดงดิบ ซึ่งมีอากาศร้อนเปียกชื้นตลอดทั้งปี ก็เลยสามารถแบ่งออกได้เป็น 2 ฤดูเป็นหน้าฝนแล้วก็ร้อน โดยฝั่งทิศตะวันออก หน้าร้อนเริ่มตั้งแต่พ.ค.ถึงกันยายน แล้วก็ชายฝั่งตะวันตก หน้าร้อนเริ่มตั้งแต่พ.ย.ถึงม.ย.
 
อ้างอิง:
สถานที่ท่องเที่ยวในประเทศไทย: https://www.lovethailand.org/travel/th/
ที่เที่ยวกรุงเทพ ที่เที่ยวกาญจบุรี ที่เที่ยวยะลา ที่เที่ยวปัตตานี ที่เที่ยวราธิวาส
ประเพณีไทย ประเพณีภาคเหนือ ประเพณีภาคกลาง ประเพณีภาคใต้
อาหารภาคเหนือ ประเทศไทย

บทความนี้เกิดจากการเขียนและส่งขึ้นมาสู่ระบบแบบอัตโนมัติ สมาคมฯไม่รับผิดชอบต่อบทความหรือข้อความใดๆ ทั้งสิ้น เพราะไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นความจริงหรือไม่ ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรอง และหากท่านพบเห็นข้อความใดที่ขัดต่อกฎหมายและศีลธรรม หรือทำให้เกิดความเสียหาย หรือละเมิดสิทธิใดๆ กรุณาแจ้งมาที่ ht.ro.apt@ecivres-bew เพื่อทีมงานจะได้ดำเนินการลบออกจากระบบในทันที