ฤดูหนาว...
สายลมพัดพาหิมะร่วงลงสู่ผืนโลกเปลี่ยนพื้นพิภพให้เป็นสีขาวดุจสำลี ผมนั่งอยู่ในรถทัวร์ที่กว่าครึ่งของรถเต็มไปด้วยคนไทย พวกเรากำลังมุ่งหน้าสู่ปลายทางซึ่งเป็นเนินเขาสูงที่ปกคลุมไปด้วยสีขาวของหิมะ สถานที่นั้นตั้งอยู่บนเขาแห่งหนึ่งในจังหวัดไอจิ
ในช่วงเวลาที่หิมะมีให้เห็นตามสถานที่ต่างๆเป็นโอกาสที่ผมและเพื่อนๆจะมายังลานสกีแห่งนี้ เพื่อลิ้มรสความแปลกใหม่จากกีฬาที่ไม่เคยมีให้เห็นในบ้านเรา สภาพอากาศในตอนนั้นคงห่างจากศูนย์องศาเซลเซียสไม่มากนักแต่ผมกลับไม่รู้สึกหนาว ไม่รู้เพราะว่าเสื้อกันหนาวตัวหนาที่ผมใส่หรือว่าเพราะความตื่นเต้นกันแน่ที่มอบความอบอุ่นให้กับผม เมื่อทุกคนลงจากรถก็พากันเดินไปยังประตูทางเข้าเพื่อไปยังส่วนบริการเช่าชุดและอุปกรณ์การเล่นสกี
มันจะสนุกไหมนะ
เป็นคำถามทีเกิดขึ้นในใจของผมซึ่งไม่เคยเล่นสกีมาก่อนและงานนี้ก็ไม่มีชาวญี่ปุ่นคอยดูแลหรือว่าให้คำปรึกษาด้วย
แต่ก่อนที่ผมจะตอบได้ว่ามันสนุกหรือไม่นั้น ผมต้องตัดสินใจเลือกระหว่าง สกี และ สโนว์บอร์ด ในดินแดนที่ปกคลุมไปด้วยหิมะตอนนี้ กีฬาสองชนิดที่สามารถเล่นได้คือ สกี และ สโนว์บอร์ด ถ้าจะเลือกเล่นทั้งสองอย่างคงเป็นเงินค่าเช่ามากอยู่เหมือนกัน ผมจึงตัดสินใจเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง
สกี แผ่นไฟเบอร์เรียวยาวที่ทนทานสองอัน มีฐานสำหรับวางรองเท้าบูทเพื่อล็อกมันให้ติดกับรองเท้าบูทของเรา อุปกรณ์อีกสองชิ้นคือไม้สกี เรียกกันว่า สกีโพลหรือไม้โพล ใช้สำหรับค้ำยันและบังคับทิศทางเวลาเคลื่อนที่
สโนว์บอร์ด แผ่นไฟเบอร์หนาและยาวหนึ่งชิ้น ด้านบนจะมีฐานรองสองอันสำหรับรองเท้าบูทเพื่อให้ผู้เล่นขึ้นไปยืนบนฐานนั้นแล้วล็อกรองเท้าบูทติดกับบอร์ด ดังนั้นเมื่อล็อกเท้าติดกับบอร์ดทั้งสองข้างแล้วเราจะไม่สามารถขยับขาได้ซึ่งดูแล้ว สกี ดูจะเป็นอิสระในการเล่นมากกว่า
เนื่องจากผมเดินทางมาไกลและไม่เคยเล่นกีฬาประเภทนี้มาก่อน อยากจะเล่นให้ยากสุดขั้ว ผมจึงตัดสินใจเลือกเล่น สโนว์บอร์ด
เวลาที่ผู้เล่นเคลื่อนที่ไปมาสิ่งที่เห็นโดยรอบจะเป็นสีขาวสว่างจากแสงแดดสะท้อนหิมะเข้าสู่ดวงตา เราจึงจำเป็นที่จะต้องมี แว่นตา ใช้สำหรับกันแสงสว่างหรือหิมะเข้าตา อุปกรณ์ที่จำเป็นอื่นๆ เช่น เสื้อโคทกันหิมะซึ่งโดยส่วนใหญ่มักจะกันน้ำด้วยเพื่อไม่ให้ร่างกายเปียกถ้าหิมะละลาย หรือถ้าจะให้ปลอดภัยมากขึ้นก็มีหมวกนิรภัยให้ด้วย
เมื่อทุกอย่างพร้อมแล้วก็เตรียมตัวเดินไปยังกระเช้าที่จะพาเราขึ้นไปยังยอดเขาเพื่อใช้สโนว์บอร์ดไถลลงมากับหิมะ กระเช้าเป็นกระเช้าง่ายๆไม่มีหลังคาหรืออาจจะบอกได้ว่าเหมือนม้านั่งเคลื่อนที่มากกว่าระหว่างทางที่อยู่ในกระเช้าก็ได้ชมทัศนียภาพที่เต็มไปด้วยสีขาวของหิมะและสีครามแห่งนภา ไม่กี่นาทีผมก็มาถึงจุดปล่อยตัว อะไรที่ทำเป็นครั้งแรกมักจะยากเสมอแต่เมื่อชินกับมัน ทุกอย่างก็มักจะผ่านไปได้ด้วยดี ผมใช้เวลาประมาณสองชั่วโมงในการทำความคุ้นเคยกับสโนว์บอร์ด และก็ทำให้สามารถเล่นมันเป็นในระดับหนึ่ง ล้มลุกคลุกคลานอยู่หลายครั้ง ทุกครั้งที่ล้มมันยากที่จะลุก แต่ทุกครั้งที่ลุกขึ้นมาได้มันก็ทำให้เรารู้จักวิธีการเล่นมากยิ่งขึ้น และยังได้เห็นมิตรภาพที่ทุกคนช่วยกันสอน ช่วยกันประคองเพื่อร่วมกันยิ้มรับความสนุกสนานจากกีฬาฤดูหนาวแบบนี้
ลานสกีแห่งนี้ยังมีการจัดโซนที่แตกต่างกันไป เพื่อให้เหมาะสมกับผู้ที่มาเล่น ใครที่มีความชำนาญก็เล่นในแถบภูเขาสูง ใครที่หัดใหม่ก็จะอยู่ในโซนที่ไม่ชันมากนัก แต่ถึงกระนั้นก็มีไม่น้อยที่เดินลากสโนว์บอร์ดกลับลงมาเบื้องล่างเพราะกลัวที่จะต้องล้มลุกคลุกคลาน
เมื่อความสนุกกับกีฬาที่ไม่เคยเล่นมาก่อนจบลง ก็ถึงเวลากลับบ้าน พวกเราโดยสารรถคันเดิมไปพร้อมกับคนญี่ปุ่นบางส่วน เวลารถออกคือ 17.00 น. ทุกคนจำเป็นต้องไปให้ทันเวลา เพราะว่าชาวญี่ปุ่นตรงต่อเวลามาก บางทีแค่เรามาตรงเวลาพอดีก็อาจจะไม่เพียงพอดังนั้นเราควรจะมาถึงก่อนเวลาเล็กน้อย และเมื่อทุกคนในรถพร้อมแล้ว ล้อรถทัวร์ปรับอากาศคันนั้นก็หมุนพาพวกเราออกมาจากลานสกีแห่งนั้น ผมนั่งมองภูเขาที่เต็มไปด้วยหิมะและนึกถึงช่วงเวลาที่ผมพาตัวเองขึ้นลงเขาอยู่หลายรอบพร้อมกับตอบคำถามที่ถามกับตัวเองไว้
มันช่างสนุกจริงๆ
หิมะที่เกาะตามกิ่งไม้ต่างๆค่อยๆร่วงหล่นลงบนพื้นเนื่องจากการขยายตัวของทุกเซลล์ดอกซากุระ ซึ่งมันพยายามดันตัวเองออกมาให้มนุษย์ทุกคนเห็นสีชมพูสดใสของมัน หรือพูดง่ายๆได้ว่าดอกไม้กำลังผลิบานออกมาบอกลาฤดูหนาวที่กำลังจะผ่านออกไป
สมัคร J-Columnist และ J-Reporter
บทความนี้เกิดจากการเขียนและส่งขึ้นมาสู่ระบบแบบอัตโนมัติ สมาคมฯไม่รับผิดชอบต่อบทความหรือข้อความใดๆ ทั้งสิ้น เพราะไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นความจริงหรือไม่ ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรอง และหากท่านพบเห็นข้อความใดที่ขัดต่อกฎหมายและศีลธรรม หรือทำให้เกิดความเสียหาย หรือละเมิดสิทธิใดๆ กรุณาแจ้งมาที่ ht.ro.apt@ecivres-bew เพื่อทีมงานจะได้ดำเนินการลบออกจากระบบในทันที