helenauptight

ผู้เขียน : helenauptight

อัพเดท: 19 ส.ค. 2021 11.29 น. บทความนี้มีผู้ชม: 13102 ครั้ง

บทความทั่วไป เรื่องวสาระรอบตัว


เลือกผ้าม่านอย่างไรไม่ให้พลาด Luxe Decor?ช่วยคุณได้

LUXE-DECOR-SEO-JUN-C02
json validator validate

เมื่อตั้งใจจะติดตั้งผ้าม่านผืนใหม่ หลายๆ ท่านก็ต้องปรึกษาร้านผ้าม่านผู้เชี่ยวชาญก่อน ในเรื่องของขนาดผ้าม่านที่เหมาะสมต่อห้องนั้นๆ ประเภทของม่านที่ต้องเข้ากับสไตล์การตกแต่งบ้าน รวมไปถึงชนิดของผ้าที่เหมาะในการตัดม่านด้วย เพราะในการผลิตผ้าม่านนั้นก็มีการใช้ผ้าหลากหลายชนิด ซึ่งแต่ละชนิดก็มีข้อดีและข้อเสียที่ต่างกันไป ดังนั้น LUXE DÉCOR จึงจะมาบอกถึงชนิดผ้าต่างๆ ที่นิยมใช้ในการผลิตผ้าม่านในปัจจุบันให้ทุกท่านได้ทราบกัน

1. ผ้ากำมะหยี่ (Velvet)

เป็นผ้าที่มีลักษณะหนาแน่นและหนัก สร้างบรรยากาศของความหรูหรากับห้องได้ เพราะเนื้อผ้ามีเสน่ห์ในเรื่องเงาที่เป็นประกาย ซึ่งสมัยก่อนในประเทศแถบยุโรปก็นิยมใช้ผ้าชนิดนี้ตัดเย็บชุดคลุมให้กับพระราชาหรือเชื้อพระวงศ์อีกด้วย นอกจากนี้ผ้าม่านกำมะหยี่ยังสามารถกันแสงแดดได้ดี แถมเนื้อสัมผัสยังนุ่มนวล อย่างไรก็ตามผ้าชนิดนี้จะจับฝุ่นได้ง่าย จึงอาจจะต้องทำความสะอาดบ่อยๆ และจะเสียหายได้หากโดนน้ำหรือสัมผัสความชื้นเป็นจำนวนมากหรือติดต่อกันเป็นเวลานานๆ

2. ผ้าฝ้าย (Cotton)

ผ้าที่มาจากธรรมชาติชนิดนี้นิยมนำมาตัดเย็บผ้าม่าน เพราะเป็นผ้าที่มีความหนาพอเหมาะ มีน้ำหนักทิ้งตัวได้ดี ระบายอากาศภายในห้องได้ดี สามารถใส่สีและลายพิมพ์บนพื้นผิวผ้าได้คมชัด และสามารถนำมาทำความสะอาดได้ง่าย ส่วนข้อเสียของผ้าชนิดนี้คือ เมื่อซักแล้วอาจหดตัวได้ง่าย และมักจะจับฝุ่นได้ง่ายกว่าผ้าชนิดอื่นๆ ทำให้ต้องมีการทำความสะอาดบ่อยพอสมควร

3. ผ้าแจ็คการ์ด (Jacquard)

อาจจะเป็นชนิดผ้าที่เห็นได้ไม่บ่อยนัก ผ้าแจ็คการ์ดเป็นผ้าที่มีเทคโนโลยีการทอลายเข้าไปในเนื้อผ้าโดยตรง ไม่มีการใช้ระบบพิมพ์ลายหรือ “Printing” แต่อย่างใด ผ้าม่านชนิดนี้จึงมีลายทนทาน สวยงามตลอดอายุการใช้งาน ทำให้ผู้ใช้งานไม่ต้องเป็นห่วงว่าการซักจะทำให้ลายหลุดลอกหรือซีดหาย และยังเป็นผ้าอีกหนึ่งชนิดที่ระบายความร้อนได้ดี สามารถใช้งานกับสภาพอากาศที่ร้อนอบอ้าวของเมืองไทย

4. ผ้าไหม (Silk)

หลายท่านน่าจะเคยเห็นชุดผ้าไหมไทย ที่เป็นเอกลักษณ์โด่งดังไปทั่วโลก เพราะสัมผัสที่นุ่มสบายและลวดลายอันสวยหรู เมื่อนำมาผ้าไหมมาใช้เป็นผ้าม่านก็จะทำให้บ้านดูดีมีระดับ แต่ราคาก็อาจจะสูงหากเป็นผ้าไหมแท้ และไม่สามารถทนแดดจัดได้นานหรือเกิดรอยด่างหากโดนน้ำ แต่ถึงเป็นเช่นนั้น ผ้าไหมก็ถูกนำไปประยุกต์ใช้กับเครื่องนุ่งห่มและการตกแต่งภายใน สะท้อนถึงวัฒนธรรมอันงดงามของประเทศไทยนั่นเอง

5. ผ้าลินิน (Linen)

ผ้าลินินเป็นชนิดผ้าที่ทำจากเส้นใยธรรมชาติเหมือนกับผ้าฝ้าย แต่จะมีความแตกต่างกันที่วัตถุดิบ และเพราะผ้าลินนินจะมีเส้นใยที่เหนียว จึงทำให้มีความทนทาน ดูดความชื้นจากอากาศได้ และมีคุณสมบัติคล้ายกับผ้าฝ้ายที่สามารถถ่ายเทอากาศได้อย่างดีเยี่ยม แต่ก็มีข้อเสียตรงที่ยับง่ายเมื่อใช้เป็นเวลานาน หากต้องการให้กลับมาเรียบเหมือนเดิมก็ต้องถอดออกมารีดเสมอ

6. ผ้าใยสังเคราะห์โพลีเอสเตอร์ (Polyester)

เป็นผ้าที่ได้รับความนิยมสูงมากในร้านผ้าม่านปัจจุบัน เนื่องจากไม่จับฝุ่น รักษารูปทรงได้ดีจึงไม่ยับง่ายหรือเกิดการยืดหดจากการซัก ไม่จำเป็นต้องทำความสะอาดบ่อยและหากติดตั้งกับรางผ้าม่านไฟฟ้าจะยิ่งสะดวกต่อการใช้งาน ผ้าโพลีเอสเตอร์สามารถตัดเย็บได้ทั้งแบบลายพิมพ์และการทอลายในตัว เหมาะสำหรับการตกแต่งภายในเป็นอย่างยิ่ง

7. ผ้าไหม (Silk)

หลายท่านน่าจะเคยเห็นชุดผ้าไหมไทย ที่เป็นเอกลักษณ์โด่งดังไปทั่วโลก เพราะสัมผัสที่นุ่มสบายและลวดลายอันสวยหรู เมื่อนำมาผ้าไหมมาใช้เป็นผ้าม่านก็จะทำให้บ้านดูดีมีระดับ แต่ราคาก็อาจจะสูงหากเป็นผ้าไหมแท้ และไม่สามารถทนแดดจัดได้นานหรือเกิดรอยด่างหากโดนน้ำ แต่ถึงเป็นเช่นนั้น ผ้าไหมก็ถูกนำไปประยุกต์ใช้กับเครื่องนุ่งห่มและการตกแต่งภายใน สะท้อนถึงวัฒนธรรมอันงดงามของประเทศไทยนั่นเอง

จากประสบการณ์กว่า 20 ปีในวงการอสังหาริมทรัพย์ ของคุณอภิรัฐ พิพัฒน์วัฒนารมย์ ทำให้บริษัท LUXE DÉCOR มีเป้าหมายและความมุ่งมั่นในการที่จะดำเนินกิจการของบริษัทฯ ให้อยู่ในระบบบริหารคุณภาพ เพื่อให้ผู้บริโภคได้รับสิ่งที่ดีที่สุด ด้วยสินค้าคุณภาพ และ ประสิทธิภาพการบริการอย่างมืออาชีพ เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างดี และ มีการพัฒนาเพื่อธุรกิจที่ยั่งยืน

 

บทความนี้เกิดจากการเขียนและส่งขึ้นมาสู่ระบบแบบอัตโนมัติ สมาคมฯไม่รับผิดชอบต่อบทความหรือข้อความใดๆ ทั้งสิ้น เพราะไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นความจริงหรือไม่ ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรอง และหากท่านพบเห็นข้อความใดที่ขัดต่อกฎหมายและศีลธรรม หรือทำให้เกิดความเสียหาย หรือละเมิดสิทธิใดๆ กรุณาแจ้งมาที่ ht.ro.apt@ecivres-bew เพื่อทีมงานจะได้ดำเนินการลบออกจากระบบในทันที