Robertty

ผู้เขียน : Robertty

อัพเดท: 19 ธ.ค. 2022 12.35 น. บทความนี้มีผู้ชม: 7517 ครั้ง

เงินเฟ้อสูงขึ้น หุ้นกลุ่มไหนได้รับประโยชน์จากการขึ้นของเงินเฟ้อครั้งนี้บ้าง?

อัตราเงินเฟ้อพุ่งสูงจนทำให้ธนาคารกลางหรือ Fed ต้องปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างรวดเร็ว ทำให้การลงทุนในปีนี้ผันผวนมาก การลงทุนในช่วงที่ภาวะเงินเฟ้อขึ้นนี้ กลุ่มหุ้นหลายๆ กลุ่มก็มีผลกระทบที่ต่างกัน แล้วกลุ่มไหนบ้างที่ได้รับประโยชน์จากความเปลี่ยนแปลงครั้งนี้?

STARTRADER ได้ทำการสรุปกลุ่มหุ้นที่ได้ประโยชน์จากการที่เงินเฟ้อสูงขึ้น เช่นหุ้นกลุ่มธนาคารพาณิชย์ ประกันภัย กลุ่มอุปโภคบริโภค ทองคำ และภาคพลังงานที่อาจได้รับประโยชน์จากอัตราเงินเฟ้อที่สูงและอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้น

กลุ่มหุ้นธนาคาร

เงินเฟ้อนั้นมีผลต่อดอกเบี้ยนโยบาย ซึ่งส่งผลตรงต่อธนาคารเนื่องจากรายได้ของธนาคารมาจากดอกเบี้ยในการปล่อยสินเชื่อ การที่อัตราดอกเบี้ยสูงขึ้นเนื่องจากผลกระทบของเงินที่เฟ้อขึ้น ทำให้ธนาคารมีการปรับดอกเบี้ยเงินกู้ให้สูงขึ้นเพื่อเพิ่มส่วนต่างของรายได้ดอกเบี้ยสุทธิ นอกจากนี้ธนาคารยังได้รับประโยชน์จากการใช้จ่ายบัตรเครดิตที่เพิ่มขึ้นของผู้บริโภคเนื่องจากราคาสินค้าบริโภคที่สูงขึ้น

กลุ่มหุ้นประกันภัย

บริษัทประกันภัยมีการนำเบี้ยประกันของลูกค้าไปลงทุนเพื่อสร้างผลตอบแทน ส่วนมากก็จะอยู่ในสินทรัพย์ที่ไม่ได้มีความเสี่ยงสูงมากนักอย่างพันธบัตรและหุ้นกู้ การที่อัตราเงินเฟ้อมีการสูงขึ้นนําไปสู่อัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้นสามารถช่วยเพิ่มผลกําไรของบริษัทประกันภัยได้ เงินที่บริษัทประกันนำไปลงทุนใหม่ (Reinvest) จะได้ผลตอบแทนสูงในช่วงภาวะเงินเฟ้อ


เจาะลึกวงการ ?Cryptocurrency? เทรดอย่างไรให้ปลอดภัย ไม่ถูกโกง

 

 

 

หลังจากข่าวการล้มสลายของ ราชาคริปโตอย่าง FTX ออกมา ทำให้ส่งผลกระทบเป็นอย่างมากสำหรับวงการคริปโตฯ การเทรดในวงการนี้มีความผันผวนค่อนข้างสูงและยังไม่สามารถใช้ชำระหนี้ได้ตามกฎหมายดังเช่นสกุลเงินทั่วไป ในปัจจุบันหลายๆบริษัทได้นำ Cryptocurrency มาปรับใช้ทางการเงิน เช่น การรับชำระค่าสินค้าด้วยบิตคอยน์ หรือสกุลเงินดิจิทัลอื่นๆ

 

คริปโตเคอร์เรนซี (Cryptocurrency) คือ สินทรัพย์ดิจิทัล (Digital Asset) ประเภทหนึ่งที่มีการรักษาความปลอดภัยด้วยการเข้ารหัส ได้รับการออกแบบมาเพื่อเป็นสื่อกลางในการแลกเปลี่ยนสินทรัพย์โดยใช้การเข้ารหัส (Cryptography) ในการป้องกันและยืนยันธุรกรรม มูลค่าของคริปโตฯ จะแปรผันตามอุปสงค์ (Demand) และอุปทาน (Supply) ของตลาด ยิ่งเหรียญนั้นมีความต้องการมาก ราคาก็จะสูงขึ้นตามไปด้วย ยิ่งถ้าเป็นเหรียญที่มีจำกัดอย่าง “บิตคอยน์” เพียง 21 ล้านเหรียญ ก็จะยิ่งมีมูลค่าสูงขึ้น

 

หลักการทำงานของ Cryptocurrency

 

Cryptocurrency ทำงานบนเทคโนโลยีเครือข่าย ที่เรียกว่า “บล็อกเชน” (Blockchain) ซึ่งเป็นเทคโนโลยีกระจายศูนย์ หรือ Distributed Ledger Technology ทำให้ทุกคนสามารถร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการรับรองความถูกต้องของข้อมูล การมีอยู่ของเหรียญคริปโตแต่ละเหรียญนั้น จะถูกบันทึกข้อมูลไว้เป็นหลักฐานว่า “ใครเป็นเจ้าของ” เหรียญนั้น ๆ โดยจะเป็นการบันทึกร่วมกันของผู้ที่เกี่ยวข้องในเครือข่ายดังกล่าว เมื่อมีการบันทึกข้อมูลในแต่ละชุด ตัวระบบ Blockchain จะมีการส่งสัญญาณหากันในเครือข่าย เพื่อให้ทุกคนในเครือข่ายรับรู้และรับรองความต้องถูกต้องของธุรกรรม ข้อมูลแต่ละชุดนั้นจะมีการเข้ารหัสหรือที่เรียกว่า “Cryptography” ไว้

การเริ่มเทรด STARTRADER Cryptocurrency เทรดเดอร์ควรเทรดผ่านโบรกเกอร์ที่อยู่ภายใต้การกำกับดูแลขององค์กรการเงินระหว่างประเทศ และควรมีการตรวจสอบใบอนุญาติอย่างละเอียดก่อนเริ่มการลงทุน

 

เทรดอย่างไรให้ปลอดภัย

 

ข้อควรรู้ก่อนเลือกลงทุนในตลาดคริปโตเคอร์เรนซี 

– รู้จักตัวเอง เทรดเดอร์ควรเข้าใจตนเองและมีเป้าหมายที่ชัดเจนในการลงทุน กำหนดแนวทางการลงทุนและรู้วิธีบริหารความเสี่ยง 

– ศึกษาตลาดและแนวทางการลงทุน เนื่องจากการเทรดคริปโตมีระบบเทคโนโลยีบล็อกเชนมาเกี่ยวข้องในการเทรด ความรู้พื้นฐานและความเข้าใจในระบบจึงเป็นสิ่งจำเป็นในการลงทุน ซึ่งอาจจะช่วยให้เทรดเดอร์ ทำการเทรดง่ายขึ้น

รู้จักวิธีการลงทุน การศึกษารูปแบบการลงทุนหลายๆ แบบ เป็นอีกทางหนึ่งที่ช่วยให้ผู้ลงทุนมองเห็นภาพชัดเจนมากขึ้น 

– อัพเดทข่าวสารอย่างสม่ำเสมอ

– ควรเลือกลงทุนและซื้อขายกับโปรกเกอร์ที่น่าเชื่อถือและได้รับใบอนุญาตจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) 

– แพลตฟอร์มที่ใช้ซื้อขายควรมีลักษณะที่ใช้งานได้ง่าย สามารถให้ข้อมูลได้ครบถ้วน มีระบบบริการลูกค้าที่ดี และสามารถให้คุณเข้าถึงสินทรัพย์ในกระเป๋าของคุณเองได้ตลอดเวลา

– ผลตอบแทนที่สูงมากจนเกินไปมาคู่กับความเสี่ยงสูงเช่นกัน

– อุปกรณ์ที่เข้าใช้บริการแพลตฟอร์ม ควรแยกกับเครื่องอื่น ๆที่ใช้งานในชีวิตประจำวัน เพื่อปลอดภัยในการโอนเงินเข้าออกกระเป๋าเงิน

– ระวังเหรียญแปลก ๆ ที่เข้ามาในกระเป๋า 

 

การเทรด Cryptocurrency โดยที่ยังไม่รู้กลไกของตลาดอย่างชัดเจน อาจจะทำให้เกิดการสูญเสียได้ง่าย การลงทุนแต่ละครั้งควรเริ่มจากเงินเล็กๆน้อยๆ เป็นเงินเย็นที่พร้อมที่จะเสี่ยงในการเทรด

 

 

 

 

 


บทความนี้เกิดจากการเขียนและส่งขึ้นมาสู่ระบบแบบอัตโนมัติ สมาคมฯไม่รับผิดชอบต่อบทความหรือข้อความใดๆ ทั้งสิ้น เพราะไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นความจริงหรือไม่ ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรอง และหากท่านพบเห็นข้อความใดที่ขัดต่อกฎหมายและศีลธรรม หรือทำให้เกิดความเสียหาย หรือละเมิดสิทธิใดๆ กรุณาแจ้งมาที่ ht.ro.apt@ecivres-bew เพื่อทีมงานจะได้ดำเนินการลบออกจากระบบในทันที