ในปัจจุบันมีหลายท่านที่ประสบกับปัญหาผมร่วง ผมบาง และทำให้เป็นกังวล รวมถึงสูญเสียความมั่นใจ เสียบุคลิก แต่ตอนนี้สิ่งเหล่านี้สามารถแก้ไขได้โดยการปลูกผมถาวร ใช้การปลูกผม FUE ในบทความนี้จะมีการเปรียบเทียบการปลูกผมแบบอื่น ๆ เช่น การปลูกผม FUE กับ FUT ต่างกันอย่างไรไปปลูกผม FUE ที่ไหนดี ปลูกผมเจ็บไหม รวมถึงข้อดี ข้อเสีย มาให้คุณเปรียบเทียบอีกด้วย
hair transplant คือการศัลยกรรมผิวหนังเพื่อแก้ไขปัญหาศีรษะล้าน หรือการปลูกผมนั่นเอง โดยปลูกผม FUE ก็เป็นการปลูกผมถาวรชนิดหนึ่งซึ่งใช้การปลูกถ่ายเซลล์รากผมลงไปบริเวณที่ต้องการ หรือที่ผมร่วง ผมบาง เพื่อทำให้บริเวณนั้นมีเซลล์รากผมถาวรไม่เกิดการหลุดร่วงซ้ำ แผลที่ได้จากการการปลูกผม FUE จะมีขนาดเล็กอย่างมาก เมื่อแผลหายแล้วจะสามารถแสกผมหรือโกนผมได้โดยไม่เห็นรอยแผลแบบชัดเจน
หลักการทำงานของการปลูกผม FUE คือการปลูกผมถาวรโดยนำอวัยวะใหม่ ซึ่งก็คือ เซลล์ต้นกำเนิดผม ปลูกลงไปที่ตำแหน่งใหม่บนศีรษะ โดยเซลล์กำเนิดนี้จะยึดกับเนื้อเยื่อโดยรอบ ทำให้ผมที่งอกมาใหม่จะติดอยู่กับตำแหน่งที่ต้องการ ซึ่งสามารถช่วยแก้ปัญหาผมร่วง ผมบางได้
ข้อแตกต่างการปลูกผมแบบ FUE, FUT, DHI, และ Longhair
การปลูกผมแบบ FUE ช่วยแก้เรื่องผมร่วง ผมบางได้และเป็นการปลูกผมถาวรที่แผลผ่าตัดจะมีขนาดที่เล็กอย่างมาก เพราะตอนที่นำเซลล์รากผมออกมาการปลูกผม FUE จะเจาะแค่ส่วนที่ต้องการเท่านั้น
การปลูกผมแบบ FUT เซลล์รากผมนั้นได้จากการตัดส่วนหนึ่งของหนังศีรษะออก แล้วนำผิวหนังนั้นมาแยกเซลล์รากผมออก ดังนั้นการปลูกผม FUT จะทิ้งรอยแผลไว้มากกว่าปลูกผมถาวร FUE
การปลูกผมแบบ DHI จะเหมือนกับแบบ FUE ทุกอย่าง ต่างแค่เพียงวิธีปลูกรากผมลงไป การปลูกผม DHI จะใช้ปากกาปลูกผมหรือ Implanter เจาะหนังศีรษะและปลูกรากผมลงไป
การปลูกผม Long Hair แพทย์จะทำการเจาะรากผมออกมาตอนที่ผมยาวอยู่ ทำให้มองไม่เห็นแผลจากการผ่าตัดและไม่ต้องพักฟื้นรอให้ผมงอก
• ปลูกผม FUE เหมาะกับผู้มีปัญหาผมร่วง ผมบางบริเวณกลางศีรษะ
• ปลูกผม FUE เหมาะกับผู้มีปัญหาในเรื่องหัวล้าน หัวเถิก หรือหน้าผากกว้าง
• ปลูกผม FUE เหมาะกับผู้ต้องการปรับเปลี่ยนโครงหน้า
• ปลูกผม FUE เหมาะกับผู้มีรอยแผลตรงศีรษะ
โดยถ้าคุณสนใจการปลูกผม FUE ซึ่งเป็นการปลูกผมถาวรควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อเลือกวิธีการปลูกผมที่เหมาะสมที่สุดในแต่ละบุคคลมากที่สุด
• ปลูกผม FUE เป็นการผลูกผมถาวร ดังนั้นผู้เข้ารับการรักษาจะได้ผมใหม่ที่เหมือนกับผมจริง
• ผมจะเป็นธรรมชาติ และไม่มีรอยแผลเป็นจากการทำ
• ผมที่ผ่านการปลูกผมจะแข็งแรงกว่าเดิม ไม่หลุดร่วงง่าย
• แก้ปัญหาผมร่วง ผมบางได้อย่างตรงจุด
• การปลูกผม FUE จะทำให้ผมส่วนที่ถูกย้าย ไม่มีผมใหม่ขึ้นมาแทน
• ต้องใช้พื้นที่ในการปลูกผมจำนวนมากกว่าจำนวนผมที่ท้ายทอยมี
• ปลูกผม FUE ไม่ขึ้นสามารถเกิดขึ้นได้ ดังนั้นผมที่นำมาปลูกต้องแข็งแรง ไม่เช่นนั้นผมใหม่ที่ปลูกจะขึ้นน้อยและบาง
การดูแลผม และการทำความสะอาดแผล
ขั้นตอนการสระผมมีดังนี้
การนอน
หลังจากทำการผ่าตัด ควรนอนหงายหรือนอนตะแคง และใช้ที่คาดศีรษะหรือหมอนรองคอรูปทรงตัวยู เพื่อประคองไม่ให้แผลกระทบกับหมอนในตอนที่หลับน้อยที่สุด และป้องกันไม่ให้เกิดการกดทับของแผลที่ท้ายทอย
การออกกำลังกาย
หลังจากที่ผ่าตัดแล้ว ไม่ควรออกกำลังกาย เพราะถ้าร่างกายได้รับการกระทบกระเทือนจากการออกกำลังกายสามารถทำให้รากผมในบริเวณที่ปลูกหลุดออกได้
การใช้ชีวิตประจำวัน
สำหรับการใช้ชีวิตประจำวันต้องระวังไม่ให้ศีรษะได้รับความกระทบกระเทือนเช่นกัน และพยายามไม่ให้ศีรษะกระทบโดนของแข็ง รวมทั้งไม่ควรก้มศีรษะ และงดอยู่ในในชุมชนแอดอัดหรทอที่ๆมีฝุ่นควันมาก
การทานอาหาร
หลังการที่ผ่าตัดสามารถทำให้เกิดอาการคลื่นไส้ อาเจียนได้ และควรรับประทานอาหารอ่อนๆ อีกทั้งไม่ควรดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิด หลังจากผ่าตัด 48 ชั่วโมง
อย่างที่ทราบกันไปแล้วว่าปลูกผม FUE ช่วยแก้เรื่องผมร่วง ผมบางได้ดี ทั้งนี้ปลูกผม FUE ราคาเริ่มต้นโดยประมาณจะอยู่ที่ 30,000 บาท ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับจำนวน ‘กราฟท์’ ซึ่งใช้สำหรับปลูกผม โดยจะเฉลี่ยอยู่ที่กราฟท์ละ 50 - 100 บาท โดยประมาณ
สำหรับในทางการปลูกผม FUE กราฟท์ จะหมายถึง การกอรากผม โดยปลูกผม 1 กราฟคือกราฟท์นึงจะมีผมอยู่ 1-4 เส้น หนึ่งกราฟท์จะปลูกผมได้หนึ่งตำแหน่งซึ่งจะไม่ขึ้นอยู่กับจำนวนเส้นของแต่ละกราฟท์ ฉะนั้นก่อนที่จะปลูกผมควรประเมินก่อนว่าจุดที่ต้องการจะปลูกผมถาวรควรใช้ผมประมาณกี่กราฟท์ ซึ่งผมในแต่ละจุดจะมีจำนวนของกราฟท์ที่ไม่เท่ากัน รวมถึงความหนาของผมในแต่ละจุดเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่แพทย์จะต้องพิจารณา
ในปัจจุบันการปลูกผม FUE เป็นอีกหนึ่งวิธีการปลูกผมถาวรที่ได้รับความนิยมอย่างมาก เพราะสามารถแก้ปัญหาผมร่วง ผมบางได้ตรงจุด และใช้เวลาในการพักฟื้นไม่นาน แผลเล็ก และยังมีโอกาสที่จะติดเชื้อน้อย ซึ่งผลลัพธ์จากการปลูกผม FUE จะออกมามีความเป็นธรรมชาติ โดยถ้าผู้ที่สนใจควรไปศึกษาข้อมูลเพิ่มเติม โดยการอ่านรีวิวปลูกผม FUE หรือปรึกษาแพทย์เพื่อขอคำแนะนำเพื่อจะสามารถเลือกวิธีการปลูกผมที่เหมาะสมกับตัวเองที่สุด
บทความนี้เกิดจากการเขียนและส่งขึ้นมาสู่ระบบแบบอัตโนมัติ สมาคมฯไม่รับผิดชอบต่อบทความหรือข้อความใดๆ ทั้งสิ้น เพราะไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นความจริงหรือไม่ ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรอง และหากท่านพบเห็นข้อความใดที่ขัดต่อกฎหมายและศีลธรรม หรือทำให้เกิดความเสียหาย หรือละเมิดสิทธิใดๆ กรุณาแจ้งมาที่ ht.ro.apt@ecivres-bew เพื่อทีมงานจะได้ดำเนินการลบออกจากระบบในทันที