enfahrung

ผู้เขียน : enfahrung

อัพเดท: 11 พ.ค. 2007 00.00 น. บทความนี้มีผู้ชม: 6239 ครั้ง

ญี่ปุ่น...นอกจากจะเป็นหัวห่านในเชิงอุตสาหกรรมแล้ว ยังเป็นนักเล่าเรื่องตัวยง ที่เพิ่มมูลค่าสินค้า ได้มากอย่างน่าประหลาดใจ....


นักเล่านิทานแห่งแดนอาทิตย์อุทัย


 คงจะไม่มีใครปฏิเสธว่า ญี่ปุ่นเป็นชาติมหาอํานาจในโลกอุตสาหกรรม และเทคโนโลยี มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับสองของโลกรองจากเมืองลุงแซม มีบริษัทยักษ์ใหญ่หลายราย ในอุตสาหกรรมไฮเทคหลากหลายประเภท ตั้งแต่ของเด็กเล่นไปจนถึงเตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์ 
 ที่กล่าวมาทั้งหมดนั้นเป็นเพียงส่วนหนึ่งที่แสดงถึงความยิ่งใหญ่และประสบความสําเร็จของญี่ปุ่นเท่านั้น อุปกรณ์ไฮเทคและเทคโนโลยีลําสมัย ที่เราประเทศไทย ซึ่งไม่มีความชํานาญในสายเลือด จะให้ไล่ตามญี่ปุ่นทันตามทฤษฏี ขั้นบันไดที่หลายคนเคยพูดถึงดูจะเป็นเรื่องไร้สาระสิ้นดี
แต่หากมองอีกด้านหนึ่งของญี่ปุ่น ญี่ปุ่นไม่ได้มีดีแค่เทคโนโลยี หากแต่ยังมีความสามารถในการเล่าเรื่องราว ถ่ายทอดวัฒนธรรมออกมา ในรูปผลิตภัณฑ์ส่งออกไปทั่วโลก

 ผลิตภัณฑ์ของญี่ปุ่นมีทั้ง Functional และ Emotional ในส่วนของFunctional เราอาจจะไม่สามารถเทียบเคียงได้ ทั้งในชาตินี้และชาติหน้า แต่ส่วนของ Emotional เราสามารถแซงหน้าได้สบายเพราะเรามีดี หากขาดแต่ความสามารถในการเล่าเรื่องราว เพื่อเพิ่มมูลค่าของสินค้าเท่านั้น 

 ก่อนอื่นขอแนะนําให้ผู้อ่าน ชมรายการ Cooking Showdown ทาง UBC จะเห็นได้เลยว่า ความสามารถในการเล่าเรื่องราว ที่ทําให้สินค้าของเขานั้นมีความน่าสนใจ และเป็นการเพิ่มมูลค่าสินค้าได้อย่างเห็นได้ชัด ในรายการจะเป็นการแข่งทําอาหารของพ่อครัวที่ทางรายการเชิญมา 2 คน โดยทําอาหารที่แตกต่างกันคนละ1อย่าง ประเด็นสําคัญคือพ่อครัวทั้งสองจะได้วัตถุดิบพิเศษ คนละอย่าง ซึ่งอาจจะเป็น หัวหอม เกลือ นําตาล นม หรืออะไรก็แล้วแต่อาหารที่พ่อครัวทั้งสองจะปรุง วัตถุดิบที่ว่ามาก็เห็นๆกันอยู่ว่าไม่มีอะไรที่แปลก วิจิตรพิศดารเลยแม้แต่น้อย แต่คนญี่ปุ่นไม่คิดอย่างนั้น...
 สิ่งที่นําเสนอกลับเป็นว่า หัวหอมจากไซตามะ มีกรรมวิธีการปลูกที่อาศัยความรักจากเจ้าของ ทุ่มเทให้ได้หอมหัวโตๆ กรอบและชุ่มฉํา ทั้งๆที่ดูแล้วก็ไม่ต่างจากหอมจากเมืองจีนซักเท่าไหร่
 แม้แต่เกลือก็สร้างเรื่องราวว่ามาจากชิบะ บริสุทธิ์ มีแร่ธาตุมากกว่าปกติ
นําตาลก็หีบมาจากอ้อยสดๆ เป็นฝีมือเฉพาะตระกูลที่สืบทอดกันมาหลายชั่วอายุคน นมก็พาไปดูที่ฟาร์ม ดูการรีดนมสดๆ ดูวิธีการเลี้ยงดู และความสดในการจําหน่ยผลิตภัณฑ์ ให้เป็นนีชโปรดักท์ และทั้งหมดก็ขายในราคาที่สูงกว่าของที่มาจากโรงงานที่ผลิตกับแบบแมส ทําให้อาหารถึงรสชาติจะเหมือนกับที่โรงงานใหญ่ๆทําออกมาแต่ เมื่อรวมกับความรู้สึกที่ถูกถ่ายทอดออกมาจากการเล่าเรื่องชั้นยอดด้วยแล้ว แน่นอนว่าคุณจะเลือกเหมือนผมแน่ๆ....

 นี่กระมังวิธีช่วยให้ผู้ผลิตรายเล็กรายย่อยของเขาลืมตาอ้าปากได้ โดยการส่งเสริมอย่างเป็นขั้นเป็นตอน รายการนี้ส่งออกไปทั่วโลก ส่งเสริมกิจการขนาดเล็กขนาดย่อม ขายอาหาร+Emotional  เพิ่มมูลค่าสินค้าจากการเล่าเรื่องราว 
 จะว่าไปแล้วเมืองไทยกลับมีศักยภาพที่สูงกว่าในแง่ของวัตถุดิบ ที่แน่นอนว่าเราสามารถทําของดีๆจากภูมิปัญญาเราได้อีกมากมาย เพราะมันเป็นสายเลือดที่หล่อเลี้ยงชีวิตเรามาแต่ช้านาน เป็นความถนัดของเรา เพียงส่งเสริมการเล่าเรื่อง สร้างเรื่องราว ใส่Emotional ให้สินค้า ก็จะเป็นการช่วยส่งเสริมกิจการเล็กๆให้แข่งขันได้ แม้จะยังมีปัจจัยอื่นอีกมากแต่ก็ยังดีกว่าไม่ทําอะไรเลย
 
 

บทความนี้เกิดจากการเขียนและส่งขึ้นมาสู่ระบบแบบอัตโนมัติ สมาคมฯไม่รับผิดชอบต่อบทความหรือข้อความใดๆ ทั้งสิ้น เพราะไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นความจริงหรือไม่ ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรอง และหากท่านพบเห็นข้อความใดที่ขัดต่อกฎหมายและศีลธรรม หรือทำให้เกิดความเสียหาย หรือละเมิดสิทธิใดๆ กรุณาแจ้งมาที่ ht.ro.apt@ecivres-bew เพื่อทีมงานจะได้ดำเนินการลบออกจากระบบในทันที